นครวัด:สถาปัตย์มหัศจรรย์ใกล้บ้าน

ได้เห็นภาพนครวัด-นครธม มาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยได้มีโอกาสไปสักที จนวันนี้นัดแนะเพื่อนร่วมทริปได้ 10 คน ถือโอกาสเอาวันหยุดยาวต้นเดือนพฤษภาคม เดินทางไปพิสูจน์ความสวยงามความมหัศจรรย์ของ อาณาจักรขอมในอดีตกันสักที

นครวัด-นครธม อยู่ในจังหวัดเสียมเรียบหรือเสียมราฐ เดินทางผ่านด่านเข้าปอยเปตที่จังหวัดสระแก้วไปจนถึงผับสตรีทที่เสียมเรียบ รวมระยะทาง 475 กิโลเมตรโดยประมาณ แต่ด้วยพิธีการผ่านด่าน และถนนในกัมพูชา จำกัดความเร็วในการวิ่ง และบางช่วงเป็นถนนยังไม่ได้ราดยาง ทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 10 ชั่วโมง ออกจากกรุงเทพ 9.00น. ถึงโรงแรมที่เสียมเรียบ 19.00 น.

ที่เสียมเรียบ เป็นเมืองแห่งปราสาทหินโบราณ ด้วยความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าของกษัตริย์ในยุคนั้น ทำให้ศาสนจักรเหล่านี้ถูกสร้างกันขึ้นมานับร้อยแห่ง แต่ที่สวยงามสุดก็คือ นครวัดและนครธม ส่วนปราสาทขนาดย่อมลงมาก็มี ปราสาทบันทายศรี, ปราสาทตาพรหม, ปราสาทแปรรูป, ปราสาทพนมบาเค็ง ฉะนั้นจำเป็นต้องวางแผนดีๆ ถ้าจะไปให้ครบ ผมไป 4 วัน เดินทางไปก็หมด 1 วัน กลับก็อีก 1 วัน จึงเหลือเวลาเที่ยวเต็มๆ แค่ 2 วัน

มุมหนึ่งในนครวัด

วันแรกผมเดินสายเที่ยวชมปราสาทเล็กๆ อย่าง บันทายศรี และปราสาทแปรรูป หมดเวลาครึ่งวันไปกับการเดินขึ้นเขากิโลครึ่งไปดู น้ำตกกบาลสเปียน แต่ไปหน้าร้อนน้ำแห้งก็เลยได้ดูหินสลักรูปร่างต่างๆ นาๆ แต่ไม่ได้เห็นน้ำตก เชื่อว่าถ้าไปช่วงที่พอมีน้ำ จะได้เห็นบรรยากาศที่สวยงามกว่านี้แน่ ในจำนวนปราสาทย่อยที่ไม่ควรพลาดคือ ปราสาทตาพรหมครับ เอกลักษณ์เด่นคือรากต้นปรงอายุนับร้อยปีเลื้อยพันปราสาทไว้ ที่ปราสาทตาพรหมพื้นที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่นักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก จะถ่ายภาพรากต้นปรงกับปราสาทนี่ต้องต่อคิวกันยาว

ดวงอาทิตย์กำลังขึ้น ตีห้ากว่าๆ กับมุมมหาชนสระบัวหน้านครวัด

ทางเดินหลักเข้านครวัด ช่วง6โมงเช้า ดวงอาทิตย์เพิ่งขึ้น

วันที่สองผมจัด 2 ที่ใหญ่ไฮไลท์ของทริปคือ นครวัดและนครธม ตื่นตั้งแต่ตี 4 ไปรอเวลาประตูเปิดเข้านครวัดตั้งแต่ก่อนตี 5 เพื่อจะได้เข้าคนแรกๆ ไปจับจองมุมตั้งกล้องถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นกับมุมมหาชนริมสระบัว ขนาดว่าช่วงที่ไปเป็นโลว์ซีซันเพราะอากาศร้อนจัด ผู้คนจากทั่วโลกหลากชาติหลายภาษาก็ยังมากันเป็นร้อย จองที่ได้แถวหน้าแป๊ปเดียวหันหลังไปคนเป็นร้อย เก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จก็เดินเที่ยวชมภายในปราสาทต่อ แนะนำสำหรับคนที่ยังไม่เคยไป ว่าควรให้เวลากับ2ที่หลัก นครวัด และนครธมให้มาก เพราะสถานที่ใหญ่ มีมุมเล็กๆ น้อยๆ สวยงามอยู่มาก แค่ที่นครธมอาณาเขตก็ 3 กิโลเมตร x 3 กิโลเมตรแล้ว มีปราสาทเล็กน้อยอยู่ภายในพื้นที่นครธมอยู่มาก ที่สวยงามที่สุดคือปราสาทบายน ปราสาทนี้จะมีเอกลักษณ์ภาพแกะสลักหินรูปหน้าสี่ทิศอยู่ทุกหอ ปัจจุบันเหลือ 37 หอ บรรดาภาพแกะสลักบนผนังค่อนข้างชัดเจน

มุมหนึ่งในปราสาทบายน

หลายๆปราสาทที่เสียมเรียบ อยู่ในช่วงบูรณะ มีบอร์ดประชาสัมพันธ์แสดงภาพก่อนและหลังบูรณะให้เห็น ทำให้ทราบได้ว่าปราสาทที่เรามาเยี่ยมชมนี้ ล้วนแล้วแต่ผ่านการปรับปรุงมามากแล้ว บางปราสาทเคยถล่มทลายลงมากองกับพื้น หุ่นแกะสลักหลายๆตัวก็เป็นของที่ทำขึ้นมาใหม่ ถ้าเดินชมแล้วมีคู่มือแนะนำว่าแต่ละที่ มีจุดสำคัญอะไรอยู่ตรงไหนด้วยจะสนุกและได้ความรู้มากขึ้น

ช่วงต้นพฤษภาคม ที่ผมไปเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวคนน้อยลงแต่ต้องแลกกับอากาศร้อนรุนแรงมาก เดินเที่ยวไปเหงื่อก็ออกเป็นน้ำ ผ้าเช็ดหน้านี่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ก็ได้อย่างเสียอย่างครับคนน้อยลงแต่ต้องทนร้อน

ในนครวัดก็มีพระสงฆ์มานั่งทำสมาธิให้เห็น

อาหารเขมรส่วนใหญ่เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ข้าวผัด ไม่ต่างจากบ้านเรามากนัก แต่ทุกจานรสชาติจะออกหวาน ใช้เงินได้ 3 สกุล บาทไทย,ดอลล่าร์สหรัฐ และเงินเรียว รับหมดทุกอย่าง ยกเว้นบ่อนที่ปอยเปตจะรับแต่เงินบาทไทยเท่านั้น อาหารราคามาตรฐานจะอยู่ที่ 3 เหรียญ แต่ถ้าไปกินตามสถานที่ท่องเที่ยวจะขึ้นเป็น 6 เหรียญ น้ำอัดลมกระป๋องละ 1 เหรียญ คนขายทุกที่จะพูดอังกฤษได้หมด หลายคนพูดไทยได้แม้แต่เด็กเล็กๆ ที่วิ่งมาตื๊อขายโปสการ์ด

รถตุ๊กๆที่วิ่งบริการในเสียมเรียบนับร้อยคัน

เป็นสถานที่เที่ยวใกล้บ้านในงบประมาณไม่สูง ที่ก่อนตายควรได้ไปเห็นครับ ตามวลี “see angkor and die”ความวิจิตรงดงามของงานแกะสลักบนหิน ร่องรอยความรุ่งเรืองของอาณาจักรขอม ความมหัศจรรย์ของฝีมือมนุษย์ที่เอาหินก้อนใหญ่ๆ มาวางต่อกันได้สนิทเป๊ะ สมกับที่ได้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (บางโพล)

ก่อนฝนตกที่ปราสาทแปรรูป

ฝากไว้เป็นข้อมูลการวางแผนเที่ยวครับ 4 วันผมหมดไปราวๆ 7,000บาท (หาร 10 คนแล้ว)

• ค่ารถตู้กรุงเทพ-สระแก้ว 700 บาท
• ค่ารถตู้รับที่ปอยเปตไปเสียมเรียบและพาเที่ยวตลอด 4 วัน คนขับพูดไทยได้ ติดต่อจองจากที่กรุงเทพ เฉลี่ยคนละ 1,500 บาท ก็สะดวกสำหรับการเที่ยวกลุ่มใหญ่ ไม่ต้องคอยหารถและต่อราคาตุ๊กๆ
• ค่าโรงแรม 3 คืน = 1,200 บาท
• แพงสุดคือค่าบัตร 3 วัน เหมาจ่ายทีเดียว 40 เหรียญ ได้บัตรห้อยคอแล้วผ่านประตู ดูได้ทุกปราสาท = 1,300 บาท
• ที่เหลือก็เป็นเงินติดกระเป๋า กินข้าว กินขนม เหล้าที่เขมรถูกกว่าเมืองไทยขวดนึง หลายร้อยบาทนะครับ หิ้วเข้าได้ เบียร์เหยือกนึงก็แค่ 3 เหรียญ

นักท่องเที่ยวกับไกด์ที่นครวัด