ล่วงมาจนถึงเดือนตุลาคมเกือบจะสิ้นปีกันอีกแล้ว แน่นอนว่าสำหรับชาวอเมริกันและชาวตะวันตกจะมีเทศกาลสำคัญอย่างฮาโลวีน Netflix จึงไม่พลาดจะขนหนังและซีรีส์สยองมาให้คอหนังได้ชมกันจุใจ ทั้ง The Little Stranger, ซีรีส์ The Haunting of Bly Manor และสยองขวัญดราม่าอย่าง Rebecca ส่วนฝั่งคอนเทนต์ไทยก็ขอสยองขวัญไปกับเขาด้วยอย่าง ลองของซีรีส์ และก็มีซีรีส์คุณภาพแห่งปีอย่าง ฉลาดเกมส์โกง ให้ได้ชม รวมถึงหนังไทยที่บอกเล่าบทบันทึกประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์คนเดือนตุลาอย่าง October Sonata รักที่รอยคอย ที่ต้องบอกเลยว่าหาชมได้ยาก (เข้าฉายตรงกับวันที่เหตุการณ์เกิดในเรื่องพอดี)
ฝั่งคอหนังที่ชอบความบันเทิงก็มีตั้งแต่ Mortal Kombat หนังที่สร้างจากเกมฮิตในอดีตที่ฉลองครบรอบ 25 ปีในปีนี้ หนังปลาฉลามยักษ์เรื่องล่าสุดอย่าง The Meg หรือหนังผจญภัยพีเรียดที่สนุกที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกอย่าง The Mummy คอหนังอวกาศจะได้ฉลอง 25 ปีให้กับผลงานหนัง Apollo 13 แถมด้วย First Man หนังที่เล่าเรื่องของยานอพอลโล 11 และ Neil Armstrong ปิดท้ายด้วยสารคดีน่าดูเรื่อง Light Up the Sky ของวง BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุดนาทีนี้จากเกาหลีใต้ และมีสมาชิกเป็นคนไทยหนึ่งคนคือลิซ่า ส่วนเรื่องอื่นจะมีอะไรอีกบ้าง ไปติดตามกันได้เลย
MORTAL KOMBAT (1995) – ดูได้ 1 ตุลาคม
Mortal Kombat ถูกสร้างเป็นหนังเมื่อปี 1995 เล่าเรื่องราวของนักสู้ที่จะต้องไปประลองกันบนเกาะลึกลับแต่ละคนต่างมีเหตุให้ต้องไปร่วมตัวกันที่นั้น ภายใต้การชักนำของ Lord Raiden เทพเจ้าสายฟ้าผู้เป็นตัวแทนของฝั่งธรรมะ ส่วนทีมต่อสู้นั้นประกอบไปด้วย Liu Kang ซึ่งต้องการจะไปแก้แค้นให้น้องชายหลังถูกพ่อมดฝ่ายอธรรม Shang Tsung ฆ่าตายไป นอกจากนั้นก็มีตัวละครจากเกมต้นฉบับไม่ว่าจะเป็น Sonya Blade และ Johnny Cage ที่ต้องมาสู้กับเหล่าตัวร้ายจากเกมอย่าง Sub-Zero, Scorpion และ Kano
ภาพจำที่คนไทยจำได้ก็คือ ทั้ง 2 ภาคได้ยกกองมาถ่ายทำกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หนังประสบความสำเร็จในฐานะหนังที่สร้างจากเกม ซึ่งน้อยเรื่องจะทำได้ในตลอดช่วง 25 ปีมานี้ ภาคต่อตามออกมาอีกหนึ่งภาคชื่อ Mortal Kombat: Annihilation (1997) ที่ไม่ได้กำกับโดย Anderson แต่ยังได้ Robin Shou และ Talisa Soto กลับมารับบทเดิมจากภาคแรก นี่เป็นหนังเรื่องแรก ๆ ของ Paul W.S. Anderson ก่อนจะมากำกับแฟรนไชส์ Resident Evil แบบยาว ๆ ถึง 6 ภาค (2002-2016)
- นักแสดง: Christopher Lambert, Robin Shou, Linden Ashby, Cary-Hiroyuki Tagawa, Bridgette Wilson-Sampras, Talisa Soto
- ผู้กำกับ: Paul W.S. Anderson (Resident Evil, Alien vs. Predator, Pompeii)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 18 / 122 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 48% / 5.8/10
CLICK (2006) – ดูได้ 1 ตุลาคม
หนังตลกเบาสมองแฝงแง่คิดของนักแสดงตลก Adam Sandler เรื่องราวของ Michael Newman ที่สละโสดกับแฟนสาวสวยจัด นามว่า Donna จนมีพยานรักจอมซนด้วยกัน 2 คน คือ แม้ว่าภรรยาจะสวยและลูกจะน่ารักเพียงใด แต่เขากลับไม่มีเวลาให้กับครอบครัว วัน ๆ เอาแต่ทำงานในบริษัทสถาปนิกยักษ์ใหญ่ร่วมกับเจ้านายยอดแย่ เขายอมทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่องานจนหงุดหงิดกับชีวิต พาลไปลงกับการที่เขาไม่สามารถแยกได้ว่าในบรรดารีโมตคอนโทรลที่วางกองอยู่ อันไหนเป็นรีโมตเปิดทีวีกันแน่?
Michael จึงเกิดความคิดว่าคงจะดีไม่น้อย ถ้ามีอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ทุกชนิดทั้งในห้องนอน ห้องน้ำ และทุกส่วนของบ้าน ร้อนถึงเพื่อนร่วมงานสติเฟื่องอย่าง Morty ที่รีบเสนอไอเดียวิเศษให้ Michael ด้วยสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคที่การันตีว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตวุ่นของไมเคิลเพราะมันสามารถทำให้เขาเดินทางย้อนเวลาสู่อดีต หรือไปในอนาคต ไม่นานนัก Michael เริ่มติดเจ้ารีโมตทรงพลังเครื่องนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น เขาจึงได้รับบทเรียนเป็นทั้งความดี ความชั่ว และความอัปลักษณ์ เมื่อรีโมตเริ่มครอบงำจิตใจของ Michael รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หนังยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาแต่งหน้าทำผมยอดเยี่ยมด้วย
- นักแสดง: Adam Sandler, Kate Beckinsale, Christopher Walken, David Hasselhoff, Sean Astin, Jonah Hill
- ผู้กำกับ: Frank Coraci (The Wedding Singer, The Waterboy, Zookeeper)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 82 / 240 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 34% / 6.4/10
ลองของ ซีรีส์ (2020) – ดูได้ 1 ตุลาคม
ตอนที่ลองของยังเป็นฉบับหนังนั้น เรียกว่าเป็นหนังสยองที่สร้างความสำเร็จให้กับค่ายไฟว์สตาร์อย่างมาก ทำให้มีการสร้างออกมาหลายภาคที่ไม่เกี่ยวเนื่องกัน ภาคแรกเมื่อปี พ.ศ. 2548 นั้นแจ้งเกิดผู้กำกับมือดีอย่าง ก้องเกียรติ โขมศิริ ให้กับวงการภาพยนตร์ไทยที่ต่อมาเขาได้กำกับทั้งเฉือน (2552) และขุนพันธ์ทั้ง 2 ภาค (2559 และ 2551) โดยภาคแรกทำรายได้ไป 30 ล้านบาท โดยหนังจะตีคู่ไปกับหนัง “คนเล่นของ” ที่มีทั้งหมด 3 ภาค (2547-2551) ในฉบับของหนังสั้นสยองขวัญเกี่ยวกับมนตร์ดำไสยศาสตร์หลายตอนหลายผู้กำกับ จนล่าสุดไฟว์สตาร์ก็ปัดฝุ่นมาทำใหม่ในฉบับซีรีส์
เมื่อถึงวันคัดเลือกเซ็นเตอร์ประจำทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัย ทุกคนต่างแข่งขันกันเพื่อให้ได้ตำแหน่งนี้มาครอบครอง พร้อมกับเหตุการณ์การลี้ลับที่เกิดขึ้นกับสมาชิกในทีมที่ยากจะหาคำตอบและที่มาของเหตุการณ์นั้น ใครจะได้เป็นเซ็นเตอร์ประจำทีม และใครคือผู้ริเริ่มการใช้คุณไสย มนตร์ดำ ซึ่งของแบบนี้ถ้าได้ลองแล้วจะติดตัวไปจนวันตาย ซีรีส์ขึ้นอันดับ 1 คอนเทนต์ที่มีผู้ชมชาวไทยชมสูงสุดตั้งแต่วันแรกที่เข้าสตรีม ซึ่งในฉบับที่ได้ชมบน Netflix จะเป็นเวอร์ชันไม่เซ็นเซอร์ต่างจากที่ได้ชมบนฟรีทีวีด้วย
- นักแสดง: ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์, เนเน่-พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์, ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์ กันคำ, เพียว-เพียวรินทร์ กอศิริวลานนท์, แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง, เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี
- ผู้กำกับ: ตั้ม-พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว
ซีรีส์ EMILY IN PARIS (2020) – ดูได้ 2 ตุลาคม
ซีรีส์ขายฝันของสาวอเมริกันผู้คล่องแคล่วที่ต้องย้ายมาทำงานให้บริษัทการตลาดที่มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส เธอได้พบกับหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ที่ส่งผลให้ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงไปทั้งในด้านความรัก การทำงาน และไลพ์สไตล์ในเมืองสุดหรู เพราะปารีสนั้นแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม แนวความคิด แล้วเธอยังมีปัญหาในการใช้ภาษาฝรั่งเศสด้วย ที่สำคัญการมาทำงานที่ฝรั่งเศสก็ทำให้เธอต้องห่างจากแฟนหนุ่มของตัวเองที่อยู่ในสหรัฐฯ รวมถึงการกีดกันจากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน ทำให้เธอต้องหาทางเรียนรู้ ปรับตัว ให้เข้ากับผู้คน (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
แต่ด้วยความที่เป็นคนคิดบวก ร่าเริง ก็ทำให้เธอได้พบเจอกับผู้คนที่ช่วยให้เธอสามารถเข้ากับปารีสได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เกเบรียล เชฟหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่เป็นเพื่อนร่วมอพารทตเมนต์ และ มินดี้ เพื่อนสาวจากจีนที่มาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในปารีสแล้วเกิดถูกชะตากับเอมิลี่ เรื่องนี้เป็นผลงานการสร้างล่าสุดของ Darren Star ผู้สร้าง Sex and the City ซีรีส์ผู้หญิงสุดแซ่บในอดีต ส่วนนางเอกนั้นก็ได้สาวหน้าใสซึ่งน่าจะมีผลงานหนังฮิต ๆ มาตั้งนานแล้วแต่ดันไม่ได้อยู่ในหนังฟอร์มยักษ์ที่ฮิตเสียทีอย่าง Lily Collins จาก The Mortal Instruments: City of Bones (2013) ซีซันแรกมีทั้งหมด 10 ตอน แต่ละตอนความยาวแค่ 30 นาทีจึงสามารถดูได้รวดเดียวจบแบบไม่ต้องใช้เวลานาน
- นักแสดง: Lily Collins, Philippine Leroy-Beaulieu, Ashley Park, Lucas Bravo, Samuel Arnold
- ผู้สร้าง: Darren Star (Producer and Writer- Sex in the City)
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 76% / 7.4/10
ฉลาดเกมโกงส์ เดอะ ซีรีส์ (2020) – ดูได้ 2 ตุลาคม
ดัดแปลงจากฉบับภาพยนตร์ซึ่งฮิตมากทั้งในไทยและระดับที่ต่างชาติอย่างจีนซื้อสิทธิ์ไปฉายจนทำรายได้ถล่มทลาย รวมถึงจะมีการนำไปรีเมกเป็นเวอร์ชันฮอลลีวูดอีกด้วย อย่ากระนั้นเลย ค่าย GDH จึงขอชิงรีเมกหนังมาเป็นซีรีส์ด้วยตัวเองก่อน และหลังจากฉายทางฟรีทีวีไปจนจบครบทุกตอนแล้ว คำชื่นชมก็ยังเป็นไปในทำนองว่า ซีรีส์นั้นไปได้ลึกและไกลกว่าฉบับหนัง ทั้งเรื่องของความหวังในการใช้การศึกษาเพื่อที่จะเปลี่ยนฐานะและสถานะทางสังคม การทำตาม Passion ของเด็กวัยรุ่น ม.ปลาย ที่แต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกัน แต่กลับต้องถูกวัดผลความสามารถด้วยคะแนนการสอบ การมีผลประโยชน์ทับซ้อนในโรงเรียน (อ่านรีวิวของซีรีส์เรื่องนี้ได้ที่นี่)
แม้ว่าโดยรวมของซีรีส์เรื่องนี้ จะมีภาพรวมที่ชวนให้คิดไปว่าจะดึงเอากลิ่นอายเดิมจากในหนังมาชัดเจน และให้หมายรวมไปถึงพล็อตที่เน้นหนักในเรื่องของการเปิดโปง ตีแผ่เรื่องราวดราม่าในโรงเรียน ทั้งเรื่องของความเหลื่อมล้ำ โอกาสทางการศึกษาที่มีไม่เท่ากัน รวมไปถึงประเด็นแป๊ะเจี๊ยะ การที่ครูหารายได้เสริมด้วยการติวพิเศษแล้วแอบเอาข้อสอบมาเฉลยก่อน อันนำไปสู่สาเหตุของการ “โกง” ตั้งแต่การโกงข้อสอบเล็ก ๆ ในโรงเรียน จนถึงการโกงข้อสอบระดับโลก
ชวนอ่าน “ส่อง 6 ปีแรกของ GDH: รุ่งหรือร่วง เมื่อเทียบกับ 6 ปีแรกของ GTH?“
- นักแสดง: จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน, เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน, ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต, นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์, แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, อุ๋ม-อาภาศิริ จันทรัศมี
- ผู้กำกับ: พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์
JOHNNY ENGLISH STRIKES AGAIN (2018) -ดูได้ 3 ตุลาคม
หลังจากปล่อยให้ชมสองภาคแรกในไตรภาคบน Netflix ไปแล้ว (ชวนอ่าน “รวมรายชื่อ “หนังสายลับ” ทั้งสายบู๊สุดมันและสายฮาสุดก๊าก บน Netflix“) เดือนนี้ Netflix ก็ปล่อยภาค 3 มาให้ได้ดูจนครบทุกภาค เรื่องราวของสายลับอังกฤษที่แทบจะถอดแบบ James Bond (ผสม Mr.Bean) กับภารกิจสุดป่วนสุดฮา
มาภาคนี้ เมื่อระบบความมั่นคงถูกแฮ็กจนสายลับใน MI7 ถูกเปิดโปง นายกหญิงแห่งเกาะอังกฤษจึงต้องจำใจในระดับกล้ำกลืนฝืนทนเรียกตัว Johnny English สายลับเพียงหนึ่งเดียวที่ยังไม่ถูกเปิดเผยตัวมาสืบหาอาชญากรไซเบอร์ ก่อนที่โลกจะถูกครอบงำในน้ำมือของทรชน โดยมี Ophelia Bhuletova (Olga Kurylenko ซึ่งเป็นสาว Bond ในตอน Quantum of Solace (2008) มาแล้ว) สายลับสาวสุดเร่าร้อนที่ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูคอยเป็นหอกข้างแคร่ในปฏิบัติการที่สายลับแห่งโลกอนาล็อคต้องต่อกรกับวายร้ายยุคใหม่ (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Rowan Atkinson, Emma Thompson, Olga Kurylenko, Michael Gambon, Charles Dance
- ผู้กำกับ: David Kerr
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 25 / 158 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 37% / 6.2/10
THE LITTLE STRANGER (2018) – ดูได้ 5 ตุลาคม
หนังสยองขวัญอีกเรื่องที่เหมาะกับเดือนแห่งเทศกาลฮาโลวีน ขึ้นชื่อว่าเป็นนิยายอีกเรื่องที่มีแฟน ๆ ติดตามฉบับนิยายในชื่อเดียวกันของนักเขียน Sarah Waters เป็นจำนวนมาก ถ้าใครที่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้ก็จะรู้ว่า เนื้อเรื่องของสร้างความหลอนสุดบรรยายและชวนอึ้งขนาดไหน เรื่องราวของคุณหมอที่ต้องไปดูแลลูกชายของบ้านเศรษฐีเก่าบ้านหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บมาจากสงคราม เขาต้องรักษาอาการแปลกประหลาดให้กับสมาชิกในบ้าน และต้องไปร่วมรับรู้เรื่องราวของคนในครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังนั้น หลังจากนั้นระบบใช้กระดิ่งสั่นเรียกคนรับใช้ แต่แล้วกระดิ่งก็เริ่มสั่นเองโดยที่ไม่มีใครสั่นเรียก
- นักแสดง: Domhnall Gleeson, Charlotte Rampling, Will Poulter, Ruth Wilson, Liv Hill
- ผู้กำกับ: Lenny Abrahamson (Room, Frank, What Richard Did)
- รายรับรวมทั่วโลก: 1 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 65% / 5.5/10
HUBIE HALLOWEEN (2020) – ดูได้ 7 ตุลาคม
หลังจากปูทางมาด้วย Click (2004) แล้ว นักแสดง Adam Sandler ที่ได้ปิดดีลใหญ่กับ Netflix หลายเรื่องก็ประเดิมผลงานสร้างที่เป็นออริจินัลคอนเทนต์กับ Netflix ในหนังตลกครอบครัวฉากหลังเป็นบรรยากาศเทศกาลฮาโลวีน (เรื่องนี้ Adam โชว์ฝีมือเขียนบทเองด้วย) เทศกาลสำคัญของชาวอเมริกันในเดือนนี้ หนังจะเล่าเรื่องราวของ นาย Hubie Dubois ที่อาศัยอยู่ในเมือง Salem และเขาก็หลังรักในเทศกาลฮาโลวีนเป็นอย่างมาก แต่ก็ด้วยความหลงรักนี้ก็เลยทำให้เขาได้กลายเป็นตัวประหลาดของสังคม จนกระทั่งมันเกิดเหตุการณ์สยองขวัญบางอย่างขึ้นและมีเพียงแค่ Hubie เท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือเมืองของเขาและเทศกาลฮาโลวีนนี้ไว้ได้ (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Adam Sandler, Peyton List, China Anne McClain, Julie Bowen, Steve Buscemi, Rob Schneider, Ray Liotta, Maya Rudolph, Kevin James, Tim Meadows
- ผู้กำกับ: Steven Brill (Mr. Deeds
OCTOBER SONATA รักที่รอคอย (2009) – ดูได้ 8 ตุลาคม
ภาพยนตร์ไทยที่เหมาะกับเดือนตุลาคมที่สุด เพราะเรื่องราวคำมั่นสัญญาของพระเอกนางเอกนั้นจะกลับมาเจอกันในวันที่ 8 ตุลาคมเหมือนเหตุการณ์ในเรื่อง October Sonata นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของพระเอกสุดฮอตในวันนี้อย่าง โป๊ป-ธนวรรธน์ ประกบกับนางเอก ก้อย-รัชวิน ในเรื่องราวรักสามเส้าโดยมี บอย-พิษณุ เป็นอีกหนึ่งตัวละคร เรื่องราวของ รวีเป็นลูกชายของครอบครัวชาวนา และแสงจันทร์ สาวโรงงานในครอบครัวยากจน รวีมีโอกาสเรียนหนังสือ ต่อมาเขาได้รับทุนไปศึกษาต่อในต่างประเทศ แล้วกลับมาเป็นอาจารย์และนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ประสบชะตากรรมแห่งความพ่ายแพ้ร่วมกันกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ในค่ำคืนแรกที่เขาและเธอได้พบกัน รวีนำพาแสงจันทร์ไปรู้จักกับวรรณกรรมเรื่อง “สงครามชีวิต” ผลงานของนักเขียนปัญญาชนรุ่นเก่าคนสำคัญอย่าง “ศรีบูรพา” ซึ่งเป็นดังแสงหิ่งห้อยที่ค่อย ๆ ผลักดันให้ผู้หญิงไม่รู้หนังสือตอนต้นเรื่องกลายเป็นนักอ่าน และกลายเป็นนักเขียน เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 รวมถึงเรื่องราวการเข้าป่าของนักศึกษาปัญญาชนหลังจากนั้น กลับส่งผลให้รวีและแสงจันทร์ต้องพลัดพรากจากกันอย่างปวดร้าว อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์นี้ได้เปลี่ยนแปลงแสงจันทร์ไปอย่างมหาศาล จากผู้หญิงคนหนึ่งที่หลงใหลแค่เพียงพระเอกหนัง “มิตร ชัยบัญชา” (แสงจันทร์พบรวีครั้งแรกที่งานศพของมิตร วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2513) มาสู่การเป็นนักเขียนในแนวทางเพื่อชีวิต
ส่วนแสงจันทร์นั้น การได้พบปะพูดคุยกับรวีเพียงคืนเดียวก็ส่งผลให้ชีวิตของเธอเดินหน้าไปอย่างมิอาจหยุดยั้ง เธอหนีจากการทารุณของป้า ไปเป็นสาวโรงงานเย็บผ้าที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือภาคค่ำ จากนั้นเธอยังได้เรียนรู้วิชาตัดเสื้อจากคุณนายผู้ดีเก่า แล้วถูกไล่ออกเพราะหาญกล้าเรียกร้องค่าแรง แสงจันทร์กลายเป็นเมียของลิ้ม ก่อนจะเป็นนักเขียนปัญญาชนที่เขียนวรรณกรรมเพื่อชนชั้นกรรมาชีพในที่สุด
ลิ้มเติบโตมากับพ่อและแม่ ขณะที่รวีและแสงจันทร์เป็นลูกกำพร้า ซึ่งเติบโตขึ้นมาโดยไร้พ่อแม่คอยเลี้ยงดู เขาใฝ่ฝันถึงการมีครอบครัว ลิ้มยังขยันทำมาหากินจนตั้งตัวเป็นเถ้าแก่ได้สำเร็จ เขาไม่เหมือนรวีกับแสงจันทร์ที่เลือกทำตัวเป็นคนหัวขบถ รวีผู้พ่ายแพ้ออกมาจากป่าการหนีเข้าป่ามาเพิ่งลิ้ม ศัตรูหัวใจ แต่ลิ้มก็เป็นผู้นำงานเขียนของแสงจันทร์ที่รวีตรวจแก้ไขเรียบร้อยแล้วก่อนจะเสียชีวิตไปส่งให้สำนักพิมพ์พิจารณา นอกจากนั้น ลิ้มยังซื้อและพยายามคงสภาพของโรงแรมบังกะโลริมชายหาดที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของรวีและแสงจันทร์เอาไว้ด้วย
- นักแสดง: โป๊ป-ธนวรรธน์, ก้อย-รัชวิน, บอย พิษณุ
- ผู้กำกับ: สมเกียรติ วิทุรานิช (มะหมา 4 ขาครับ, เขียนบท-ไอ้ฟัก)
ซีรีส์ THE HAUNTING OF BLY MANOR (2020) – ดูได้ 9 ตุลาคม
ซีรี่ส์ดัดแปลงจากนิยายสยองขวัญขนาดสั้นชื่อ “The Truth of the Screw” ของ Henry James ที่ตีพิมพ์ในปี 1898 และเพิ่งถูกสร้างเป็นหนังออกมาใหม่ไม่นานนี้ชื่อว่า The Turning (2020) มีฉากหลังเป็นยุค 80s บอกเล่าเรื่องราวของพี่เลี้ยงเด็กชาวอเมริกันที่ถูกจ้างให้ไปดูแลเด็กสองคนที่พ่อแม่เพิ่งเสียชีวิต อาของเด็กทั้งสองไม่อยากจะเลี้ยงหลานเอง จึงได้ให้สิทธิ์ขาดในการดูแลเด็ก ๆ อยู่ที่พี่เลี้ยง โดยเธอต้องไปอยู่กับเด็กๆ ในคฤหาสน์หลังใหญ่ชื่อว่า “บลาย” ในชนบทของอังกฤษ และพบว่าคฤหาสน์แห่งนี้มีความลับดำมืดซ่อนอยู่ (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
ซีรีส์จะเป็นผลงานสร้างของ Mike Flanagan ที่พาเรากลับไปเยี่ยมโรงแรมผีสิงใน Doctor Sleep และคืนชีพให้เรื่องราวบ้านผีสิง The Haunting of Hill House ในรูปแบบของซีรีส์สยองขวัญสุดฮิตทาง Netflix มาแล้ว
- นักแสดง: Henry Thomas, Victoria Pedretti, Andrew Neil McKenzie
- ผู้สร้าง: Mike Flanagan (Doctor Sleep, Gerald’s Game, Ouija: Origin of Evil)
THE MEG (2018) – ดูได้ 10 ตุลาคม
หนังสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ที่รอบนี้มาเป็นฉลามเรื่องล่าสุดและประสบความสำเร็จจนมีแผนจะสร้างภาคต่อกันในตอนนี้แล้ว หนังดัดแปลงจากนิยาย “Meg: A Novel of Deep Terror” ของ Steve Alten เรื่องราวว่าด้วยการกู้ภัยมนุษย์จากการอาละวาดของฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ “เม็กกาโลดอน” (Carcharodon megalodon) ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของฉลามขาวที่มีลำตัวใหญ่ราว 20-22 เมตร ถูกคาดไว้ว่า สามารถกัดไดโนเสาร์พันธุ์ทีเร็กซ์ขาดเป็นสองท่อนได้ในไม่กี่วินาที
Jonas Taylor อดีตกัปตันของกองทัพเรือและนักดำน้ำทะเลลึก ได้รับการติดต่อจาก Dr. Suyin หัวหน้านักสมุทรศาสตร์ของศูนย์วิจัยใต้ทะเลลึกนานาชาติของจีนให้มากู้ภัยทีมวิจัยที่ติดอยู่ใต้ทะเลหลังจากพบฉลามเม็กกาโลดอนมาอาละวาด Jonas เคยเผชิญหน้ากับเจ้าเม็กกาโลดอนมาก่อนในภารกิจของกองทัพเรือ ทำให้เขายกเลิกภารกิจและทอดทิ้งลูกเรือจนต่อมาทำให้เขาถูกปลดออกจากองทัพ เขาจึงต้องทำใจเพื่อเผชิญหน้าความกลัวนั้นอีกครั้งในภารกิจกู้ภัยครั้งนี้ในการช่วยทุกคนที่ติดอยู่ในศูนย์วิจัยใต้ทะเล (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Jason Statham, Bingbing Li, Rainn Wilson, Cliff Curtis, Ruby Rose
- ผู้กำกับ: Jon Turteltaub (National Treasure 1-2, The Sorcerer’s Apprentice, While You Were Sleeping)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 130 / 530 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 46% / 5.6/10
BLACKPINK: LIGHT UP THE SKY (2020) – ดูได้ 14 ตุลาคม
Netflix นั้นขึ้นชื่อเรื่องการสร้างสารคดีคนดังให้ออกมาน่าดูอยู่แล้ว แต่กับเรื่องนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะจะเป็นสารคดีเรื่องแรกของเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในโลก ณ เวลานี้อย่างวง BLACKPINK สารดคีที่เป็นออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix เรื่องราวจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่เป็นศิลปินฝึกหัดจนมาถึงความสำเร็จในระดับโลกอย่างทุกวันนี้ จะได้เห็นภาพแรกในกระบวนการอัดเสียง ได้เห็นจังหวะขึ้นลงของการเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเคพอป ความสามารถอันเหลือเชื่อของสมาชิกที่มารวมตัวกันจนกลายเป็นวงที่มีชื่อเสียง และภาพประวัติศาสตร์บนเวที Coachella 2019 ที่พวกเธอทำให้ BLACKPINK กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกแห่งของโลก
ถ่ายทอดโดยผู้กำกับ Caroline Suh ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ เธอเล่าว่า คนดูจะได้เห็นสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับ Ji-soo Jennie Rose และ Lisa จนเราได้เห็นการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติและตรงไปตรงมาของพวกเธอ ซึ่งผู้ชมเองก็จะรับรู้ได้ถึงตัวตนของ BLACKPINK และจะได้เห็นความทุ่มเท การเตรียมตัวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของสมาชิกทุกคนในทุกๆ เพลงฮิต ไปจนถึงการแสดงที่สร้างประวัติศาสตร์ และการทัวร์คอนเสิร์ตที่บัตรขายหมดอย่างรวดเร็ว (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: วง BLACKPINK
- ผู้กำกับ: Caroline Suh (Salt Fat Acid Heat)
CRAZY RICH ASIANS (2018) – ดูได้ 15 ตุลาคม
หนังฮอลลีวูดที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนชาวเอเชียและกลายเป็นหนังฮิตเมื่อปี 2018 เรื่องราวสาวนิวยอร์กแท้ ๆ อย่าง Rachel Chu ที่เธอต้องเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทของ Nick Young แฟนหนุ่มเธอที่ประเทศสิงคโปร์ ไม่เพียงแต่จะตื่นเต้นที่จะได้ไปเยือนเอเชียเป็นครั้งแรกเท่านั้น แต่เธอยังกังวลที่จะต้องไปพบกับครอบครัวของ Nick อีกด้วย และเธอก็ได้เรียนรู้อย่างไม่ทันตั้งตัวว่า นอกจากที่ Nick จะเป็นทายาทคนหนึ่งขอบครอบครัวที่รวยที่สุดในประเทศเท่านั้น แต่เขายังเป็นหนุ่มที่ถูกหมายปองมากที่สุดอีกด้วย ซึ่งการคบกับ Nick ในครั้งนี้ทำให้เธอกลายเป็นเป้าหมายของความอิจฉาจากวงสังคม และเลวร้ายยิ่งกว่า เพราะแม่ของ Nick ดันไม่ชอบเธออีกด้วย
หนังยืนตามนิยายได้ดี ทุกอย่างมีความเป็นเอเชี่ยนในแง่ศิวิไลซ์ชวนฝันกันแบบสุดกู่ ทั้งความร่ำรวยเกินจินตนาการของฝั่งพระเอกที่พาผู้ชมราวโลดแล่นไปในโลกแฟนตาซี พระเอกที่แสนสุภาพมาดแมนมีเสน่ห์ใคร ๆ ก็รู้จักอยากจับจอง ฝั่งนางเอกก็แสนน่าสงสารน่าเอาใจช่วย มีความสามารถแต่ฐานะธรรมดาจนถูกกีดกันถูกเหยียดหยามกลั่นแกล้ง ยิ่งพวกลูกคู่ตัวประกอบทั้งหลายก็แย่งซีนด้วยความตลกความน่ารักไม่แพ้กัน (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Henry Golding, Michelle Yeoh, Gemma Chan, Awkwafina, Constance Wu, Lisa Lu
- ผู้กำกับ: Jon M. Chu (G.I. Joe: Retaliation, Now You See Me 2, Step Up 2: The Streets)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 30 / 238 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 91% / 6.9/10
THE TRIAL OF THE CHICAGO 7 (2020) – ดูได้ 16 ตุลาคม
หนังจะเล่าเรื่องจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นปี 1969 ซึ่งเป็นเหตุการณ์การประท้วงของประชาชนต่อต้านการเข้าสู่สงครามเวียดนามของสหรัฐฯ และตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลว่า เข้าแทรกแซงงานการเลือกตัวแทนชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตเมื่อปี 1968 เรื่องจะไม่เป็นเรื่องถ้าการประท้วงอยู่ในความสงบ แต่เกิดมีการปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างตำรวจกับประชาชน และมีจับกุมผู้ต้องหาไป 7 คน จนเข้าสู่กระบวนการทางศาล และกลายเป็นคดีที่ถูกกล่าวขวัญยาวนาน
หากใครที่ชื่นชอบหนังจากการเขียนบทของ Aaron Sorkin มือเขียนของหนังที่ดูสนุกแม้จะเต็มไปด้วยบทสนทนาตลอดทั้งเรื่อง เช่น The Social Network (2010), Moneyball (2011) หรือหนังเก่าน้ำดี A Few Good Men (1992) ต้องรอติดตามผลงานใหม่ของเขา The Trial of the Chicago 7 เรื่องนี้เป็นการเขียนบทและกำกับของ Sorkin ด้วย ซึ่งหนังที่ Aaron Sorkin เข้าไปเขียนบทหรือกำกับมักจะไปขึ้นเวทีออสการ์เสมอ ดังนั้นด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นผสมกับทีมนักแสดงคุณภาพ หนังคงกลายเป็นตัวเก็งออสการ์ได้ไม่ยาก (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Eddie Redmayne, Sacha Baron Cohen, Mark Rylance, Frank Langella, Michael Keaton, Joseph Gordon-Levitt, Jeremy Strong, Yahya Abdul-Mateen II
- ผู้กำกับ: Aaron Sorkin (Molly’s Game, Screenplay-The Social Network, A Few Good Men)
REBECCA (2020) – ดูได้ 21 ตุลาคม
Rebecca เป็นหนังที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันของ Daphne Du Maurier ว่าด้วยเรื่องราวของคู่ข้าวใหม่ปลามัน Maxim de Winter (Armie Hammer) และ Mrs. de Winter (Lily James) ที่เดินทางมาถึงคฤหาสน์เก่าแก่อันวังเวงของตระกูลฝ่ายชาย ณ ชายฝั่งของประเทศอังกฤษ ฝ่ายหญิงจะต้องรับมือกับอดีตของภรรยาคนแรกอันเลอโฉมที่ชื่อ Rebecca ซึ่งยังทิ้งมรดกแห่งความทรงจำเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้ แม้จะจากโลกไปเนิ่นนานแล้ว (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
หนังเคยสร้างมาแล้วในชื่อเดียวกันนี้ ผลงานของผู้กำกับระดับตำนาน Alfred Hitchcock เมื่อปี 1940 ในครั้งนั้นหนังคว้ามา 2 รางวัลออสการ์ ซึ่งเป็นระดับสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และกำกับภาพยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ส่วนนักแสดงอย่าง Armie Hammer และ Lily James ก็เป็นนักแสดงมากฝีมือที่กำลังสร้างชื่อเสียงในหนังหลากหลายแนว รายแรกนั้นแจ้งเกิดมาจากหนังคุณภาพ The Social Network (2010) และโด่งดังมาจากหนังรัก Call Me By Your Name (2017) ส่วนรายหลังแจ้งเกิดจากหนัง Cinderella (2015) และเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาก Baby Driver (2017) และล่าสุด Yesterday (2019)
- นักแสดง: Armie Hammer, Lily James, Kristin Scott Thomas, Sam Riley, Keeley Hawes, Tom Goodman-Hill
- ผู้กำกับ: Ben Wheatley (High-Rise, Free Fire, A Field in England)
THE ALIENIST: ANGEL OF DARKNESS (2020) – ดูได้ 22 ตุลาคม
ในซีซันแรกได้รับคำชื่นชมอย่างหนาหูในการเป็นซีรีส์พีเรียดนำเสนอภาพสังคมอเมริกาในศตวรรษที่ 19 ออกมาได้ถี่ถ้วน อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดที่สวยงามและภาพสะท้อนอันน่าหดหู่ เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องในปี 1896 โดยมีนักจิตวิปลาส Dr. Laszlo Kreizler นักวาดภาพหนังสือพิมพ์ John Moore ร่วมกับเลขาสาวในกรมตำรวจ Sara Howard ที่อาศัยความช่วยเหลือจากผู้มีฝีมือเพื่อระดมสมองไขปริศนาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่ตัวคนร้าย ใครที่ชอบซีรีส์แนว Mindhunter, Hannibal หรือ Sherlock ก็น่าจะชอบเรื่องนี้
ความน่าสนใจของ The Alienist คือการพาคนดูย้อนไปอยู่ในเรื่องราวที่มีฉากหลังเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งเทคโนโลยีและด้านการเมืองการปกครอง ซีรีส์ได้หยิบเอาเรื่องราวประวัติศาสตร์ มาผสมกับเรื่องราวของตัวเองอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นยุคแห่งการเรียกร้อง สิทธิสตรี ยุคแห่งการวิวัฒนาการยุคแรกเริ่มของภาพยนตร์ และฐานะและชนชั้นของผู้คนในยุคนั้น ส่วนการสืบสวนในเรื่องนี้จะทำให้นึกถึงซีรีส์อย่าง True Detective ด้วยการสืบสวนที่ดำเนินเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป และค่อยๆ เปิดเผยความจริงทีละเล็กละน้อยต่อคนดู นอกจากพลอตเรื่องการสืบสวนสอบสวนแล้วก็ยังมีพลอตรอง อย่างเรื่องรักสามเส้าและเรื่องราวปมในจิตใจของแต่ละตัวละคร ต้องมาติดตามกันต่อในซีซัน 2 ว่าคดีใหม่และความเข้มข้นจะมากขึ้นขนาดไหน
- นักแสดง: Daniel Brühl, Dakota Fanning, Luke Evans, Robert Wisdom, Douglas Smith, Ted Levine
- ผู้สร้าง: Cary Joji Fukunaga & Steve Golin
THE QUEEN’S GAMBIT (2020) – ดูได้ 23 ตุลาคม
The Queen’s Gambit ดัดแปลงจากนิยายของ Walter Tevis ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1983 เนื้อเรื่องมีฉากหลังอยู่ในช่วงสงครามเย็นเล่าเรื่องราวของ Beth Harmon หญิงสาวที่ถูกพ่อแม่ทิ้งในช่วงปลายยุค 1950s เธอรับมือกับความโดดเดี่ยวด้วยการฝึกหมากรุกจนกลายเป็นนักเล่นผู้เก่งกาจ ขณะเดียวกันเธอก็ได้พัฒนายากล่อมประสาทที่ทำให้เธอสงบลง ถึงแม้ว่าปิศาจภายในตัวที่ซ่อนอยู่และอาการเสพติดยาจะทำให้ชีวิตของเธอต้องวุ่นวายและซับซ้อนไม่สิ้นสุด แต่ Beth ก็กลายเป็นผู้หญิงที่เข้ามาทลายโลกแห่งการแข่งขันหมากรุกที่ในยุคนั้นเป็นแค่โลกของผู้ชาย ลิมิเต็ดซีรีส์จะดำเนินไปทั้งหมด 7 ตอนด้วยกัน (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Anya Taylor-Joy, Harry Melling, Thomas Brodie-Sangster, Bill Camp
- ผู้กำกับ: Scott Frank (A Walk Among the Tombstones, Screenplay-Logan, The Wolverine)
OVER THE MOON (2020) – ดูได้ 23 ตุลาคม
Over The Moon จะบอกเล่าเรื่องราวของ เฟย เฟย (Cathy Ang) สาวน้อยผู้เติบโตมากับตำนานของเทพธิดาฉางเอ๋อ (Phillipa Soo) จนวันหนึ่งเด็กสาวคนหนึ่งที่ต้องการพิสูจน์ความฝันของเธอด้วยการสร้างจรวดเพื่อเดินทางไปยังดวงจันทร์เพื่อค้นหาการมีอยู่ของเทพีจันทรา โดยมีเพื่อนร่วมทางสุดป่วนร่วมทางทั้ง ชิน (Robert G. Chiu) และ โกบี (Ken Jeong) สิ่งมีชีวิตลึกลับ Netflix เชี่ยวชาญอยู่พอตัวหลังจากพาหนังแอนิเมชันอย่าง Klaus และ I Lost Mu Body เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว ในปีนี้ก็อาจจะมีหนังไปเข้าชิงอีกเรื่องก็คือเรื่องนี้ (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF)
- พากย์เสียงโดย: John Cho, Phillipa Soo, Ken Jeong, Sandra Oh, Cathy Ang, Robert G. Chiu
- ผู้กำกับ: Glen Keane & John Kahrs
THE BOURNE IDENTITY (2002) – ดูได้ 23 ตุลาคม
แฟรนไชส์ The Bourne กลายเป็นหนังชุดสายลับที่ฮิตขึ้นมาเกินคาดเทียบชั้น James Bond ถึงขนาดเปลี่ยนทิศทางหนัง 007 ให้มาเน้นความสมจริงดุดันใน 5 ตอนหลังมานี้ หนังเริ่มเรื่องหลังเขาฟื้นตัวขึ้นบนเรือประมง ชายนิรนามพบกระสุนสองนัดฝังหลัง พร้อมกับแท่งเหล็กปริศนาที่มีแสงส่องเป็นเบอร์บัญชีธนาคารในเมืองซูริก เขาจำเหตุการณ์ก่อนหน้าสองสัปดาห์ไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หนำซ้ำยังไม่รู้ชื่อของตัวเองอีก เเขาพบกับความจริงที่ปรากฏอยู่ในตู้เซฟธนาคารที่ซูริก นั่นคือ เขานั่นมีพาสปอร์ตหลายเล่ม เงินหลายสกุล และได้รู้ว่าเขาชื่อ “เจสัน บอร์น” หลังจากนั่นเขาได้เดินทางตามสืบเรื่องตัวเองต่อไป โดยถูกทางตำรวจไล่ล่าตามจับเขา จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากสาวเยอรมันที่กำลังถังแตกชื่อ Marie เธอต้องช่วยเขาจากการตามล่าของข่าวกรองซีไอเอที่ส่งสายลับมาเก็บเขาเพราะความลับในอดีตที่เขามี
ในตอนที่จะเริ่มสร้างนั้น ผู้กำกับ Doug Liman มีโพรเจกต์หนังเรื่องใหม่ที่จะดัดแปลงจากนิยายสายลับของ Robert Ludlum อยู่ในมือ เขาบอกว่ามันเป็นนิยายยอดนิยมของสนามบินในอเมริกาเลย ทุกที่จะมีชั้นวางนิยายเรื่องนี้ Matt Damon เคยอ่านเล่มนี้ไปตอนประมาณอายุ 21-22 ตอนที่ยังต้องคอยกระเสือกกระสนเพราะไม่มีใครจ้างงาน ตอน Doug มาชวนเล่นหนังเรื่องนี้ทำให้เขาเซอร์ไพรส์มาก เพราะตัวละคร Bourne ในหนังสือแก่กว่าตัวเขาเยอะ นอกจากนั้น Doug ยังบอกว่า เขาไม่อยากทำหนัง James Bond แต่ตีความหนังออกไปทาง La Femme Nikita (1990) ฉบับยุโรปมากกว่า Matt ยังกล่าวอีกว่า หนังเรื่องนี้ช่วยการงานเขาไว้อย่างมหันต์ หลังจากนั้นผู้กำกับต่างก็โทรหาเขาเพื่อจ้างไปเล่นหนังเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง
- นักแสดง: Matt Damon, Clive Owen, Chris Cooper, Brian Cox, Franka Potente
- ผู้กำกับ: Doug Liman
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 60 / 214 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 83% / 7.9/10
THE MUMMY (1999) – ดูได้ 23 ตุลาคม
หนึ่งในหนังผจญภัยที่สนุกที่สุดในโลกภาพยนตร์กับ The Mummy ที่มีภาคต่อตามออกมา 2 ภาค หนึ่งในแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของค่าย Universal ผู้ถือครองลิขสิทธิ์เกี่ยวกับตัวละครมัมมี่ แม้จะพยายามใช้เปิดเรื่องเพื่อปูสู่ Dark Universe ในฉบับหนังปี 2017 แต่หนังก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ในปี 1999 นั้น หนังเป็นผลงานกำกับของ Stephen Sommers จาก Van Helsing (2004) และ G.I. Joe: The Rise of Cobra (2009) ที่กำลังขาขึ้นและทำหนังผจญภัยสนุก ๆ ออกมาหลายเรื่องในช่วงนั้น
หนังเล่าเรื่องย้อนเวลาไปยุคปี 1926 เมื่อตัวร้ายอย่างกษัตริย์อียิปต์ในอดีต Imhotep ถูกปลุกชีพขึ้นมาสร้างหายนะให้กับโลก ครอบครัวนักประวัติศาสตร์ในมาด Indiana Jones ที่นำทีมโดย Rick O’Connell รับบทโดย Brendan Fraser (ที่กลายเป็นหนังที่ฮิตที่สุดของเขา ขณะที่ทุกวันนี้ไม่มีหนังให้เล่น และออกมาของานจากวงการอยู่เรื่อย ๆ) และนางเอกของเรื่อง Rachel Weisz ที่กลายเป็นนางเอกรางวัลออสการ์ไปแล้วสร้างเคมีที่เข้าคู่และทำให้หนังผจญภัยเรื่องนี้สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ หนังทำรายได้ไม่น้อย แต่ภาค 2 The Mummy Returns ในปี 2001 กลับยิ่งทำรายได้สูงไปกว่านั้น ก่อนจะมาแผ่วปลายในภาค 3 Tomb of the Dragon Emperor ในปี 2008 ที่เปลี่ยนผู้กำกับ และเปลี่ยนทิศมาเล่าเรื่องมัมมี่ที่สุสานจีน Weisz ถอนตัวและได้ Maria Bello มาเล่นแทนแบบไม่มีเสน่ห์เลย
- นักแสดง: Brendan Fraser, Rachel Weisz, John Hannah, Arnold Vosloo, Kevin J. O’Connor
- ผู้กำกับ: Stephen Sommers (The Mummy Returns, Van Helsing, G.I. Joe: The Rise of Cobra)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 80 / 415 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 61% / 7/10
THE TWILIGHT SAGA (2008-2012) – ดูได้ 23 ตุลาคม
แฟรนไชส์แวมไพร์ Twilight ที่เป็นนิยายฮิตและต่อมาก็กลายเป็นหนังวัยรุ่นสุดฮิตช่วงทศวรรษ 2010s เช่นกัน ฮิตแค่ไหนถ้าดูจากทุนสร้างและรายรับรวมทั่วโลกทั้งหมด 5 ภาค หนังก็ทำรายได้ไปทั้งหมด 3,317 จากทุนสร้างแค่ 480 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น หนังสือและหนังเรื่องราวความสัมพันธ์แบบรักสามเส้าในช่วงแรก ๆ ของหนึ่งแวมไพร์อมตะอย่าง Edward Cullen หนึ่งมนุษย์หมาป่าขี้เหงา Jacob Black และมนุษย์ยิ่งสาวที่ไม่อยากจะเลือกใคร อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคนอย่าง Bella Swan
The Twilight Saga นั้นนับเป็นหนังในวัฒนธรรมพ็อพของวัยรุ่นยุค 10 ปีมานี้ และนำโครงเรื่องหลักด้วยรักสามเส้าเช่นเดียวกับแฟรนไชส์ The Hunger Games แตกต่างตรงที่ฉากหลังของเรื่องราวนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์แวมไพร์รักสงบกับฝั่งแวมไพร์ที่อยากยึดครองอำนาจ และมีมนุษย์หมาป่าเป็นอีกกลุ่มที่มาร่วมสู้กับแวมไพร์ฝ่ายดี (ก็เพราะ Bella เป็นตัวแปรหลัก)
เกร็ดน่ารู้ของหนังก็คือ นักแสดงคนแรกที่ Stephenie Meyer ผู้เขียนหนังสือ อยากให้มารับบท Edward คือ Henry Cavill แต่ขณะที่จะเริ่มสร้างภาพยนตร์ Cavill อายุ 25 ปีแล้ว จึงไม่เหมาะจะแสดงเป็นตัวละครอายุ 17 ปี บทจึงตกเป็นของ Robert Pattinson ที่เดินทางจากอังกฤษไปที่บ้านของผู้กำกับ Catherine Hardwicke เพื่อทดสอบบทกับ Kristen Stewart ที่ได้รับเลือกให้แสดงบท Bella ไปแล้ว ต้องลองแสดงฉากรักและฉากทุ่งหญ้าด้วยกันบนเตียงนอนของ Catherine เอง
- นักแสดง: Kristen Stewart, Robert Pattinson, Taylor Lautner, Mackenzie Foy, Maggie Grace, Anna Kendrick, Michael Sheen, Dakota Fanning
- ผู้กำกับ: Catherine Hardwicke, Chris Weitz, David Slade, Bill Condon
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 418 / 3,317 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating:
- ภาค 1 49% / 5.2/10
- ภาค 2 28% / 4.7/10
- ภาค 3 48% / 5/10
- ภาค 4.2 49% / 5.5/10
APOLLO 13 (1995) – ดูได้ 23 ตุลาคม
ฉลองครบรอบ 25 ปีในปีนี้อีกหนึ่งเรื่อง สำหรับหนังอวกาศคุณภาพเรื่องนี้ อพอลโล 13 ถูกส่งขึ้นไปหลังจากนั้นความสำเร็จของอพอลโล 11 ที่พา Neil Armstrong ไปถึงดวงจันทร์แค่เพียงหนึ่งปี ความล้มเหลวคือนอกจากไม่ได้แตะผิวดวงจันทร์แล้ว ยังกลับกลายเป็นปฏิบัติการกู้ภัยอันแสนกดดันให้กับ Jim Lovell ผู้บัญชาการยานและอีกสองนักบินร่วมชะตากรรมไปแทน หนังยังนำเสนอสภาพจิตใจของตัวละครทั้งเรื่องอย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสามนักบินที่ลอยเคว้ง ครอบครัวที่เฝ้าติดตามความเป็นไป และทีมงานภาคพื้นทำงานอย่างหนักเพื่อกู้ชีวิตของเหล่านักบินอวกาศให้ได้
Apollo 13 (1995) นี่คือหนังที่ได้เข้าชิงภาพยนตร์ออสการ์ยอดเยี่ยมและอีก 8 สาขา และคว้ามาได้ 2 สาขาคือ ผสมเสียงยอดเยี่ยมและตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม 3 นักแสดงนำ Tom Hanks, Kevin Bacon และ Bill Paxton รับบทเป็นนักบินอวกาศที่ต้องหาทางเอาตัวรอดระหว่างติดอยู่ในยานอวกาศ ระหว่างที่เดินทางกลับโลกแล้วเกิดปัญหายานไปต่อไม่ได้ Ron Howard ผู้กำกับของเรื่องเล่าว่า Tom Hanks อยากเล่นเป็นนักบินอวกาศมาโดยตลอด แถมเมื่อหลายปีก่อนหนังจะสร้างก็เคยถามเขาว่า ทำไมไม่มีใครนำเรื่องราวของยานอพอลโล 13 ไปทำหนังสักที
- นักแสดง: Tom Hanks, Bill Paxton, Kevin Bacon, Gary Sinise, Ed Harris, Kathleen Quinlan
- ผู้กำกับ: Ron Howard (A Beautiful Mind, The Da Vinci Code, Rush, Frost/Nixon)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 52 / 355 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 96% / 7.6/10
INGLOURIOUS BASTERDS (2009) – ดูได้ 23 ตุลาคม
หนึ่งในหนังสุดแสบของผู้กำกับสุดจี๊ดอย่าง Quentin Tarantino ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้างแล้วเมื่อเขากำกับมาถึงหนังพีเรียดในบรรยากาศสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องนี้ หนังเข้าชิงถึง 8 รางวัลออสการ์ (รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย) ซึ่งหนังตลกร้ายสุดบันเทิงสักเรื่องจะมาไม่ได้ไกลขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ชื่อชั้นและบารมีของผู้กำกับ Tarantino ส่วนของดีของตัวหนังเองก็คือ ทีมนักแสดงที่โชว์ฝีมือกันไม่ยั้ง หนึ่งในนั้นได้รางวัลออสการ์สมทบชายยอดเยี่ยมไปครองก็คือ Christoph Waltz
ในปี 1941 Col. Hans Landa นำทหารนาซีเข้าตรวจค้นฟาร์มโคนมแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่หลบภัยของชาวยิว เขาพบว่ามีครอบครัวชาวยิวหลบซ่อนอยู่ที่ห้องใต้ดิน จึงสั่งลูกน้องกราดยิงคนทั้งหมด มีเพียงเด็กหญิงคนหนึ่งหลบหนีไปได้ 3 ปีต่อมา ชาวยิวรวมตัวกันก่อตั้งกลุ่ม “แก๊งโคตรแสบ” นำโดยร้อยโท Aldo Raine เขารวมกลุ่มทหารอเมริกันเชื้อสายยิวออกแก้แค้นทหารนาซีอย่างโหดเหี้ยมจนเป็นที่เลื่องลือ โดยเฉพาะการใช้มีดกรีดหน้าผากเป็นเครื่องหมายสวัสดิกะเพื่อเป็นการประจาน
ในเวลาเดียวกัน Shosanna เด็กหญิงที่รอดตาย เติบโตขึ้นและเปลี่ยนชื่อ เธอทำกิจการโรงภาพยนตร์อยู่ที่ปารีสและได้พบกับ Fredrick Zoller พลซุ่มยิงเยอรมันที่กลายเป็นวีรบุรุษสงคราม วีรกรรมของเขาถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อและได้จัดฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์มาที่โรงภาพยนตร์ของเธอเพื่อเป็นการโปรโมต โดย Adolf Hitler ผู้นำนาซีสูงสุดก็จะมาร่วมงานนี้ด้วย เธอจึงวางแผนจะแก้แค้นนาซีที่พรากเธอจากครอบครัว ส่วนกลุ่มแก๊งโคตรแสบทราบข่าวการฉายภาพยนตร์รอบพิเศษดังกล่าว ก็ได้วางแผนที่จะก่อวินาศกรรมในงานนี้ด้วย โดยความร่วมมือจาก Bridget von Hammersmark นักแสดงสาวชื่อดังชาวเยอรมัน เธอเป็นสายลับสองหน้าที่ช่วยพาแก๊งโคตรแสบเข้างาน
- นักแสดง: Brad Pitt, Diane Kruger, Christoph Waltz, Eli Roth, Mélanie Laurent, Michael Fassbender, Daniel Brühl, Til Schweiger
- ผู้กำกับ: Quentin Tarantino (Kill Bill, Once Upon a Time… In Hollywood, Pulp Fiction)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 70 / 321 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 89% / 8.3/10
THE PURGE: ANARCHY (2014) – ดูได้ 23 ตุลาคม
เมื่อเดือนที่แล้ว Netflix เอาภาค 4 The First Purge (2018) มาให้ได้ดูกัน เดือนนี้ย้อนกลับมาที่เรื่องราวของภาค 2 ชื่อตอนว่า Anarchy เรื่องราวห่างจากเหตุการณ์ในภาคแรก 1 ปี และยังคงเกี่ยวข้องกับวันฆ่าโหดที่รัฐบาลสหรัฐฯ จัดให้ประชาชนทุกคนทำผิดกฎหมายได้ทุกอย่างเป็นเวลา 12 ชั่วโมง รวมถึงข่มขืนและฆ่าผู้อื่น แต่คุณไม่อยากร่วมกิจกรรมนี้ก็ต้องขังตัวเองอยู่ในบ้านไว้ให้ดี หนังยังคงเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์หนังสยองขวัญทุนต่ำที่ทำกำไรอย่างงดงามอีกด้วย
ภาคนี้เป็นเรื่องราวของตัวละคร Sergeant ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมวันปล่อยผีนี้เพื่อหวังจะล้างแค้นแทนลูกชายที่เคยตกเป็นเหยื่อจากวันล้างบาป แต่กลับต้องมากลายเป็นฮีโรจำเป็นแทน เมื่อพบผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังจะถูกฆ่า หนังยังเผยประเด็นที่ว่า มีกลุ่มเศรษฐีที่หาความสนุกกันในคืนนี้ด้วยการจับคนมาให้ถูกไล่ล่า เพื่อพนันกันว่าใครจะรอดตาย และตัวละครของ Sergeant และผู้หญิงกลุ่มนั้นก็ถูกจับไปด้วยเป็นเหยื่อด้วย
ชวนอ่าน “ตำรวจอเมริกาเปิดไซเรนไล่คนเข้าบ้านช่วงเคอร์ฟิว ด้วยเสียงจากหนังคืนล้างบาป The Purge“
- นักแสดง: Frank Grillo, Carmen Ejogo, Zach Gilford, Kiele Sanchez, John Beasley
- ผู้กำกับ: James DeMonaco (The Purge 1-3)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 9 / 111 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 57% / 6.4/10
ABOUT TIME (2009) – ดูได้ 23 ตุลาคม
ผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของเจ้าพ่อหนังรักอังกฤษอย่าง Richard Curtis ที่เป็นมือเขียนบทหนังอังกฤษดัง ๆ อย่าง Four Weddings and a Funeral (1994), Notting Hill (1999), Bridget Jones’s Diary (2001) และล่าสุดอย่าง Yesterday (2019) (ยังเขียนบทอยู่แต่ไม่เป็นผู้กำกับแล้ว) ซึ่งก็เป็นงานที่สมศักดิ์ศรีผลงานชิ้นสุดท้าย เพราะทำออกมาได้งดงามและแสนประทับใจ รวมถึงการเป็นหนังรักและหนังเดินทางข้ามเวลาที่อยู่ในหัวใจของใครหลายคน
หนังเป็นเรื่องราวของ Tim ชายหนุ่มขี้อาย ไม่ประสีประสา เขาได้พบความจริงจากพ่อว่า เขาสามารถเดินทางข้ามเวลาได้ สิ่งนี้เป็นความสามารถพิเศษที่ผู้ชายตระกูลนี้ที่สืบทอดกันมา เขาใช้ความสามารถนี้ย้อนกลับไปช่วยให้แก้ไขข้อผิดพลาดบางอย่างในชีวิตได้ (ซึ่งก็จะทำให้เส้นเวลาในอนาคตเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับร้ายแรงเท่ากฎเกณฑ์ในหนังเรื่องอื่น) Tim ใช้ความสามารถพิเศษเพื่อเจอกับแฟนสาวและทำให้เธอประทับใจ หนังให้ข้อคิดสอนชีวิตเช่นเดียวกับหนังหลาย ๆ เรื่องที่ Curtis เคยเขียนบทไว้ กับเรื่องนี้ก็เน้น ๆ ไปที่ความรักระหว่างพ่อกับลูกชายที่จับเอาการย้อนเวลาและโลกคู่ขนานมาทำให้เสียน้ำตาได้
ชวนอ่าน “หนังโลกคู่ขนาน” ที่คอหนังตัวจริง ต้องดูสักครั้งในชีวิต!“
- นักแสดง: Domhnall Gleeson, Rachel McAdams, Bill Nighy, Margot Robbie, Vanessa Kirby
- ผู้กำกับ: Richard Curtis (Love Actually, Pirate Radio)
- ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 12 / 87 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 68% / 7.8/10
FIRST MAN (2018) – ดูได้ 28 ตุลาคม
หากคอหนังอวกาศยังได้สาใจกับ Apollo 13 (1995) ที่ได้ชมในเดือนนี้ทาง Netflix เช่นกัน ก็มาต่อกันที่ First Man (2018) ที่เป็นเรื่องราวการท่องอวกาศสร้างจากเรื่องจริงของ Neil Armstrong มนุษย์คนแรกที่ได้ไปเหยียบบนดวงจันทร์ ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือการเป็นผลงานกำกับของผู้กำกับมือดี Damien Chazelle จาก La La Land (2016) และ Whiplash (2014) และยังได้นักแสดง Ryan Gosling มารับบท Neil Armstrong ด้วย หนังประสบความสำเร็จแบบกลาง ๆ คว้าออสการ์สาขาวิชวลเอฟเฟกต์ไปครอง และเข้าชิงองค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม และผสมเสียงยอดเยี่ยม แต่ด้วยชื่อชั้นของทีมสร้างหนังก็คงหวังรางวัลไว้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม หนังก็เป็นหนึ่งในหนังอวกาศที่ดีที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
First Man ได้รับการดัดแปลงบทจากหนังสือคุณภาพอย่าง First Man: The Life of Neil A. Armstrong ของ James R. Hansen นักเขียนที่ได้รับการเชิญเสนอชื่อชิงพูลิตเซอร์ถึง 2 ครั้ง แถมยังได้ Josh Singer เจ้าของรางวัลบทภาพยนตร์ออสการ์ยอดเยี่ยมจาก Spotlight (2015) มาทำบทให้อีก ทำให้หนังมีความสมจริงสูงยังตัดตอนการเล่ามาได้อย่างไม่น่าเบื่อ หนังเข้าเรื่องรวดเร็วในภารกิจเจมิไนที่เป็นช่วงทดสอบก่อนโครงการอะพอลโลเกิด แล้วปล่อยให้เราค่อย ๆ รู้จักตัวละครผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ แทน หนังยังมีบทพูดที่น่าจดจำเยอะมากด้วยครับ อย่างฉากหนึ่งที่ว่า เราต้องพลาดตรงนี้เพื่อไม่ให้พลาดบนนั้น และในซีนเดียวกันที่ Neil ตอบคำถามผู้ใหญ่ว่าต้องเสียสละชีวิตคนอีกเท่าไหร่เพื่อภารกิจนี้ (อยากให้หยุด) แล้ว Neil ตอบว่า เราเลยจุดที่ต้องถามคำถามนั้นมาไกลแล้ว (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
- นักแสดง: Ryan Gosling, Claire Foy, Jason Clarke, Kyle Chandler, Corey Stoll
- ผู้กำกับ: Damien Chazelle (La La Land, Whiplash)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 59 / 105 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 86% / 7.3/10
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส