ฉลาดเกมส์โกงเดอะซีรีส์ ดำเนินมาได้ 8 ตอนเข้าไปแล้ว เรียกได้ว่าฉบับซีรีส์มีความเข้มข้นไม่แพ้ฉบับภาพยนตร์เลยทีเดียว จากการโกงเล็ก ๆ ที่เริ่มจากยางลบเพียงก้อนเดียว ลามเลยไปจนถึงการโกงระดับประเทศที่ทำเอาเหงื่อตกทั้งคนโกงและคนดู ทำให้เกิดคำถามข้อหนึ่งขึ้นมาและอยากจะหาคำตอบ (ข้อแก้ตัว) ให้กับคำถามข้อนั้นขึ้นมาตะหงิด ๆ “ไม่โกงได้ไหม”
จะมีใครสักกี่คนกล้าคิดว่า เด็กหญิงเจ้าของรางวัลชิงแชมป์ชนะเลิศระดับเยาวชน จะเป็นคนที่โกงข้อสอบให้กับเพื่อนเพื่อแลกกับเงิน (ก้อนโตเหมือนกันแฮะ) ถามว่า ไม่โกงได้ไหม? ก็ตอบว่า ได้สิจ๊ะ ระดับลินและแบงค์ ไม่ต้องโกงใครก็ไปถึงฝั่งฝันได้ง่าย ๆ โดยที่ความจนก็ไม่ใช่กำแพงที่พังยากเท่าไหร่นัก แต่ทั้งสองคนนี้ก็ลงมือโกงกันไปแล้ว ทำไมต้องโกงด้วยล่ะ คำตอบต่าง ๆ ก็เห็นกันชัด ๆ ด้วยเหตุผลที่ผู้สร้างหยิบยกเอามาใส่เป็นข้อ ๆ ใน 8 ตอนที่ผ่านมา ถ้าให้พูดตามหลักความเป็นจริง เหตุผลต่าง ๆ เหล่านั้นสามารถ เลี่ยงได้ ทั้งนั้น แต่พวกเขากลับเลือกใช้วิธีนี้เพื่อให้สมปรารถนาในเวลาอันรวดเร็ว สาระที่เห็นในซีรีส์เรื่องนี้มีมากมายเลยค่ะ แต่ขอหยิบมาเบา ๆ แค่ 5 ข้อก่อนแล้วกัน
1.การโกงครั้งนี้เริ่มต้นจากความรัก
ฟังดูเหมือนความรักเป็นจำเลยยังไงไม่รู้ แต่จุดกำเนิดการโกงอย่างแยบยลในซีรีส์มันคือความรักจริง ๆ นั่นแหละ แต่การจัดการกับความรักมันผิดรูปผิดรอยไปสักหน่อย ถ้าไม่เริ่มซะแต่แรกเรื่องบานปลายคงไม่เกิด และเราก็คงไม่มีซีรีส์มานั่งดูกันอ่ะเนอะ…
รักเพื่อน จากซีรีส์เราจะเห็นได้ว่า ลิน (จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน) เริ่มต้นการโกงข้อสอบให้ เกรซ (นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์) จากยางลบเพียงก้อนเดียว และก่อนที่ยางลบก้อนนี้จะได้ทำหน้าที่ส่งคำตอบ เจ้านายของมันได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่สมควรสิ่งนี้จากความรักเพื่อนแท้ ๆ เลย ความรู้สึกดี ๆ ที่เริ่มต้นจากความสงสารเพื่อน อยากช่วยเพื่อนให้ได้คะแนนดี ๆ เพื่อที่จะได้เข้าคณะละครอย่างที่เพื่อนฝันไว้ จากยางลบที่ควรจะทำหน้าที่ลบคำผิด กลับกลายเป็นทำหน้าที่ลบความรู้สึกผิดไปซะได้
รักพ่อ ลินเห็นพ่อลำบากและรู้สึกว่าไม่ได้ความยุติธรรมและโปร่งใสจากโรงเรียน ขึ้นชื่อว่านักเรียนทุน ใครก็คงคิดอ่ะนะว่าได้เรียนฟรีแน่ ๆ โรงเรียนดี มีอุปกรณ์การเรียนชั้นนำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบขนาดนี้ ใครเลยจะคิดว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้มาจากสิ่งที่เรียกว่าเงินบำรุงการศึกษา ที่ผู้ปกครองสนับสนุนให้กับทางโรงเรียนทั้งสิ้นและหนึ่งในเงินสนับสนุนเหล่านั้นก็เป็นเงินของพ่อเธอเอง ที่ต้องไปกู้เพื่อลูก
รักแม่ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องของลินแต่เป็นเรื่องของ แบงค์ (เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน) แบงค์ไม่ใช่ผู้เริ่มต้นการโกง แต่ก็ร่วมโกงครั้งยิ่งใหญ่ไปด้วยกันและเป็นการโกงระดับชาติซะด้วยสิ เป้าหมายคือเงิน 5 แสนบาทเพื่อนำมารักษาแม่ที่ป่วยหนัก
2.โรงเรียนดี ๆ ให้โอกาสมากกว่าจริงหรือ?
สำหรับคนอื่น ๆ การได้เรียนในโรงเรียนดี ๆ ระดับเดียวกับในซีรีส์อาจเป็นเรื่องจริง แต่สำหรับตัวเอกสองตัวในซีรีส์เรื่องนี้ ความจำเป็นมันอยู่ที่ตรงไหน? จากซีรีส์จะเห็นได้ว่าทั้งลินและแบงค์ มีฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ยากจนข้นแค้นอะไรนัก ฐานะระดับนี้บวกกับความสามารถในระดับจีเนียส การจะเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลที่ค่าเทอมไม่แพงและรับไหวไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทั้งสองครอบครัวกลับเลือกให้ลูกเรียนโรงเรียนเอกชนที่รู้ทั้งรู้ว่าสู้ค่าเทอมไม่ไหว (มันเกินกำลังไปนะเอาจริง ๆ ) แต่ก็ทำไปด้วยค่านิยมความเชื่อที่ว่า กรุงเทพทวีปัญญา คือโรงเรียนที่ดีที่สุด ทำไปด้วยความรักความหวังดีที่เชื่อว่า นี่คือหนทางในการสร้างโอกาสที่ดีให้กับลูก
โรงเรียนดี ๆ อาจจะให้โอกาสที่มากกว่าจริง ๆ ก็ได้ อาจเป็นหนทางที่สามารถสร้างสายป่านที่ยาวไกลกว่าโรงเรียนอื่น ๆ คล่องแคล่วกว่า ถนัดมือกว่า ได้สังคมที่การันตีชีวิตให้มั่นคง (มั้ง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในความเป็นจริงแล้ว โอกาสสามารถสร้างได้ด้วยตัวเองเสมอ ถ้าใจใฝ่ดีพอ ประเทศไทยมีด็อกเตอร์มากกว่าหนึ่งคน ที่ฟันฝ่าอุปสรรคด้วยตัวเองมาแล้วจากโรงเรียนระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางปลายแถวซะด้วยซ้ำ ไอคิวระดับลินและแบงค์จะเรียนที่ไหนก็ได้นะ เอาจริง ๆ
3.โกงมาโกงกลับไม่โกง
ถ้ามนุษย์คิดเหมือนกันแบบนี้ทั้งโลก ลองนึกดูเล่น ๆ ว่าโลกนี้คงสนุกสนานกันน่าดู บรรลัยกันหมดอ่ะค่ะ ลินให้เหตุผลในการโกงของเธอว่า “โรงเรียนมันโกงเราก่อนนะพ่อ” ต่อให้พ่อจะบอกว่าเขาโกงเราแต่เราไม่จำเป็นต้องโกงแบบเขา วิธีหาเงินมีเยอะแยะนะลิน คำสอนของพ่อเป็นคำสอนที่ดีมาก ๆ เลยนะคะ แต่ลินไม่มองแล้วค่ะตอนนั้นสิ่งที่ลินต้องการก็คือ เงิน มาต่อยอดทางการศึกษาที่เธอต้องการและเธอก็มองเห็นแล้วว่าการกระทำในสิ่งนั้นมันง่ายแสนง่าย ถึงแม่ว่ามันจะตื่นเต้นเอามาก ๆ และเป็นหนทางที่ผิด แต่ผลตอบแทนที่ได้มันก็ทำให้พร้อมที่จะเสี่ยง เมื่อการโกงครั้งสุดท้ายในระดับมัธยมล้มเหลวการโกงระดับชาติจึงเกิดขึ้น
มีครั้งแรกย่อมจะมีครั้งต่อไปถ้าเราไม่สามารถหักห้ามใจได้ นี่คือเรื่องจริง หนามยอกเอาหนามบ่ง อาจหายเจ็บและลดโอกาสการเป็นหนองนะคะ แต่การตอบแทนการร้ายด้วยการร้าย มักนำหายนะมาสู่ชีวิตได้เสมอ จริง ๆ นะ
4.สูญเสียความเป็นตัวเอง
ตราบใดที่การโกงยังหมายถึงการใช้อุบายหลอกล่อเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตัว เราจะรักษาความเป็นตัวเองเอาไว้แทบไม่ได้เลย มิหนำซ้ำเรายังอาจหมดความนับถือในตัวเองไปเลย ก็เป็นได้
ในซีรีส์เรื่องนี้เราจะเห็นคนที่สูญเสียความเป็นตัวเองได้ชัดที่สุดก็คือตัวละคร แบงค์ จากเด็กที่เถรตรงไปทุกกระเบียด ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ แบงค์เลือกที่จะเข้าร่วมขบวนการโกงข้อสอบกับลินเพียงเพราะหมดอาลัยกับโชคชะตาที่บีบคั้น เด็กคนหนึ่งซึ่งมีความกตัญญู ทนเห็นแม่นอนอนาถา รอคอยการรักษาอีกต่อไปไม่ไหว “ต่อให้เราไม่โกง ชีวิตมันก็โกงเราอยู่ดี” เราจะบอกว่าโลกทำร้ายแบงค์ได้ไหม ก็อาจจะได้ แต่ถ้าจะบอกว่า แบงค์ยอมให้โลกทำร้ายซะเองล่ะ ความคิดของคนที่โดนดูถูกมาตลอดทั้งชีวิต จะทำให้ชีวิตพลิกผันจากขาวเป็นดำได้จริงหรือ ความจริงแล้วทั้งแบงค์ทั้งลินมีต้นแบบที่ดีอยู่กับตัวทั้งสองคนเลยนะคะ แต่เพราะอะไรถึงทำให้มองข้ามตัวอย่างดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย
5.ความโลภไม่มีที่สิ้นสุด
ลินช่วยเกรสให้สอบได้คะแนนดี ๆ เพราะอยากเล่นละคร “ขอแค่ให้ได้เล่นละครเวที บทอะไรก็ได้ทั้งนั้น” นี่คือความตั้งใจแรกของเกรส เกรสสมหวัง แต่เกรสไม่หยุดแค่นั้นเพราะความฝันมันช่างหอมหวานและความอยากบางครั้งก็อาจเป็นความโลภปลอมตัวมา “เกรสอยากเป็นนางเอก” อ้าวววว ไหนบอกว่าเป็นตัวอะไรก็ได้ไง เกรสไม่พอซะงั้น
สุดท้ายความโลภ อยากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการก็ทำให้เกรสกล้าทรยศเพื่อน กล้าโกหกแม้แต่คนรักอย่าง พัฒน์ (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) จนเกือบจะเลิกกันแน่ะ กล้าแม้แต่จะเอาตัวเข้าไปแลกกับความลับที่ต้องการปกปิด นี่ขนาดเป็นความอยากระดับจิ๊บ ๆ เท่านั้นนะคะ ยังเกือบจะต้องแลกด้วยชีวิตขนาดนี้ แล้วถ้าความอยากของแต่ละคนมีมากกว่านั้นล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น
ฉลาดเกมส์โกงเดอะซีรีส์ ยังมีอะไรให้คิดตามอีกมากแน่ ๆ สาระที่ได้จากซีรีส์เชื่อว่ายังมีให้เห็นอีกพะเรอเกวียน รอดูให้ถึงตอนจบเราอาจพบบทสรุปที่สะท้อนชีวิตได้มากยิ่งขึ้นก็เป็นได้
- ติดตามชม ฉลาดเกมส์โกง เดอะซีรีส์ ได้ทุกวันจันทร์-อังคาร
- เวลา 20.15 น. ทางช่อง One กด 31
- รับชมออนไลน์ทาง WeTV เท่านั้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส