ได้ฤกษ์ปล่อยซิงเกิลใหม่ออกมาแล้ว หลังจากหยุดพักและหมักบ่มผลงานจนได้ที่ในช่วงโควิด กับวงดูโอ Synth Pop , R&B นาม “Mirrr” (เมอร์) จากค่าย macrowave (มาโครเวฟ) ที่ประกอบด้วยสองหนุ่ม “โต” ร้องนำ แต่งเพลง และ “นาว” มือกีตาร์ ที่มาพร้อมบทเพลงอันเปี่ยมไปด้วยสีสัน ละมุนละไมและไพเราะ เจ้าของซิงเกิลฮิต ‘เกม’ ที่ได้ Yented มาร่วมฟีเจอริง และ ‘นิโคติน’ ซิงเกิลมาแรงของวง
กลับมาคราวนี้ พวกเขายังคงมาพร้อมบทเพลงที่มีกลิ่นอาร์แอนด์บีในท่วงทำนองดนตรีแบบซินธ์พอป กับเนื้อหาที่น่าจะโดนใจใครหลายคนที่ยัง move on ไม่ได้และเหมือนว่ากำลังจะคุ้นชินกับความเจ็บปวดที่ได้รับมาโดยตลอด
“มาโซคิสม์” ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวของความเจ็บปวดที่ใครบางคนต้องเผชิญในความสัมพันธ์ขณะเดียวกันความเจ็บปวดนั้นกลับสร้างความสุขขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ถึงแม้จะต้องเสียใจหรือมีน้ำตาแต่กลับรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ยังเห็นเขากลับมาอยู่เคียงข้างในตอนสุดท้าย ถึงแม้อยากจะหนีหรือผลักไสออกไป แต่กลับรู้สึกตัวว่าขาดเขาไม่ได้และกลับมาที่เดิม อาจไม่ใช่เพราะใคร แต่เป็นเพราะตัวเองที่เสพติดความเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ก็เป็นได้
เพลงนี้ โต เป็นคนแต่งเองทั้งเนื้อร้องและทำนอง แต่งเอาไว้นานแล้วในตอนแรกใช้ชื่อว่า ‘ยอม’ หมายถึงการ ‘ยอม’ อยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บช้ำ ถูกทำร้ายจิตใจแต่ก็ move on ไม่ได้ วนกลับมาที่เก่า ‘ยอม’ ที่จะอยู่ในความสัมพันธ์นี้ต่อไป ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหน แต่ต่อมาเกิดคิดถึงคำว่า ‘มาโซคิสม์’ ขึ้นมา ก็เลยรู้สึกโดนใจ และคิดว่าชื่อ ‘มาโซคิสม์’ นี่ล่ะเหมาะกับเพลงนี้ที่สุดแล้ว
งานนี้ Mirrr ได้ร่วมงานกับ บุญชู Cold n’ warm ที่มาช่วยเรียบเรียงและทำดนตรีให้ จากนั้นจึงส่งเพลงไปมิกซ์กับ เมฆ สุขุม อิ่มเอิบสิน หรือ เมฆ Machina ซึ่งเป็นโปรดิวซ์เซอร์ของเพลงนี้กับเพลง ‘นิโคติน’ ด้วย เกิดเป็นความลงตัวระหว่างเนื้อเพลง ทำนองและเสียงร้องของ ‘โต’ ลวดลายกีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘นาว’ ที่ใส่เข้ามาอย่างได้อารมณ์ บวกกับดนตรีที่ผ่านการขัดเกลาให้มีความเฉียบจาก บุญชู Cold n’ warm และ เมฆ Machina
คือคำว่ารักเธอ
ต่อให้ต้องโดนเธอทำให้ใจเจ็บช้ำสักแค่ไหน ก็จะยอม
ถ้าต้องเจ็บก็เพราะรักเธอ
ต่อให้ต้องร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตาถึงใครจะมอง ว่าเธอใจร้าย
แต่ฉันจะทำให้เธอพอใจ
ขอแค่เพียงไม่ให้เธอไป ก็พอ
นอกจากตัวเพลงจะดีงามแล้ว ตัว MV ก็ดีไม่แพ้กัน ผลงานการกำกับของ มะปราง ‘PRANGWANG’ ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วในเพลง ‘นิโคติน’ ซึ่งตีความบทเพลงและถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจ เรื่องราวดำเนินไปบนความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงคู่หนึ่ง ที่มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งเข้ามาในความสัมพันธ์ และทุกครั้งที่เธอคนนั้นเค้ามา หญิงสาวคนรักก็ทำได้แค่เพียงเฝ้าดูเท่านั้น แต่ไม่ว่ามันจะเจ็บช้ำแค่ไหนดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งในใจที่ดึงเธอเอาไว้ไม่ให้ออกไปจากวังวนแห่งความสัมพันธ์นี้
เรื่องราวใน MV มีลักษณะปลายเปิดปล่อยให้แฟน ๆ ได้สนุกกับการตีความ ท่ามกลางงานภาพ มู้ดและโทนสีที่เข้ากับอารมณ์เพลง และกิมมิกของการผลักและการดึง การเข้า-การออกของความสัมพันธ์ รวมไปถึงการใช้ ‘กุญแจ’ ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่ช่วยให้เราคลี่คลายความหมายของเรื่องนี้
สามารถติดตามผลงานและข่าวสารของ Mirrr ได้ทาง Mirrr และเตรียมรอ EP ชุดแรกในชีวิตของวงได้เลยในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
FYI
Mirrr เริ่มแรกเกิดจาการรวมตัวเล่นดนตรีในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยเริ่มจากการที่อยากทำเพลงโดยใช้ชื่อ วงว่า The Clayman วงดนตรีแนว Alternative มีสมาชิก 5 คน ที่เล่นกันตามงานมหาลัย หรือว่าตามงานต่างๆในเชียงใหม่ และหลังจากที่ได้ปล่อยเพลงได้เพลงเดียวก็ได้แยกย้ายกันไป โดยยังเหลือสมาชิกอยู่สองคนที่ยังอยากทำเพลงอยู่ คือ “โต” เป็นนักร้องนำ และ “นาว” เล่นกีตาร์ และได้เริ่มทำเพลงโดยได้เริ่มทำเพลงแนว synthesizer ซึ่งได้แรงบรรดาลใจมากจาก soundtrack ประกอบภาพยนต์ และเริ่มจากการส่งเพลงเข้าประกวดใน campaign Tiger JAMS โดยใช้ชื่อ Mirrr (เมอร์) ชื่อของวงมาจากคำว่า ละเมอ เพราะมีแต่คนบอกว่าการทำดนตรีทำจริงจังไม่ได้หรอก วงเลยลองคิดกันขำๆเล่นคำเอาว่า “การตั้งใจทำวงดนตรี คือการที่เรากำลังเพ้อเจ้อละเมอฝันอยู่ เราก็อยากจะลองดูว่าฝันของเราสองคนจะสำเร็จไหม” ซึ่งในแคมเปญ Tiger JAMS ได้มีโอกาสเข้าสู่รอบสุดท้าย และได้ทำ Single พิเศษ Good luck, girl ซึ่งมี Chrvches นำเพลงไป Remix อีกด้วย หลังจากนั้นได้ปล่อยเพลงแรกที่มีชื่อว่า รอให้เธอ(Never) และได้เข้าสังกัดอยู่กับค่าย Macrowave จนถึงปัจจุบัน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส