วันที่ 1 ตุลาคมนี้จะมีหนังรวมนักแสดงอีกหนึ่งเรื่องเข้าฉายในบ้านเรา ซึ่งเป็นนักแสดงแถวหน้าและมีชื่อกันทุกคน ไล่ตั้งแต่รุ่นใหญ่ Christopher Plummer จาก Knives out, William Hurt จาก Captain America: Civil War, Ed Harris จาก The Rock, Samuel L. Jackson จาก The Avengers และ Bradley Whitford จาก Get Out ส่วนรุ่นเล็กก็มี Sebastian Stan จาก Avengers: Endgame และ Jeremy Irvine จาก War House ในหนังสงคราม The Last Full Measure “วีรบุรุษโลกไม่จำ” ผลงานกำกับของ Todd Robinson จากหนังทหาร Phantom (2013) และหนังพีเรียด Lonely Hearts (2006) ซึ่งหนังเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยด้วย
หนังเป็นเรื่องราวของความพยายามที่จะพิสูจน์วีรกรรมของทหารหาญในสงคราม เพื่อขอพิจารณาเลื่อนระดับอิสริยาภรณ์จาก Air Force Cross (เหรียญกล้าหาญลำดับชั้นที่ 2) เป็น Medal of Honor (เหรียญเกียรติยศลำดับสูงสุด) สดุดีให้กับพลร่มกู้ภัยทางอากาศ (Pararescueman Jumper หรือ PJ) สังกัดกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ชื่อว่า William H. Pitsenbarger (บทของ Jeremy Irvin) เขาได้เสียสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารกว่า 60 นาย ระหว่างภารกิจช่วยเหลือในสงครามเวียดนาม เมื่อวันที่ 11 เมษายน 1966
เมื่อ Pitsenbarger ได้รับโอกาสให้อพยพกลับทางเฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้ายขณะที่ถูกระดมยิงอย่างหนักจากข้าศึก แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ในพื้นที่การรบต่อเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารในกองพลทหารราบที่ 1 (U.S. Army’s 1st Infantry Division) หนังจะเล่าเรื่องแบบตัดสลับไปมาระหว่างเหตุการณ์ในสงคราม กับการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบกับเพื่อนทหารที่เป็นประจักษ์พยานผู้ร่วมเหตุการณ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อขอพิจารณาเลื่อนระดับเหรียญกล้าหาญ ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ Scott Huffman (บทของ Sebastian Stan) ซึ่งเกิดขึ้นในอีก 30 ปีให้หลัง ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามเวียดนามสิ้นสุดไปแล้ว
ชื่อหนังเรื่องนี้มีที่มาจากส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์เกตตีสเบิร์ก (Gettysburg Address) ซึ่งเป็นหนึ่งในสุนทรพจน์ที่โด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่งของชาวอเมริกัน เพราะกล่าวขึ้นโดยอดีตประธานาธิบดี Abraham Lincoln โดยเป็นการกล่าวเพื่อสดุดีให้กับเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสมรภูมิ Gettysburg ช่วงระหว่างสงครามกลางเมือง
“For us to be here dedicated to the great task remaining before us that from these honored dead we take increased devotion to that cause for which they gave the last full measure of devotion” (เราต่างต้องอุทิศตนทำงานอันสำคัญที่อยู่เบื้องหน้าอย่างตั้งใจ เสมือนผู้วายชนม์อันทรงเกียรติทั้งหลายที่ยอมสละสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เหลืออยู่” The Last Full Measure จึงน่าจะหมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่เหลืออยู่ซึ่งหมายถึงชีวิตนั่นเอง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส