กำลังเข้าสู่ฤดูหนังซัมเมอร์ของปี 2015 กันแล้ว มี The Avengers: Age of Ultron มาเป็นทัพหน้าเปิดเทศกาลซัมเมอร์กันเลย ปีนี้แต่ละสตูดิโอคัดหนังเข้าสู่สมรภูมิทั้งทุนเล็ก ทุนใหญ่กันกว่า 50 เรื่องครับ
ขอเกริ่นคำว่าหนัง ซัมเมอร์กันเสียหน่อย ว่ากันถึงที่ไปที่มา ตัวริเริ่มให้เกิดเทศกาลหนังซัมเมอร์ก็คือ jaws หนังเขย่าขวัญของพ่อมด สตีเวน สปิลเบิร์ก เรื่องเกี่ยวกับฉลามยักษ์ที่ออกมาไล่กินผู้คนในปี 1975 เรียกว่าพลิกหน้าประวัติศาสตร์หนังฮอลลีวู้ดกันเลย หนังลงทุนแค่ 8 ล้านเหรียญ ออกฉายเดือน มิถุนายน ปี 1975 กวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 470 ล้านเหรียญ กลายเป็นการสร้างกระแสนิยมให้ผู้สร้างยึดเป็นแบบแผนในเรื่องการเลือกวันฉาย และวิถีทางการตลาดที่จะกวาดรายได้จากคนดูในช่วงซัมเมอร์ได้สูงสุด
JAWS ลงทุนแค่ 8 ล้านเหรียญ ออกฉายเดือน มิถุนายน ปี 1975 กวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 470 ล้านเหรียญ
ถ้าวัดกันที่สภาพอากาศซัมเมอร์จะเริ่มจริงที่เดือนมิถุนายน ไปจนถึง สิงหาคม แต่ฤดูปล่อยหนังซัมเมอร์ จะเริ่มกันตั้งแต่ พฤษภาคม กันเลย เพราะช่วงฤดูร้อนที่อเมริกาก็เหมือนบ้านเรา จะเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ วงการภาพยนตร์เล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายในธุรกิจนี้ เพราะกลุ่มเด็กวัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่ในวัยก่อน 30 ที่ไม่ต้องไปเรียนจะใช้เงินค่าขนมมาซื้อตั๋วหนังดูกัน แต่ผู้ใหญ่ในวัย 30 ขึ้นไป จะเป็นช่วงเริ่มสร้างครอบครัวต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกกันแล้ว ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลัก
วันฉายใน ช่วงเวลา 4 เดือนของฤดูฉายหนังซัมเมอร์นี้ ก็เป็นเรื่องของกลยุทธ์ที่ต้องแย่งชิง แต่ละสตูดิโอจะจองกันล่วงหน้ากันถึง 2 ปี ใครประกาศกำหนดฉายหนังตัวเองก่อน ก็ถือว่าจองก่อน ปีนี้หลายค่ายก็เริ่มประกาศกำหนดฉายโปรแกรมใหญ่ของตัวเองในปี 2017 กันแล้ว พอประกาศมาค่ายอื่นก็ต้องมองปฎิทิน มองเกมกันเอาเองว่าจะหลบไปวันไหน หรือจะเอาหนังทางเลือกต่างแนวเข้าชน วันธงชัยที่ทุกค่ายแย่งชิงกันมากคือ 4 กรกฎาคม วันหยุดเนื่องในวันชาติอเมริกา หนังที่เลือกเปิดตัวในวันนี้มักจะกวาดรายได้ค่อนข้างแรง ซึ่งจะเป็นการสร้างกระแสเรียกความสนใจจากผู้ชม และอุ่นใจเจ้าของหนังว่าโอกาสทำกำไรค่อนข้างสูง
ปีนี้มีทั้งหนังภาคต่อ หนังภาคแยกและหนังรีเมค คละๆ กันไป ถ้าจะมีคำถามว่า ทำไมแต่ละปีถึงมีแต่หนังแอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อม หรือไม่ก็หนัง ซูเปอร์ฮีโร่ ภาคที่ 3-4-5 ก็ดู แผนภูมิที่เขาจดสถิติกันมานะครับ
ว่าแนวโน้มหนังแนวนี้มีแต่สูงขึ้นๆ
มาดูหนังซัมเมอร์ 10 เรื่องที่มีแนวโน้มจะทำรายได้สูงในระดับต้นๆกัน ว่ามีเรื่องไหนน่าเสียตังค์ไปดูในโรงกันบ้าง
1. The Avengers: age of ultron 29 เมษายน
เริ่มกันที่ ว่าที่ตัวเต็งแชมป์หนังซัมเมอร์ปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์กันว่าน่าจะครองแชมป์ทำรายได้สูงสุด เพราะภาคแรกก็สร้างสถิติแชมป์หนังซัมเมอร์ตลอดกาลไว้ด้วยรายได้ 895 ล้านเหรียญในประเทศ ทั่วโลก 1,518 ล้านเหรียญ ครองตำแหน่งอันดับ3 หนังที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาล จากทุนสร้างที่ 220 ล้านเหรียญ ภาคนี้เพิ่มทุนสร้างสูงขึ้นไปอีกเป็น 250 ล้านเหรียญ เพิ่มตัวละครอย่าง ควิกซิลเวอร์ และ สคาร์เล็ต วิตช์ เข้าไปด้วย ทั้งหมดจะต้องเจอกับวายร้ายอย่าง อัลตรอน จักรกลอัจฉริยะที่เกิดจากฝีมือประดิษฐ์ของโทนี่ สตาร์ค อัลตรอนดันเกิดมีความคิดตัวเองที่จะสังหารมนุษยชาติให้สูญพันธุ์ ประเทศไทยได้ฉายก่อนหน้า อเมริกาตั้ง2วันนะ เริ่มตั้งแต่รอบ 19.00 น. วันพุธที่ 29 เมษายน นี้แล้ว อเมริกาได้เริ่มฉายวันที่ 1 พฤษภาคม เลย และจะเป็นอีกเรื่องที่ตอกย้ำว่า มาร์เวล ทิ้งห่าง ดี.ซี.คอมมิคส์ ออกไปอีกไกล
2. Minions – 9 กรกฎาคม
ภาคแยกจากการ์ตูน despicable me หลังจาก ภาค 1 กวาดรายได้ถล่มทลาย 543 ล้านเหรียญ ภาค 2 ยิ่งหนักหนาขึ้นไปอีก 970 ล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งก็มาจากความน่ารักผสมกวนตีนของแก๊งหัวเหลืองเนี่ยล่ะ ที่เรียกเสียงฮาจากคนดูได้จริงจัง ทั้งที่พวกมันพูดภาษาอะไรก็ฟังไม่ออก ว่าแล้วก็กวาดเงินคนดูอีกรอบดีกว่า ด้วยการขายแก๊งมินเนี่ยนกันล้วนๆเลย เล่าที่ไปที่มาของพวกมินเนี่ยนว่า มาจากไหนแล้วทำไมไปอยู่กับ กรู วายร้ายหัวล้านใจดีได้ ปิแอร์ คอฟฟิน ผู้กำกับ despicable me 1 และ 2 กลับมารับหน้าที่กำกับ พ่วง ไคล์ บาลดา หัวหน้าฝ่ายเขียนการ์ตูนเลื่อนขั้นมาช่วยกำกับอีกแรงหนึ่ง แค่ตัวอย่างก็หัวเราะแล้วครับ มุกเพียบบบบ
3. ted 2 – 30 กรกฎาคม
เจ้าหมีกวนตีนกลับมาอีกรอบ ภาคแรกปี 2012 ถือว่าเป็นหนังม้ามืด ไม่มีใครคาดคิดว่าจะทำรายได้ถล่มทลายได้ถึง 543 ล้านเหรียญ ทั้งหมดมาจากมันสมองของ เซ็ธ แมคฟาร์แลนด์ ดาราตลกคนเดียว ที่รับหน้าที่ทั้งกำกับ เขียนบท และพากย์เสียงเป็น เท็ด เอง หลังจากปีที่แล้ว เซ็ธ พยายามแจ้งเกิดตัวเองอีกครั้งด้วยการรับทนำเองใน a million ways to die in the west แต่ตัวเลขไปได้ไม่สวยนักทั้งในและนอกอเมริกา ทุน 40 ล้าน ทำตัวเลขในประเทศไป 43 ล้าน บวกค่าโฆษณาไป ก็ขาดทุนล่ะ รอบนี้เลยขอกลับมาหากินกะของเก่า ชัวร์กว่า อย่างน้อยแฟนๆ ที่ติดใจความกวนของหมีเท็ดจากภาคแรกก็ต้องตามกลับมาอุดหนุนเป็นแน่ ภาคนี้เรื่องราวหลุดโลกไปใหญ่โต หลังจากหมีเท็ดกับภรรยาคนสวย อยากจะมีลูก แต่ด้วยความเป็นหมีเลยต้องได้รับความเห็นชอบจากศาลก่อน เท็ด ต้องใช้เหตุผลต่อสู้ในชั้นศาลว่า เขามีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นพ่อ ภาคนี้เพิ่มรุ่นใหญ่อย่าง เลียม นีสัน และ มอร์แกน ฟรีแมน และคนสวยอย่าง อแมนดา ซีย์ฟรีด เข้าไปอีก
4. Jurassic World – 11 มิถุนายน
การกลับมาหลังจากทิ้งช่วงห่างภาค 3 ไปถึง 13 ปี น่าจะได้ทั้งแฟนเก่าที่คิดถึงความตื่นเต้นกับฉากไล่ล่าของเหล่าไดโนเสาร์ และเด็กๆรุ่นใหม่ที่น่าจะตื่นตาตื่นใจไปกับภาพไดโนเสาร์มีชีวิตเหล่านี้ ภาคนี้ดำเนินเรื่องราวในช่วง 22 ปีให้หลังจากภาคแรก ความฝันของผู้ก่อตั้ง จอห์น แฮมมอนด์ ที่อยากจะเปิดสวนสนุกจูราสสิค ปาร์ค เป็นจริงแล้ว สวนสนุกเปิดบริการมาได้10ปี แล้วก็มาถึงขาลง คนเข้าชมน้อยลง ทางผู้บริหารเลยเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ออกมาดึงดูดผู้ชม แล้วก็เกิดเรื่องสยองขวัญเมื่อไดโนเสาร์หลุดออกมาไล่ล่าคนที่เข้าชม หนังยกเครื่องใหม่หมด ทั้งผู้กำกับ และดารา โคลิน เทรวอโรว์ ผู้กำกับใหม่สายรางวัลมาจับงานใหญ่หนแรก จะเป็นไงต้องลองพิสูจน์กัน แต่หวังว่าชื่อ สตีเวน สปิลเบิร์ก ในฐานะเจ้าของหนังและผู้อำนวยการสร้างคงจะไม่ปล่อยให้ผลงานในดูแลของตัวเองออกมาแย่ มีคริส แพรต ที่เพิ่งดังจาก guradians of the galaxy มารับบทนำ
5. Mad Max: Fury Road – 14 พฤษภาคม
ต้นกำเนิดเป็นหนังปี 1979 แจ้งเกิดดารารุ่นใหญ่อย่าง เมล กิ๊บสัน หนังประสบความสำเร็จอีกยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างหนังทั่วโลก รวมถึงการ์ตูนอย่าง “หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ” ได้เห็นไอเดียของหนัง mad max ทั้งเรื่องเครื่องแต่งกายและยานพาหนะไปโผล่ในหนังยุคหลังอีกหลายๆเรื่อง หนังสร้างต่อมาอีก 2 ภาค mad max 2(1981) และ mad max beyond thunder dome (1985) แล้วก็หยุดสร้างไป จอร์จ มิลเลอร์ เจ้าของไอเดีย เปลี่ยนแนวไปทำหนังน่ารักอย่าง babe pig in the city และ happy feet แล้ววันนี้ก็เกิดคิดถึงหนังแจ้งเกิดตัวเอง หยิบ mad max กลับมารีเมคอีกครั้ง เลือก ทอม ฮาร์ดี้ นักแสดงร่างใหญ่ที่เคยรับบท เบน จาก the dark knight rise (2012) มารับบท แมกซ์ รอบนี้จะไม่ย้อนไปเล่าอดีตสมัยเป็นตำรวจของ แมกซ์ แต่จะเล่าเรื่องการผจญภัยของแมกซ์ กับ ฟูริโอซ่า ที่รับบทโดย ชาลิซ เธียรอน ที่ต้องฝ่าแก๊งคนเถื่อนข้ามทะเลทราย พาฟูริโอซ่า กลับบ้านเกิดให้ได้ ดูตัวอย่างแล้วน่ามันส์มากครับ ฝีมือจากเจ้าของเดิม คงความเถื่อน ดิบ แต่เพิ่มทุนสร้างและเทคนิคซีจีที่ทันสมัยขึ้น
6. San Andreas – 28 พฤษภาคม
ถ้ายังไม่เบื่อหนังขายซีจี เนื้อหาเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ธรรมชาติ 2012 (2009), the day after tomorrow (2004) ก็มาดูเรื่องนี้กันอีก san andreas เล่าเรื่องเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่สืบเนื่องมาจากรอยเลื่อน ซาน แอนเดรส รอยเลื่อนนี้มีจริงพาดผ่านรัฐแคลิฟอเนีย และถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1895 หนัง 2012 ก็พูดถึงรอยเลื่อนนี้เช่นกัน
ดเวยน์น จอห์นสัน รับบทพระเอกนำเดี่ยวเป็น เรย์ นักบินเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย เดินทางกับเมียที่มีปัญหาระหองระแหงกัน จากลอส แองเจลิสไปช่วยชีวิตลูกสาวของทั้งคู่ที่ ซานฟรานซิสโก
แบรด เพย์ตัน มากำกับ ดเวยน์ จอห์นสัน อีกครั้งหลังจากเคยร่วมงานกันใน journey2: The Mysterious Island(2012)
7. Terminator: Genisys – 2 กรกฎาคม
จากมันสมองอัจฉริยะของ เจมส์ คาเมรอน สามารถสร้างตำนานยาวๆ ของตระกูล คอนเนอร์ และหุ่น T-800 มาได้ถึง 31 ปีละ นี่คือภาคที่ 5 เว้นช่วงห่างจากภาค 4 ถึง 6 ปี เปลี่ยนผู้กำกับมาคนที่ 4 แล้ว รอบนี้ อลัน เทย์เลอร์ ผู้กำกับที่ดังมาจากซีรี่ส์ game of thrones มารับหน้าที่กำกับ ดึง อีมิเลีย คลาร์ค นักแสดงสาวจาก game of thrones มารับบทเป็น ซาร่า คอนเนอร์ ตอนสาวด้วย หนังย้อนไปเล่าเหตุการณ์ก่อนภาค1อีก ใครไม่ใช่สาวกติดตามทุกภาคมีสิทธิ์งง กันล่ะ ภาคนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่อง หุ่น T-800 บทของอาร์โนลด์ ชวาร์ทเซนเนกเกอร์ ว่าหุ่นบ้าอะไรทำไมถึงแก่ได้ อาร์โนลด์ ก็ออกมาตอบแฟนหนังว่า ผิวหนังที่ห่อหุ้ม T-800 นั่นเป็นผิวหนังสังเคราะห์เหมือนผิวหนังมนุษย์มาก เลยแก่ตามวัยได้ โอ้ว!!เหตุผล
8. Ant-Man – 30 กรกฎาคม
ซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่จากมาร์เวล น๊านนานเราถึงจะได้ดูตัวใหม่กันซะทีดูแต่รีบู๊ธ ไม่ก็ภาคต่อ ก่อนหน้านั้นก็ Thor ที่ออกภาคแรกมาเมื่อปี 2010 (ถ้าไม่นับ guardians of the galaxy นะ) ant-man ถูกเขียนเป็นการ์ตูนออกมาตั้งแต่ปี 1962 แล้ว แต่เพิ่งถูกหยิบมาสร้างเป็นหนัง เรื่องของ ดร.แฮงค์ พิม ที่รับบทโดยไมเคิล ดักลาส เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มีความสามารถในการย่อมวลสาร ในการ์ตูนเขาย่อตัวเองให้เป็น แอนท์แมนคนแรก แต่ในหนังแฮงค์ ร่วมมือกับ สก๊อต แลง จอมโจรอัจฉริยะที่รับบทโดย พอล รัดด์ (ที่รับหน้าที่เขียนบทเรื่องนี้ด้วยร่วมกับ เอ็ดการ์ ไรท์) สก๊อต ยอมเป็นหนูทดลองให้แฮงค์ กลายเป็นแอนท์แมน ในชุดพิเศษมีหมวกที่สามารถติดต่อควบคุมกับเหล่าแมลงได้ อีกทั้งมีพลังมหาศาล เดิมทีแล้วเรื่องราวในจักรวาลมาร์เวล ดร.แฮงค์ พิม เป็นคนสร้าง อัลตรอน จักรกลอัจฉริยะขึ้นมาแล้วไปเป็นตัวร้ายใน the avengers แต่แอนท์แมน ออกฉายหลัง the avengers 2 ในเวอร์ชั่นหนังเลยต้องแปลงเรื่องให้ โทนี่ สตาร์ค เป็นคนสร้างอัลตรอนขึ้นมา
ดีใจกับ พอล รัดด์ที่ได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่เสียที ถ้าใครดูหนังฮอลลีวู้ดบ่อยๆจะคุ้นหน้ากับพอล รัดด์เป็นอย่างดีเพราะเขาอยู่ในวงการมาตั้งแต่ปี 1992 แล้ว
หนังกำกับโดยเพย์ตัน รีด ผู้กำกับที่เชียวชาญกับหนังคอมมีดี้อย่าง bring it on(2000) yes! man(2008) จอส วีดอน ผู้กำกับ the avengers ออกมาอวย ant-man ว่าเป็นหนังมาร์เวลที่มีบทหนังดีที่สุดที่เคยเขียนมา โอ้ว!!น่าดูจิมๆ
9. Mission: Impossible Rogue Nation – 6 สิงหาคม
ปฎิบัติการครั้งที่ 5 ของ อีธาน ฮันท์ ภาคนี้เขาเจอศัตรูหน้าใหม่ หน่วยงานลึกลับนาม syndicate เป็นหน่วยที่รวบรวมยอดฝีมือระดับพระกาฬไว้และมีเป้าหมายที่ต้องการจะทำลายหน่วย impossible mission force (IMF) ที่ อีธาน ฮันท์ สังกัดอยู่ ภาคนี้เขาจึงต้องปกป้องหน่วยงาน และชีวิตของเขาเอง
ทอม ครูซ ยังคงเล่นฉากสตันท์เสี่ยงตายด้วยตัวเองเช่นเคย ภาคนี้โชว์ฉากเกาะเครื่องบินขณะเทคออฟ อย่างที่เห็นในตัวอย่างหนัง ครูซ ยังชักชวน คริสโตเฟอร์ แมคควารี่ ผู้กำกับที่เคยร่วมงานกันตอนเล่น jack reacher แล้วเกิดถูกคอกันขึ้นมา แมคควารี่ ก็เลยส้มหล่นได้งานนี้ตามมาด้วย มี วิง เรมส์,เจเรมี่ เรนเนอร์ และ ไซม่อน เพ็กก์ ขาประจำตามมาจากภาคก่อนกันด้วย
10. Fantastic Four – 12 สิงหาคม
เว้นช่วงจาก ภาคก่อน Rise of the Silver Surfer (2007) ไปถึง8ปี แล้วก็ตัดสินใจรีบู๊ธ ดีกว่า เขียนเรื่องใหม่ยกชุดดาราหน้าใหม่ ให้เป็นกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ดึง จอช แทรงค์ ที่เคยกำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่วัยรุ่น chronicle (2012)แล้วเข้าตาทีมงานมากำกับ จอช ก็เลยดึงเอา ไมเคิล บี.จอร์แดน ดาราผิวดำจาก chronicle มารับบทเป็นมนุษย์ไฟ บทเดิมของ คริส อีแวน ด้วย อีก3คน ก็เป็นหน้าใหม่ไฟแรง ไมลส์ เทลเลอร์ ที่ได้เสียงชื่นชมอย่างมากจาก whiplash มาเป็นมนุษย์ยางยืดหัวหน้าทีม และ เคท มาร่า ดาราสาวที่ไม่ดังเท่าน้องสาว (รูนี่ มาร่า the girl with the dragon tatoo) มารับบทสาวล่องหน ส่วน เจมี่ เบลล์ นี่หน้าเก่าเห็นหน้ากันมาตั้งแต่หนังออสการ์ billy elliot (2000)แต่ไม่ดังสักที มาเป็น เดอะ ติง มนุษย์หิน
fantastic four นี่จัดว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ มาร์เวล ในกลุ่มที่ทำรายได้ไม่ค่อยน่าพอใจนัก ภาคแรก 2005 ได้ 330 ล้านเหรียญ ภาค 2 ปี 2007 ตกเหลือ 289 ล้านเหรียญ เป็นหนังอื่นนี่ดีใจกระดี๊กระด๊าแล้ว แต่สำหรับหนังมาร์เวลนี่ถือว่าน้อยมาก (แต่ยังดีกว่า ฮัลค์ทั้ง 2 รอบ) รอบนี้ก็ถือว่าเป็นความหวังครั้งใหม่ของมาร์เวลที่หวังว่าจะต่อยอดหากินไปได้อีกยาวๆ หลายภาค
อ่านแล้วสนใจอยากดูเรื่องไหน ก็เก็บตังค์ วางแผนจดลงปฎิทินกันไว้นะ จริงแล้วยังไม่หมดนะ ยังมีอีกหลายเรื่องนอกรายการนี้อีก
- pan หนังรีเมค ปีเตอร์ แพน รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ รอบนี้เน้นขาย ฮิวจ์ แจ๊คแมน ในบทกัปตัน ฮุค เข้าฉาย 24 กรกฎาคม
- inside out การ์ตูนเรื่องใหม่จากค่าย pixar ที่ออกมาทีไรก็ทำรายได้ถล่มทลาย เรื่องของ ไรลีย์ สาวน้อย ที่ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ในซานฟรานซิสโก แล้วกลายเป็นโรคหลายบุคลิก ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวก็ มีความสุข เดี๋ยวก็โกรธ บางทีก็เศร้า เข้าฉาย 24 สิงหาคม
- spy หนังตลกสายลับ แท็คทีม เจสัน สตาแธม กับ จู๊ด ลอว์ เข้าฉาย 4 มิถุนายน
- tomorrowland หนังฟีลกู๊ดสไตล์ดิสนีย์ ขายซีจีอลังการ เรื่องของสาวน้อยที่เจอเข็มกลัดลึกลับพาเธอไปโลกอนาคตได้ มีจอร์จ คลูนีย์ รับบทนำ กำกับโดย แบรด เบิร์ด จาก MI:4 เข้าฉาย 21 พฤษภาคม
- pixels หนังเบาสมองที่ดัดแปลงมาจากหนังสั้น เมื่อมนุษย์ต่างดาว มาโจมตีโลกในภาพลักษณ์เกม 8บิท มีอดัม แซนด์เลอร์ รับบทนำ ได้คริส โคลัมบัส(home alone,harry potter) ผู้กำกับที่เชี่ยวชาญกับหนัง แนวนี้โดยเฉพาะ เข้าฉาย 20 สิงหาคม
ฝากแถมท้ายด้วยสถิติที่น่าสนใจของหนังซัมเมอร์ครับ
- รายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์สูงสุด Marvel’s The Avengers (2012) รายได้แค่3วัน 207ล้านเหรียญ
- หนังซัมเมอร์ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุด Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides(2011) ใช้งบสร้างไป 378ล้านเหรียญ แต่ก็ทำรายได้ไปค่อนข้างสูง 1,045 ล้านหรียญ
- Harry Potter and the Deathly Hallows: Part II(2011) ทำเงินวันเดียวสูงที่สุด 15 กรกฎาคม 91 ล้านเหรียญ และพ้นหลัก 100 ล้านเหรียญเร็วที่สุด
- หนังซัมเมอร์ที่เจ๊งที่สุด 47 ronin (2013) ทุนสร้าง 220 ล้านเหรียญ ได้ตังค์ทั่วโลกไปแค่ 150 ล้านเหรียญ
- E.T. The Extra-Terrestrial ออกฉายเมื่อ 11 มิถุนายน 1982 เป็นหนังซัมเมอร์ที่ทำกำไรสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทุนสร้าง 10 ล้านเหรียญ ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 793 ล้านเหรียญ เท่ากับทำกำไรไปถึง 3172%
- PIRATES OF THE CARIBBEAN: DEAD MAN’S CHEST (2006) เป็นหนังภาคต่อ ที่ทำรายได้สูงที่สุด 1.06พันล้านเหรียญ
- harry potter เป็นหนังที่รายได้รวมทุกภาคสูงที่สุดในตระกูลหนังภาคต่อ 8 ภาคทำรายได้รวมถึง 2,390 ล้านเหรียญ
- iron man3 (2013) เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่นำเดี่ยวที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาล 1.2 พันล้านเหรียญ
- หนังซัมเมอร์ที่มีต้นฉบับมาจากนิยายและทำรายได้สูงที่สุดคือ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 (2011) ออกฉายเมื่อ 15 กรกฎาคม 2011 และทำรายได้ไปถึง 1.34 พันล้านเหรียญ