อีกหนึ่งหนังไซไฟที่กลายเป็นตำนานแห่งยุค 80s ไปแล้ววันนี้อย่าง Tron (1982) และภาคต่อเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีตามออกมาอย่าง Tron: Legacy (2010) ซึ่งก็สนุกไม่น้อย ทำให้แฟน ๆ ต่างรอคอยว่าหนังจะมีภาคที่ 3 ตามออกมาหรือไม่ ซึ่งตลอด 10 ปีมานี้ก็มีทั้งข่าวดีที่เหมือนจะทำให้ดีใจว่า Disney เตรียมจะสร้างภาคต่อ กระทั่งข่าวร้ายที่หนังถูกหยุดพักชะลอโครงการ สลับไปสลับมาแบบนี้ตลอด แต่ดูเหมือนตอนนี้ โครงการหนังภาค 3 จะมีความเคลื่อนไหวอีกครั้งและมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
หนังภาคแรกนั้นกำกับโดย Steven Lisberger และก็กลายเป็นหนังที่มาก่อนกาล แม้จะล้มเหลวทางรายได้แต่ก็ถูกพูดถึงต่อเนื่องมาอีกหลายปีตอนที่ฉายซ้ำหลายครั้งทางทีวียุคเคเบิลช่วง 90s ถูกยกย่องจากเหล่ากีคเหล่าแฟนบอยที่ชอบวิดีโอเกมซึ่งหนังเอามาผนวกเข้ากับความเป็นหนังได้อย่างลงตัว ส่วนหนังภาค 2 นั้นก็มีทั้งความเป็นภาคต่อและกึ่งรีเมก ยังได้ Jeff Bridges กลับมารับบทเดิม หลังจากถูกขังไว้ในโลกแห่งเกมที่ชื่อ Grid อันเป็นสังเวียนนักสู้บนโลกเสมือนจนลูกต้องเข้าไปช่วยในอีก 28 ปีให้หลัง
หนังภาคต่อก็ยังล้มเหลวทางรายได้แต่เป็นความล้มเหลวที่ยังดูดีกว่าภาคแรก เพราะอย่างน้อย ๆ รายได้ในสหรัฐฯ ก็ยังพอเท่าทุนสร้างที่ 170 ล้านเหรียญฯ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่จะสร้างความลังเลให้กับ Disney ว่าจะเอายังไงต่อกับแฟรนไชส์นี้ แต่ผู้ที่ได้รับผลดีไปเต็ม ๆ ก็คือผู้กำกับ Joseph Kosinski ที่โชว์วิสัยทัศน์ได้กำกับหนังใหญ่ ๆ หลังจากนั้นอีกหลายเรื่อง ทั้ง Oblivion (2013) และ Top Gun: Maverick ที่ถูกเลื่อนไปฉายปีหน้า เรียกว่า เขากลายเป็นผู้กำกับขาประจำของ Tom Cruise ไปแล้วอีกคน
แต่สำหรับใครที่เฝ้ารอว่าเขาจะกลับมากำกับภาค 3 ต่อหรือไม่ คงจะต้องผิดหวังเพราะ Disney ได้ประกาศรายชื่อผู้กำกับและนักแสดงนำคนแรกของเรื่องราวภาคต่อออกมาแล้ว ซึ่งก็สร้างความเซอร์ไพรส์ไปทางเหวอกับแฟน ๆ พอสมควร เพราะผู้กำกับที่ได้มาคือ Garth Davis ที่เคยกำกับหนังดราม่ามาแล้วสองเรื่องคือ Lion (2016) ที่ได้เข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ รวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ Mary Magdalene (2018) ที่นำแสดงโดยคู่รักตัวจริงอย่าง Rooney Mara และ Joaquin Phoenix หนังทำรายได้ไปแค่แสนเหรียญฯ ในสหรัฐฯ
เมื่อดูจากผลงานเก่า ๆ ที่ไม่ใช่หนังไซไฟหรือกระทั่งหนังฟอร์มยักษ์ที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเทคนิคด้านภาพมาก่อนเลย ก็ทำให้ต้องสงสัยว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้ Disney เชื่อมั่นจะฝากแฟรนไชส์ไว้กับ Davis (แต่จะว่าก็ไม่ได้ เพราะตอนที่ได้ Kosinski มากำกับภาค 2 รายนั้นไม่เคยกำกับหนังใหญ่มาเลยสักเรื่องเดียว) รายงานจาก Deadline และ Slash Film บอกว่า Davis ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อให้ความเชื่อมั่นกับผู้บริหารของ Disney ที่ยอมให้เขากำกับ (ไม่ใช่แค่ต่อสู้กับผู้กำกับคนอื่น แต่ต้องสู้กับที่ Disney ก็ไม่อยากจะสร้างหนังที่ไม่เคยทำกำไรให้เลยทั้งสองภาค)
ส่วนนักแสดงนำของหนังรายแรกที่เข้าชื่อไว้ก็คือ Jared Leto ที่รับอำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้เองด้วย เขาติดต่อ Disney เพื่อขอเดินหน้าหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2017 แม้จะเป็นนักแสดงมากฝีมือ แต่ก็ยังไม่มีบทบาทที่น่าจดจำหรือถูกพูดถึงอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน หลังแทบจะถูกลืมไปแล้วว่าเคยเล่นเป็น Joker ใน Suicide Squad (2016)
เขาก็ได้เล่นหนังภาคต่อจากหนังไซไฟฟิล์มนัวร์สุดคลาสสิกจากยุค 80s อีกเรื่องอย่าง Blade Runner 2049 (2017) และกำลังจะมีหนังแวมไพร์ในจักรวาลฮีโรของมาร์เวล ณ Sony อย่าง Morbius (2021) เข้าฉายปีหน้า การมารับบทนี้จึงเป็นโอกาสที่จะได้อยู่ในอีกหนึ่งแฟรนไชส์ฮิตของเขา ส่วน Jeff Bridges ที่เล่นมาทุกภาคนั้น ยังไม่มีรายงานว่าจะกลับมารับบทเดิมหรือไม่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส