Mission Impossible ภาค 7 เป็นหนังเรื่องแรก ๆ ในช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดที่ต้องพักกองถ่ายทำ ซึ่งสำหรับเรื่องนี้นั้นมีแผนจะถ่ายช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่เมืองมิลานที่ประเทศอิตาลี ชนิดที่นักแสดงและทีมงานทั้งหมดเดินทางไปถึงพร้อมจะถ่ายทำแล้ว แต่ก็ต้องขึ้นเครื่องบินกลับสหรัฐฯ หมด เพราะเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักที่อิตาลี ณ เวลานั้นพอดี แต่ในตอนนี้ หนังกำลังจะกลับมาถ่ายทำต่อแล้วในสหราชอาณาจักร และก็มีรายงานออกมาว่า Tom Cruise และนักแสดงของเรื่อง จะเป็น “บุคคลอภิสิทธิ์” ที่ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ตามข้อบังคับในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

Tom Cruise นอกจากจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลในฐานะนักแสดงฮอลลีวูดแล้ว สถานะทางการเมืองระหว่างประเทศของเขาก็ไม่น้อยหน้าใคร ในรายงานข่าวยังระบุว่า แนวทางปฏิบัติที่ทีมนักแสดงเรื่องนี้ ไม่ต้องกักตัวเป็นข้อตกลงระหว่าง Oilver Dowden รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของอังกฤษกับ Tom Cruise ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยกองถ่ายของหนังจะกลับมาไปทำได้ตามปกติที่เมือลีฟเดนส์ ซึ่งเป็นสตูดิโอหนังของค่าย Warner Brothers ที่ตั้งอยู่ใกล้ลอนดอน

ที่ต้องบอกว่า นี่คือกลุ่มบุคคลอภิสิทธิ์ ก็เพราะอย่างที่รู้กันว่า สหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิดอย่างรุนแรง และผู้เดินทางมาจาสหรัฐฯ ก็ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้เดินทางจะถูกบังคับให้กักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินทางเข้าสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนรัฐบาลของสหราชอาณาจักรจะชั่งใจแล้วถึงผลประโยชน์ในการเรียกความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากกว่าความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิดหนักอีกรอบ รัฐมนตรีวัฒนธรรมกล่าวในแถลงการณ์ว่า ข้อยกเว้นนี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์กลับมาเดินหน้าอีกครั้งและช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้

Tom Cruise, Angela Bassett, Christopher McQuarrie, Henry Cavill, Rebecca Ferguson, Jake Myers, Simon Pegg, Michelle Monaghan, and Vanessa Kirby at an event for Mission: Impossible - Fallout (2018)
ทีมนักแสดงและทีมงานที่เข้าอังกฤษได้เลย โดยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วัน
Tom Cruise เตรียมกลับมาแสดงฉากเสี่ยงตายอีกครั้งเร็ว ๆ นี้

Tom Cruise และทีมนักแสดง รวมถึงทีมงานของกองถ่าย ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับข้อยกเว้นจะต้องอาศัยและทำงานภายในบริเวณที่ได้รับการควบคุมและมีการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และจะต้องปฏิบัติตามแนวทางจัดการความเสี่ยงของโควิด-19 ที่กำหนดโดย British Film Commission เพื่อแบ่งแยกทีมงานกับประชาชนทั่วไปด้วย

หนังจะถ่ายทำต่อเนื่องกันไปเลยทั้งภาค 7 และภาค 8 ออกฉายปี 2021 (19 พฤศจิกายน) และ 2022 ถ้าไม่เลื่อนออกไปเสียก่อนเพราะกลับไปถ่ายไม่ทันกำหนดฉาย หนังมีนักแสดงอีกมากมายนอกจาก Tom Cruise ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงทีมเดิมของแฟรนไชส์นี้ที่กลับมาเกือบหมด ทั้ง Ving Rhames, Simon Pegg, Rebecca Ferguson และ Vanessa Kirby

Tom Cruise, Ving Rhames, Rebecca Ferguson, and Simon Pegg in Mission: Impossible - Fallout (2018)
ทีมนักแสดงที่มีบทบาทต่อเนื่องมาตั้งแต่ภาค 5 จะกลับมากันหมด

นอกจากนี้ยังมี Esai Morales จากซีรีส์ Titan มารับบทเป็นตัวร้าย, Pom Klementieff จาก Guardians of the Galaxy Vol.2, Shea Whigham จาก Firstman รวมถึง Henry Czerny ผู้เคยรับบทหัวหน้าองค์กร IMF ของอีธาน ฮันท์ในภาคแรกสุด ปี 1996 อย่าง “คิททริจด์” ก็จะกลับมารับบทเดิมด้วย รวมถึง Hayley Atwell หรือ “เอเจนต์คาร์เตอร์”  ขวัญใจของกัปตันอเมริกา ที่เธอก็ได้โพสต์ภาพด้านหลังให้เห็นกล้ามเนื้อที่เกิดจากการเตรียมตัวเพื่อมารับบทที่ยังไม่มีการเปิดเผยในหนังเรื่องนี้ด้วย

https://www.instagram.com/p/CCTf2aRAQqu/?fbclid=IwAR2GFE6vZihgAOLkYQqlKRHG6j8vQWfP5uPFWFrfmL84Bfny1WVqz4C6k5s

และเมื่อไม่นานนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับ Christopher McQuarrie ผู้กำกับของ Mission Possible ตั้งแต่ภาค 5 ถึงภาค 8 และ Tom Cruise เกี่ยวกับหนัง Jack Reacher อีกแฟรนไชส์หนังแอ็กชันเกี่ยวกับทหารที่ถูกไล่ออกจากราชการที่ผดุงความยุติธรรม ที่มีออกมาแล้ว 2 ภาคและไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร McQuarrie ยอมรับว่า เคยมีการพูดคุยกับ Tom Cruise เพื่อสร้างภาค 3 ให้เป็นเวอร์ชันเรต R ที่มีความรุนแรงอย่างหนักหน่วงและมากกว่า 2 ภาคแรก

Tom Cruise and Christopher McQuarrie at an event for Mission: Impossible - Fallout (2018)
Tom Cruise และ Christopher McQuarrie

แต่เพราะในตอนปี 2015 เขาติดพันกับการสร้างหนัง MI ภาค Fall Out จึงทำให้ภาคต่อของ Jack Reacher: Never Go Back ในปี 2016 ซึ่งเขาไม่ได้กำกับ มีทิศทางที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาคแรก (กำกับโดยผู้กำกับ Edward Zwick จาก The Last Samurai (2003) หนังอีกเรื่องของ Cruise) ทำให้เขามองว่า คำวิจารณ์ที่ตกลงและรายได้ที่หดหายน่าจะเกิดจากสิ่งนั้น (ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่า ภาค 2 สนุกกว่าภาคแรก) อย่างไรก็ตาม สิทธิ์การสร้าง ของ Jack Reacher ได้มีการเปลี่ยนมือไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะไม่มีการสร้างเป็นหนังจาก 2 ภาคแรกอีกและกลายเป็นเวอร์ชันซีรีส์แทน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส