สำหรับเดือนกันยายน ปี 2020 นี้ Netflix ก็ยังมีหนังที่น่าสนใจเข้าสตรีมใหม่มาให้ได้ชมกันหลายเรื่อง สำหรับคอหนังรุ่นเก่ายุค 90s จะได้ชมหนังหายนะภัยในตำนานอย่าง Twister (1996) หนังที่ดัดแปลงจากนิยายของ Stephen King ที่นำแสดงโดย Tom Hanks อย่าง The Green Mile (1999) หนังการ์ตูนแอนิเมชันสุดคลาสสิก The Prince of Egypt (1998) ส่วนคอหนังคุณภาพที่มีออสการ์การันตี ก็จะได้ดูทั้ง Atonement (2007), The Theory of Everything (2014), BlacKKKlansman (2018) รวมถึงหนังหลายเรื่องที่วนกลับเข้ามาสตรีมอีกครั้ง ทั้ง Jack Reacher ภาคแรก, Transformers ภาค 3 รวมถึง Fast & Furious ภาค 3 และ 5
แต่ถ้าใครที่ชอบหนังใหม่ก็มีตั้งแต่หนังรวมดารา The Devil All The Time นำแสดงโดย Tom Holland และ Robert Pattinson, Enola Holmes เรื่องราวของน้องสาว Sherlock Holmes ที่นำแสดงโดย Henry Cavill และ Millie Bobby Brown, หนัง K-Zombies สุดฮิตของปีนี้อีกเรื่องจากเกาหลีใต้อย่าง #Alive ที่ได้ “ยูอาอิน” มานำแสดง ฝั่งคอซีรีส์ก็มีซีรีส์ใหม่ที่น่าสนใจทั้ง Away และ Ratched รอให้ชมกัน รายละเอียดของแต่ละเรื่องจะมีอะไรและน่าดูขนาดไหน ไปตามต่อกันเลย!
THE FIRST PURGE (2018) – ดูได้ 1 กันยายน
The Purge หนังที่สร้างมาแล้วทั้งหมด 4 ภาค (รวมถึงภาคนี้เป็นภาคล่าสุด และจะมีภาค 5 ตามออกมา) คือเรื่องราวของคืนที่อนุญาตให้ผู้คนก่ออาชญากรรมได้โดยไม่มีความผิดใด ๆ ภายในช่วงเวลา 12 ชั่วโมงก่อนจะเช้า เพราะรัฐบาลเชื่อว่า วิธีนี้จะทำให้ลดอาชญากรรมของทั้งปีได้ หากอนุญาตให้คนปลดปล่อยความรุนแรงถึงขนาดออกมาฆ่าคนอื่น หนังภาคนี้จะพาไปดูว่า คืนล้างบาปนี้ถือกำเนิดขึ้นจากอะไร
เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อองค์กรบิดาผู้ก่อตั้งอเมริกาใหม่ (New Founding Fathers of America) ได้ทำการทดลองทางสังคมในชุมชนเล็ก ๆ อันห่างไกลแห่งหนึ่ง เพื่อให้อัตราการก่ออาชญากรรมลดลง 1% ไปตลอดทั้งปี แต่เมื่อกระทั่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นทะลุขีดข้ามไปยังเมืองใกล้เคียง ความรุนแรงก็ระบาดไปทั่วประเทศ (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Marisa Tomei, Patch Darragh, Y’lan Noel, Lex Scott Davis, Joivan Wade
- ผู้กำกับ: Gerard McMurray (Burning Sands)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 13 / 137 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 55% / 5.2/10
BLACKKKLANSMAN (2018) – ดูได้ 3 กันยายน
แจ้งเกิด John David Washington ที่ทุกวันนี้ดังไปแล้วกับ Tenet โดยเรื่องนี้หนังสร้างจากเรื่องเหลือเชื่อจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงของตำรวจนักสืบแอฟริกัน-อเมริกัน Ron Stallworth กับตำรวจยิวคู่หู Flip Zimmerman ที่อิงจากบันทึกของ Stallworth เอง ชื่อ “Black Klansman” ว่าด้วยเรื่องราวของตำรวจแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกแห่งกรมตำรวจโคโลราโดสปริงในต้นยุค 70s ที่บังเอิญพบโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ชวนผู้คนมาสมัครเป็นสมาชิกของกลุ่ม “คูคลักซ์แคลน” (กลุ่มชาตินิยมผิวขาวที่ต่อต้านคนผิวดำอย่างสุดโต่ง) ประจำท้องถิ่น
ขณะที่โทรศัพท์เข้าไปพูดคุย Stallworth อ้างตัวเป็นคนผิวขาวเพื่อสอบถามจนได้ความเชื่อใจจากผู้เป็นหัวหน้าของคูคลักซ์แคลน เขาจึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนตำรวจผิวขาว อย่าง Zimmerman ให้ปลอมตัวเป็นเขาเพื่อเข้าไปสืบแผนการของขบวนการนี้ที่พวกเขาพบว่ากำลังวางแผนจะก่อการร้ายขึ้นมา หนังเป็นผลงานของผู้กำกับ Spike Lee ที่ได้รับคำชื่นชมเช่นเดียวกับหนังดราม่าที่อุดมเป็นด้วยนักแสดงผิวดำเก่า ๆ ของเขาในยุค 90s (ชวนอ่าน “รวมหนังตีแผ่การเหยียดสีผิว #BlackLivesMatter ที่ดูแล้วจะเข้าใจและเสียน้ำตาให้ “คนผิวดำ”)
- นักแสดง: Adam Driver, John David Washington, Alec Baldwin, Topher Grace, Laura Harrier)
- ผู้กำกับ: Spike Lee (Inside Man, Malcolm X, Summer of Sam, Da 5 Bloods)
- ทุนสร้าง/รายร้บรวมทั่วโลก: 15 / 93 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 96% / 7.5/10
- รางวัลบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 1 สาขารางวัลออสการ์ (บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม)
- เข้าชิง 5 สาขารางวัลออสการ์ (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม,นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Adam Driver), เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม)
SERIES I’M THINKING OF ENDING THINGS (2018) – ดูได้ 4 กันยายน
ชื่อไทยว่า “อยากให้เธออยู่ดูตอนจบด้วยกัน” เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่แม้จะไม่แน่ใจเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเอง แต่เธอก็ตัดสินใจไปโรดทริปกับ Jake แฟนคนใหม่ เพื่อเที่ยวฟาร์มของครอบครัวเขา หลังจากติดพายุหิมะอยู่กับแม่และพ่อของ Jake สาวคนนี้เริ่มสงสัยทุกเรื่องที่เธอรู้มาหรือเข้าใจเกี่ยวกับแฟนหนุ่ม ตัวเอง และโลกใบนี้ สร้างจากนิยายชื่อดังของ Iain Reid กำกับและเขียนบทโดย Charlie Kaufman ผู้เขียนบทหนังดัง ๆ อย่าง Being John Malkovich (1997), Adaptation. (2002), Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004)
- นักแสดง: Jessie Buckley, Toni Collette, David Thewlis, Jesse Plemons, Colby Minifie
- ผู้กำกับ: Charlie Kaufman (Writer-Being John Malkovich, Adaptation., Eternal Sunshine of the Spotless Mind)
THE PRINCE OF EGYPT (1998) – ดูได้ 4 กันยายน
หนังแอนิเมชันของ Dreamworks ในยุคที่ Pixar เพิ่งเริ่มก่อตัวและยังไม่ได้เป็นแถวหน้าของวงการ สร้างจากเรื่องราวตำนานของศาสนาคริสต์ เกี่ยวกับสองพี่น้อง คนพี่คือผู้มีสายเลือดกษัตริย์ ส่วนคนน้องคือ เด็กกำพร้าผู้มีความลับในอดีต ทั้งคู่โตมาดุจพี่น้องแท้ ๆ แม้จะแข่งขันกันก็ตามประสาพี่น้องที่รักใคร่ แต่แล้วความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดและคำนายชะตาของทั้งคู่เมื่อได้รู้ตอนโตขึ้นก็ทำให้ทั้งสองให้กลายเป็นศัตรูกัน โชคชะตาส่งให้คนหนึ่ง กลายเป็นราชันย์ผู้ครองจักรวรรดิอันเกรียงไกรที่สุดในพื้นภพ ส่วนอีกคนคือผู้ที่สวรรค์บัญชาให้มาปลดปล่อยทาสให้หลุดพ้นจากการกดขี่ ข่มเหงของกษัตริย์อียิปต์ เมื่อสวรรค์กำหนด สองพี่น้องต้องหันมาเผชิญหน้ากันอย่างไร้ทางเลือก หนังยังชนะรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม “When You Belive” ร้องโดย Whitney Houston และ Mariah Carey
- ให้เสียงพากย์: Val Kilmer, Ralph Fiennes, Michelle Pfeiffer, Sandra Bullock, Jeff Goldblum, Danny Glover, Patrick Stewart
- ผู้กำกับ: Brenda Chapman & Steve Hickner (Brave, Come Away, Bee Movie)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 70 / 218 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 80% / 7.1/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 1 สาขารางวัลออสการ์ (เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
- เข้าชิง 1 สาขารางวัลออสการ์ (เพลงสกอร์ประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
THE GREEN MILE (1999) – ดูได้ 4 กันยายน
เรื่องราวของ John Coffey ที่บอกเล่าผ่านมุมมองของ Paul Edgecomb หัวหน้าผู้คุมนักโทษในแดนประหารที่เรียกว่า “กรีนไมล์” (เคำที่ใช้เรียกทางเดินสีเขียวที่นักโทษเดินผ่านจากห้องขังไปยังห้องประหาร) ในยุคที่เต็มไปด้วยการกดขี่และเหยียดสีผิวในอเมริกา โดยพอลต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากโรคในกระเพาะปัสสาวะ แต่ก็อดทนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในฐานะหัวหน้าที่ดีทั้งกับลูกน้องและนักโทษ
จนกระทั่งวันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยปกติก็ได้เปลี่ยนไป เมื่อ John Coffey นักโทษผิวดำร่างยักษ์ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในคดีข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงผิวขาว 2 คนอย่างไม่ยุติธรรมได้ถูกนำตัวเข้ามาคุมขังที่กรีนไมล์แห่งนี้เพื่อรอวันประหาร หนังสร้างจากนิยายของ Stephen King และผู้กำกับที่ทำหนังจากนิยายของ King มาโดยตลอดอย่าง Frank Darabont อย่าง The Shawshank Redemption (1994) และ The Mist (2007)
- นักแสดง: Tom Hanks, Michael Clarke Duncan, David Morse, Bonnie Hunt, James Cromwell
- ผู้กำกับ: Frank Darabont (The Mist, The Shawshank Redemption, The Majestic)
- ทุนสร้าง/รายร้บรวมทั่วโลก: 60 / 286 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score: 78% / 8.6/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 4 สาขารางวัลออสการ์ (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Michael Clarke Duncan), บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผสมเสียงยอดเยี่ยม)
THE THEORY OF EVERYTHING (2014) – ดูได้ 4 กันยายน
หนังเป็นเรื่องราวชีวิตรักของ Stephen Hawking นักจักรวาลศาสตร์ชื่อดัง ผู้เป็นที่รู้จักจากทฤษฎีหลุมดำ กับ Jane Wilde ที่พบรักกันตั้งแต่สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ขณะที่ Hawking เริ่มเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมและกล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่ตอนนั้นหมอบอกว่า Hawking อยู่ได้แค่ 2 ปี ทั้งคู่ใช้ความรักชนะทุกอุปวรรคและก็ฝ่าฟันจนอยู่ด้วยกันมาถึง 25 ปี ก่อนที่จะหย่าร้างกัน
ส่วน Hawking ก็มีชีวิตอยู่มาได้ในสภาพเป็นอัมพาตจนเสียชีวิตไปเมื่อปี 2018 ด้วยวัย 76 ปี ตลอดมาเขาทำได้เพียงขยับนิ้วกับกะพริบตา ต้องอาศัยรถที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในการเคลื่อนไหว และใช้เครื่องช่วยพูดผ่านตัวอักษรในการสื่อสาร เขาคงยังทำงานด้านวิทยาศาสตร์และด้านวิชาการจนเป็นนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 หนังทำให้นักแสดง Eddie Redmayne ชนะรางวัลออสการ์สาขานำชายยอดเยี่ยมด้วย
- นักแสดง: Eddie Redmayne, Felicity Jones, Tom Prior, David Thewlis, Emily Watson
- ผู้กำกับ: James Marsh (King of Thieves, Man on Wire)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 15 / 123 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 80% / 7.7/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 1 สาขารางวัลออสการ์ (นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Eddie Redmayne))
- เข้าขิง 4 สาขารางวัลออสการ์ (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Felicity Jones), บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
TWISTER (1996) – ดูได้ 4 กันยายน
เป็นอีกหนึ่งหนังหายนะภัยที่สมจริงและอยู่ในใจคอหนังมาตั้งแต่ยุค 90s สำหรับ Twister เรื่องของนักล่าพายุ นำทีมโดย Bill และ Joe ซึ่งรับบทโดยนักแสดงคุณภาพอย่าง Bill Paxton ผู้ล่วงลับไปเมื่อปี 2017 และ Helen Hunt ที่ชนะรางวัลออสการ์จาก As Good As It Get Gets (1997) ที่พยายามตามหาพายุเทอร์นาโรระดับ F5 ที่ถือได้ว่ามีขนาดใหญ่และรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะปล่อยเซนเซอร์นับพันตัวไปวัดอัตราการเคลื่อนที่ของพายุ
หนังเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดลำดับที่ 2 ของสตูดิโอ Warner Brothers ในยุคนั้น และเป็นผลงานการอำนวยการสร้างของ Steven Spielberg ภายใต้การกำกับของผู้กำกับ Jan De Bont ที่เพิ่งประสบความสำเร็จจาก Speed (1994) รวมถึงสร้างจากบทของ Michael Crichton (ไมเคิล ไครช์ตัน) ซึ่งเป็นเจ้าของนิยายทริลเลอร์ขายดีที่ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์มากมายอย่าง Jurassic Park (1993), Congo (1995), รวมถึงซีรีส์ West World ที่ HBO ได้ดัดแปลงเป็นซีรีส์สุดฮิตไปแล้วถึง 3 ซีซัน (ชวนอ่าน “เกร็ดน่ารู้จากหนัง Twister ต้อนรับวาระที่หนังลง Netflix 4 กันยายน” และ “รวมลิสต์หนัง “โลกแตก” ที่ต้องดูก่อนตาย (พร้อมเรื่องที่ดูได้แล้วบน Netflix)“)
- นักแสดง: Bill Paxton, Helen Hunt, Philip Seymour Hoffman, Cary Elwes, Lois Smith
- ผู้กำกับ: Jan de Bont (Speed, Speed 2: Cruise Control, Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 92 / 494 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 57% / 6.4/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 2 สาขารางวัลออสการ์ (ผสมเสียงยอดเยี่ยมและวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม)
ATONEMENT (2007) – ดูได้ 4 กันยายน
Briony Tallis น้องสาวตัวแสบที่อิจฉาพี่สาวจนสุดท้ายเรื่องราวนำไปสู่โศกนาฏกรรมเกินกว่าใครจะคาดคิด เมื่อโชคชะตาได้เล่นตลกกับชะตากรรมของคู่รักคู่หนึ่งในช่วงแรกรัก เกิดเหตุข่มขืนในคฤหาสถ์ผู้ดีอังกฤษ และไบรโอนี่ลูกสาวคนเล็กของบ้านยืนยันเสียงแข็งว่าผู้กระทำคือคนรักของพี่สาว ทั้งที่ไม่เห็นกับตา และไม่ใช่ความจริง ด้วยความไม่เดียงสาของเด็กแก่แดดแก่ลม จึงนำพาชีวิตผู้ถูกกล่าวหาสู่สงครามและพี่สาวของเธอต้องมีชีวิตรักที่อาภัพและหม่นหมองไปตลอดชีวิต (ชวนอ่าน “Emma Watson และ Saoirse Ronan กับ 5 บทบาทที่น่าจดจำของพวกเธอในโลกภาพยนตร์“)
- นักแสดง: James McAvoy, Keira Knightley, Saoirse Ronan, Juno Temple, Benedict Cumberbatch
- ผู้กำกับ: Joe Wright (Darkest Hour, Hanna, Pride & Prejuduce, Pan)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 30 / 129 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 83% / 7.8/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 1 สาขารางวัล (เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
- เข้าชิง 6 สาขารางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Saoirse Ronan), บทภาพยนต์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, องค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม)
SERIES AWAY (2007) – ดูได้ 4 กันยายน
ซีรีส์ที่ได้นักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง Hilary Swank มารับบทนำและช่วงหลัง ๆ เธอก็อยู่ในหลายโพรเจกต์ที่ต้องเล่นเป็นแม่ กับเรื่อง Away นี้เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงประเด็นความก้าวหน้าของวิทยาการการก้าวเข้าสู่ห้วงอวกาศ แต่ความสำเร็จนี้อาจต้องแลกมาด้วยความเสียสละชีวิตส่วนตัว เมื่อ Emma Green นักบินอวกาศที่จำเป็นต้องทิ้งสามีและลูกสาววัยรุ่นของเธอไว้เบื้องหลัง ในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการเธอมากที่สุด เพื่อออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงอันตรายยังดาวอังคาร เธอต้องทำหน้าที่บัญชาการทีมนักบินอวกาศระหว่างประเทศ แต่ยิ่งเหล่านักบินอวกาศเดินทางออกไปไกลเท่าไร ผลกระทบจากการต้องห่างไกลคนที่พวกเขารัก บวกกับเรื่องราวส่วนตัวต่าง ๆ กลับทำให้เธอคุมภารกิจยากยิ่งขึ้นทุกที (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
“ฉันมักจะให้สัมภาษณ์มาตลอดว่าความฝันของฉันคือการเป็นนักแสดง แต่จริง ๆ แล้วตอนอายุ 5 ขวบ ความฝันของฉันคือการได้เป็นนักบินอวกาศ ฉันเลยตื่นเต้นมาก ๆ ที่ซีรีส์เรื่องนี้สานฝันในวัยเด็กของฉันให้เป็นจริง” Hilary Swank ให้สัมภาษณ์เอาไว้ นอกจากนี้ สามีของตัวละคร Emma Green ที่เป็นวิศวกรของนาซาซึ่งพยายามเลี้ยงลูกสาววัยรุ่นขณะที่ภรรยาไปปฏิบัติภารกิจนอกโลก หนังยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากคู่รักชื่อดังระดับโลก ได้แก่ Barack และ Michelle Obama อีกด้วย
- นักแสดง: Hilary Swank, Josh Charles, Talitha Eliana Bateman, Ato Essandoh, Ray Panthaki, Vivian Wu
- ผู้สร้าง: Andrew Hinderaker
#ALIVE (2020) – ดูได้ 8 กันยายน
หนึ่งในหนังซอมบี้เกาหลีที่ประสบความสำเร็จในประเทศ สานต่อกระแส K-Zombies ให้กับวงการหนังทั่วโลกต่อจาก Train to Busan (2016) และ Peninsula (2020) ได้ Netflix ซื้อสิทธิ์มาสตรีมในบ้านเรา พร้อมชื่อไทยว่า “คนเป็นฝ่านรกซอมบี้” จุดขายที่่น่าสนใจคือการเอาโลกสังคมออนไลน์มาเป็นกิมมิคในการเล่าเรื่อง เรื่องราวของชายหนุ่มชื่อ “โอจุนวู” ผู้ติดเกมและโซเชียลมีเดีย เขาติดอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองในวันที่ไวรัสซอมบี้เกิดระบาด เขาจึงต้องใช้สิ่งที่เขาติดและถนัดนั้นมาเป็นตัวช่วยให้ตัวเองรอดชีวิตขณะที่อยู่ในห้อง แต่ขณะที่หมดอาลัยตายอยากอยู่นั้น โอจุนวูก็พบว่ายังมีผู้รอดชีวิตอยู่อีกคนเป็นหญิงสาวชื่อ “คิมยูบิน” ที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้าม เธอใช้ความถนัดเรื่องแคมปิงและกล้องส่องทางไกลเป็นตัวช่วยในการเอาตัวรอด ทั้งคู่จึงจับมือกันและใช้ความถนัดของตัวเองฝ่าฟันหายนะไปด้วยกัน (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
หนังดัดแปลงจากหนังอเมริกันเรื่อง Alone ของผู้เขียนบท แมตต์ เนย์เลอร์ โดยแมตต์ และผู้กำกับ “โชอิลฮยอง” ได้ช่วยกันปรับบทเพื่อให้เข้ากับความเป็นเกาหลีใต้ นำแสดงโดย “ยูอาอิน” จาก Burning (2018) รับบทเป็นโอจุนวู และ “พัคชินฮเย” จากซีรีส์ Pinocchio และ Memories of the Alhambra รับบท คิมยูบิน หญิงสาวห้องฝั่งตรงข้ามของจุนวูครับ หนังเข้าฉายในเกาหลีใต้ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงโควิดระบาดและหนังทำให้คนเกาหลีกลับเข้าโรงภาพยนตร์เป็นจำนวนมากอีกครั้ง สถิติคือการเป็นหนังเรื่องแรกที่มียอดผู้ชมเกิน 1 ล้านคนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ของประเทศ
- นักแสดง: ยูอาอิน, พัคชินฮเย
- ผู้กำกับ: โชอิลฮยอง
- รายรับรวมทั่วโลก: 13 ล้านเหรียญฯ
- iMDB Rating: 6.2/10
THE DEVIL ALL THE TIME (2020) – ดูได้ 16 กันยายน
หนังรวมดาวนักแสดงที่เอ่ยชื่อแล้ว “ต้องยอม” ดัดแปลงจากนิยายรางวัลแนวโกธิคบรรยากาศแดนใต้ของสหรัฐฯ เล่าเรื่องผ่านผู้คนสามรุ่นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองจนถึงยุค 60s และเต็มไปด้วยตัวละครที่แปลกประหลาด ตั้งแต่คู่รักฆาตกรต่อเนื่อง นักเทศน์ลวงโลก และนายอำเภอคอรัปชั่น ซึ่งทั้งหมดกำลังโคจรมาพบกับ โดยตัวเอกของเรื่องรับบทเป็น Arvin Russell (Tom Holland) เด็กอันธพาลที่เติบโตมาจากการถูกพ่อกระทำทารุณในหมู่บ้านกลางป่าของรัฐโอไฮโอ เขาต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเป็นผู้ใหญ่ในยามที่ครอบครัวต้องการเขามากที่สุด และต้องปกป้องครอบครัวจากคนที่จะเข้ามาคุกคามหรือฉวยประโยชน์
Robert Pattinson รับบทเป็นนักเทศน์ที่หากินกับการต้มตุ๋นผู้ที่เลื่อมใส, Jason Clarke และ Riley Keough เป็นคู่รักฆาตกรโรคจิต และ Sebastian Stan เป็นนายอำเภอผู้คดโกง สมทบด้วย Mia Wasikowska, Bill Skarsgård, Harry Melling และ Haley Bennett หนังกำกับโดย Antonio Campos จากซีรีส์ The Sinner และ The Punisher และ Christine (2016) โดย Jake Gyllenhaal สามีคู่จิ้นของน้อง Tom Holland เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างด้วย
- นักแสดง: Tom Holland, Robert Pattinson, Jason Clarke, Sebastian Stan, Mia Wasikowska, Bill Skarsgård, Harry Melling, Haley Bennett
- ผู้กำกับ: Antonio Campos (Christine, ซีรีส์ The Sinner, ซีรีส์The Punisher)
SERIES RATCHED (2020) – ดูได้ 18 กันยายน
หากใครเคยชมภาพยนตร์ One Flew Over the Cuckoo’s Nest (1975) ภาพจำที่ไม่อาจลืมอย่างหนึ่งในภาพยนตร์ที่ Jack Nicholson เล่นไว้อย่างยอดเยี่ยมเรื่องนั้น ก็คือบทนางพยาบาลหัวใจเย็นชาที่ชื่อ Ratched หญิงวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าวอร์ดทั้งดุทั้งหลอนในโรงพยาบาลจิตเวท ครั้งนั้นภาพยนตร์สุดคลาสสิกเรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายชื่อดัง สามารถกวาดรางวัลออสการ์ 5 สาขาหลักไปครบถ้วน ทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชาย, นักแสดงนำหญิง Louise Fletcher ที่รับบทเป็น Ratched รวมถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม Milos Forman และรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
Mildred Ratched หัวหน้าพยาบาลจอมโหดจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในซีรีส์ชื่อ Ratched นำแสดงโดย Sarah Paulson นักแสดงฝีมือดีจากซีรีส์ American Horror Story และ American Crime Story รวมถึงเคยรับบทคุณหมอในโรงพยาบาลจิตเวทในหนัง Glass (2019) ของ M. Night Shyamalan จะมารับบทนี้ในวัยสาว ช่วงปี 1947 ในช่วงเริ่มต้นเป็นนางพยาบาลในโรงพยาบาลจิตเวทที่นอร์ธเทิร์น แคลิฟอร์เนีย ว่าต้องประสบพบเจออะไรบ้างจนทำให้เธอเปลี่ยนไปกลายเป็นคนบ้าอำนาจ พยายามครอบงำคนไข้ทุกคนให้อยู่ใต้อาณัติของเธอ ซีรีส์ยังสมทบด้วย Cynthia Nixon, Judy Davis รวมทั้งดาราดังจากยุค 90s Sharon Stone อีกด้วย โดยซีรีส์จะมีทั้งหมด 8 ตอน
- นักแสดง: Sarah Paulson, Sharon Stone, Judy Davis, Cynthia Nixon, Hunter Parrish, Corey Stoll, Harriet Sansom Harris
- ผู้สร้าง: Evan Romansky & Ryan Murphy (American Horror Story, Hollywood, Glee)
ENOLA HOLMES (2020) – ดูได้ 23 กันยายน
2 นักแสดงดาวเด่นของซีรีส์ออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix ทั้งคู่สำหรับ Millie Bobby Brown จาก Stranger Things และซูเปอร์แมน Henry Cavill จาก The Witcher พวกเขาทั้งคู่กำลังจะโคจรมาเจอกันในหนังสืบสวนของ Legendary Pictures ที่ Netflix คว้าสิทธิ์สตรีมมิงมาได้ Brown จะรับบทเป็นน้องสาวของนักสืบชื่อดัง Sherlock Holmes นามว่า Enola Holmes โดยหนังจะหยิบนิยาย ตอน The Case of the Missing Marquess จากฉบับหนังสือที่มีทั้งหมด 6 ตอน
เล่าเรื่องของเด็กสาวจากตระกูล Holmes ผู้ที่มีทักษะและพรสวรรค์ด้านการเป็นนักสืบไม่แพ้ผู้พี่ และบ่อยครั้งที่เธอมักจะเอาชนะพี่ชายแสนฉลาดของเธออย่าง Sherlock กับ Mycroft ได้ ต่อมาเมื่อแม่ของพวกเขาหายไปตัวอย่างลึกลับในวันเกิดปีที่ 16 ของ Enola เธอจึงขอความช่วยเหลือจากพี่ชายของเธอ แต่ท้ายที่สุด เธอก็ตัดสินใจลงมือออกเดินทางไปลอนดอนเพื่อสืบหาแม่ของเธอด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นเองเธอพบว่า ตัวเองอยู่ท่ามกลางการสมรู้ร่วมคิดที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไปตลอดกาล
- นักแสดง: Millie Bobby Brown, Henry Cavill, Sam Claflin, Helena Bonham Carter, Louis Partridge
- ผู้กำกับ: Harry Bradbeer (ซีรีส์ Fleabag)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส