น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นดาราฮอลลีวูดออกมาโจมตีหรือแสดงความเห็นเชิงลบต่อเพื่อนร่วมวงการ หรือกระทั่งผู้กำกับที่ดูจะมีบารมีเหนือกว่าและย่อมส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่อาจจะต้องโคจรกลับมาร่วมงานกันในอนาคต แต่สำหรับดารารุ่นเดอะเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Kate Winslet ผู้โด่งดังจากหนัง Titanic (1997) อาจจะไม่ได้แคร์ปัญหานี้สักเท่าไร เพราะผู้กำกับคนไหนก็อยากร่วมงานกับเธอ ต่างจากเธอที่ออกมาแสดงความเห็นไม่เผาผีกับสองผู้กำกับชั้นครูระดับตำนานอย่าง Roman Polanski และ Woody Allen
เรื่องของเรื่องเกิดมาจากการที่เธอได้มาสัมภาษณ์เปิดอกกับนิตยสาร Vanity Fair ท่อนหนึ่ง เธอบอกว่าเธอเสียใจที่เคยทำงานร่วมกับผู้กำกับชื่อดังทั้งสองคน เพราะทั้งคู่ต่างเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์
มันเป็นอะไรที่…คือฉันเคยทำงานกับ Woody Allen และ Roman Polanski ด้วยเนี่ยนะ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้ชายสองคนนั้นถูกยกย่องอย่างมากมายในวงการภาพยนตร์ขนาดนี้ได้ยังไง มันช่างน่าอับอายเหลือเกิน ฉันต้องออกมารับผิดชอบต่อความจริงที่ว่า ฉันเคยทำงานร่วมกับพวกเขาทั้งคู่ ฉันกำลังต่อสู้กับความเสียใจพวกนั้น แต่เราจะได้อะไรล่ะ ถ้าเรายังพูดถึงปัญหาพวกนี้กันแบบตรง ๆ ไม่ได้” Winslet ออกมาให้สัมภาษณ์ตอกฝาโลงไม่กลับไปร่วมงานกับพวกเขาอีกแน่นอน
Winslet เคยร่วมงานกับผู้กำกับ Roman Polanski ในหนังเรื่อง Carnage (2011) ซึ่งมีนักแสดงหลายคนร่วมแสดงในหนังรวมดาราออสการ์ ตั้งแต่ Jodie Foster, Christoph Waltz และ John C. Reilly ในเรื่องนี้ยังทำให้ Winslet เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทเพลงและตลกของเวทีลูกโลกทองคำ ส่วนอีกเรื่องที่เธอเพิ่งจะร่วมงานกับผู้กำกับ Woody Allen ใน Wonder Wheel (2017)
Polanski นั้นถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ตั้งแต่ปี 1977 จนเขาหนีออกจากสหรัฐฯ ไปยังประเทศฝรั่งเศส เพื่อจะได้ไม่ต้องติดคุกและทำหนังงานที่นั่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและไม่เคยกลับมาเหยียบสหรัฐฯ อีกเลย (แม้จะได้รับรางวัลออสการ์ในปี 2003 ก็ตาม) ส่วน Allen นั้นถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวบุญธรรม Dylan Farrow ในปี 1992 แต่ยังไม่เคยมีคดีถึงชั้นศาลที่ตัดสินว่า Allen มีความผิด และเขาก็ยังคงทำงานอยู่ในวงการฮอลลีวูดอยู่เรื่อยมา
Farrow ได้ตีพิมพ์จดหมายเปิดผนึกในปี 2014 หลังจากที่อัลเลนได้รับรางวัล Golden Globe Cecil B. DeMille ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศบนเวทีลูกโลกทองคำ และต่อมาก็ไม่กี่ปีมานี้ก็เกิดกระแส #MeToo ที่เป็นการออกมาต่อต้านพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของผู้ทรงอิทธิพลในวงการหนัง โทรทัศน์ และวงการเพลงของหสหรัฐฯ ในวงกว้าง ซึ่งกับกรณีของ Allen นั้นก็ส่งผลให้ฮอลลีวูดถูกบีบให้ต้องทบทวนมุมมองที่มีต่อ Allen ว่าเป็นคนดีเสียใหม่
พฤติกรรมฉาวในอดีตของ Allen ถูกหยิบขึ้นพูดถึงอีกครั้ง ตอนที่ Harvey Weinstein อดีตผู้อำนวยการสร้างหนัง Miramax ก่อคดีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อหลายรายจนล่าสุดถูกตัดสินให้จำคุกยาวนานถึงขนาดอาจต้องเสียชีวิตกันในนั้น ในช่วงนั้นเอง Ronan Farrow ลูกชายของ Allen ที่ลุกขึ้นมาเปิดโปงบุคคลต่าง ๆ ในวงการที่ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อรวมถึงพ่อของเขา
ถึงอย่างนั้น ก็อาจจะเกิดคำถามว่า กรณีล่วงละเมิดทางเพศของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นและเป็นข่าวครึกโครมก่อนที่เธอจะรับเล่นหนังให้ผู้กำกับทั้งสองหลายสิบปี แล้วทำไม Winslet ถึงเพิ่งจะนึกเสียใจขึ้นมากในตอนนี้ เธอจึงขยายความว่า นี่ก็เป็นสาเหตุให้เธอรู้สึกเสียใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอเลือกที่จะมุ่งความสนใจของตัวเองไปที่หน้าที่ความสำเร็จของหน้าที่การงาน (แน่ละ ใครจะไม่อยากร่วมงานกับผู้กำกับออสการ์ในตำนาน) โดยไม่สนใจว่าพวกเขาเคยทำอะไรมาบ้าง
นอกจาก Winslet แล้ว นักแสดงอีกหลายคนที่เคยทำงานร่วมกับ Allen ก็ออกมาบริจาคเงินของพวกเขาเพื่อการเคลื่อนไหวผลักดันให้เกิดการรับผิดชอบในเรื่องนี้ผ่านโครงการรณรงค์ต่าง ๆ เช่น RAINN และ Time’s Up ด้วย นัยนึงก็เพื่อเป็นการสำนึกผิดและแสดงความรับผิดชอบกับอดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้
ถึงอย่างนั้น สิทธิ์ในการเลือกอยากจะร่วมงานกับใครก็เป็นเรื่องของนักแสดงแต่ละคน ขึ้นอยู่กับว่านักแสดง ผู้กำกับ และสตูดิโอค่ายหนังนั้น ใครจะมีบารมีมากกว่ากัน ส่วนในวันนี้ชีวิตและสวัสดิภาพจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศของนักแสดงโดยเฉพาะผู้หญิงและนักแสดงเด็ก ก็ดูจะได้รับการคุ้มครอง เฝ้าระวังกันขึ้นและเหยื่อก็ดูจะได้รับการยอมรับและเห็นใจ รวมถึงถูกยกย่องว่าเป็นผู้กล้าหาญมากขึ้นตามลำดับ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า เหตุร้ายแบบนี้จะลดลงอย่างเห็นผลชัดเจนหรือไม่ในวงการฮอลลีวูด
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส