ใกล้วันฉายในหลายประเทศส่วนใหญ่ของโลกเข้าไปทุกที สำหรับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องแรกจริง ๆ ที่กล้าฝ่าด่านอรหันต์โควิด-19 เข้าฉายอย่างไม่กลัวเจ๊ง สำหรับ Tenet ที่ได้ปล่อยโปสเตอร์โปรโมตออกในหลากหลายเวอร์ชันสำหรับในหลายประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยภาพของทีมนักแสดงนำ ใช้ภาพที่เราได้เห็น ๆ กันไปแล้วจากหนังตัวอย่างทุกฉบับที่ออกมาทั้ง Robert Pattinson, John David Washington, Elizabeth Debicki และ Kenneth Branagh
นอกจากนี้ ก็ยังมีบทสัมภาษณ์ของสื่อที่ Nolan ได้เล่าให้ฟังถือวิธีการทำงานของเขา ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ (และจริง ๆ ก็เกือบทุกเรื่อง) จะต้องมีข่าวเล็ดรอดออกมาถึงความยาก ความเนียบและพิถีพิถันในการทำงานระดับสูงกว่าผู้กำกับคนอื่นออกมาเพื่อยืนยันความสมบูรณ์แบบหนังของ “เสด็จพ่อ Nolan” อยู่ตลอด
อย่างเช่นในเรื่องนี้ ปกติแล้ว Nolan จะใช้มือตัดต่อคู่บุญอย่าง Lee Smith ที่ทำงานร่วมกับเขามาตั้งแต่ Batman Begins (2005) จนถึง Dunkirk (2017) ซึ่งกับเรื่องหลังนี้ทำให้ Smith คว้ารางวัลออสการ์ไปเลย แต่สำหรับเรื่องล่าสุดอย่าง Tenet กลับติดคิวไปตัดต่อ 1917 (2019) ให้ผู้กำกับ Sam Mendes ผู้กำกับจึงต้องหาคนมาตัดต่อนั่นคือ Jennifer Lame
Nolan ได้เล่าให้ ICG Magazine ฟังว่า ได้ข่มขวัญเธอที่เป็นผู้กำกับหน้าใหม่มือดี เจ้าของผลงานอย่าง Manchester by the Sea (2016), Hereditary (2018) และ Marriage Story (2019) ไปเล็กน้อยหลังจากที่รับเธอเข้ามาทำงานหนังเรื่องนี้
การทำงานร่วมกับเธอครั้งแรกเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก ผมเล่นมุกรับน้องตอนที่เธอเข้ามาครั้งแรกว่า นี่จะเป็นหนังที่ยากที่สุดที่มือตัดต่อคนไหน ๆ เคยตัดมา มาถึงตอนนี้ผมไม่แน่ใจ เธออาจจะเห็นไม่เหมือนผมก็ได้นะ (หัวเราะ) ผมได้ดูผลงานในอดีตของทุกคนที่ผมจะร่วมงานด้วย ผมมองหาความความสมบูรณ์แบบ และดูว่า เราจะจูนความคิดสร้างสรรค์ใส่ไปในผลงานร่วมกันได้ไหม ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไปได้สวยเลยครับ”
ส่วน Lame เองก็รู้สึกหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก เพราะเธอต้องตัดต่อแบบสลับไปสลับมาตามการดำเนินเรื่องของหนัง (ที่ยังไม่มีเบาะแสตอนนี้ว่าจะเล่าเรื่องขนาดไล่จากหลังมาหน้าแบบ Memento (2000) เลยหรือเปล่า)
หนังที่ฉันตัดต่อมักจะใช้ตัวละครเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว ฉันเลยสนุกกับการตัดต่อกับฉากที่เงียบมากกว่าพวกฉากแอ็กชัน แต่พอได้มาตัดต่อ Tenet ฉันเลยเริ่มคิดว่า จริง ๆ แล้ว ฉากแอ็กชันก็เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้าเหมือนกัน เมื่อ Chris เห็นฉันกลัวฉากแอ็กชันพวกนั้น เขาก็คอยย้ำว่า หนังเรื่องนี้มี “เรื่องราว” เป็นแรงขับเคลื่อนเสมอ” Lame เล่าให้ฟัง
คอหนังชาวไทยคงต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง ว่าหนังจะเล่าเรื่องอย่างลึกล้ำซับซ้อนชนิดที่ต้องยอมซูฮกให้กับฝีมือการตัดต่อของ Lame หรือเปล่าในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศกลุ่มที่ 2 เช่นเดียวกับออสเตรเลียที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และนักวิจารณ์ของออสเตรเลียก็จะได้ชมราว ๆ วันที่ 22 และ 23 สิงหาคมเพื่อจะปล่อยรีวิวแรก ๆ ออกมาก่อน
ออสเตรเลียเพิ่งจะกลับมาเปิดให้บริการโรงหนังเกือบทั่วประเทศกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนในสหราชอาณาจักรก็จะเริ่มขายตั๋วล่วงหน้ากันตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคมนี้ เพื่อเข้าฉายวันแรกวันที่ 26 สิงหาคม เป็นประเทศกลุ่มแรกที่ได้ชมร่วมกับประเทศฝรั่งเศส อิตาลี โปรตุเกส และสวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น และสหรัฐฯ จะฉายในบางรัฐ วันที่ 3 กันยายน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส