Cineworld เครือข่ายโรงภาพยนตร์ระดับโลก เล็งจะปิดโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ รวมถึงภาคธุรกิจอีก 128 แห่ง ในบริติชไอลส์ (British Isles) หรือ หมู่เกาะบริติช ภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COIVD-19 อย่างหนัก

cineworld

Cineworld เป็นบริษัทโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของอังกฤษ และเครือข่ายโรงภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดลำดับที่ 2 ของโลก โดยมีโรงภาพยนตร์จำนวน 790 แห่ง ใน 11 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ไอร์แลนด์, โปแลนด์, โรมาเนีย, อิสราเอล, ฮังการี, เช็กเกีย, บัลแกเรีย และสโลวาเกีย

ทางเครือข่ายของ Cineworld ได้กล่าวว่า ภาคธุรกิจโรงภพยนตร์ได้รั้บผลกระทบอย่างหนักจากการที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องได้เลื่อนกำหนดการฉาย โดยล่าสุดคือ No Time to Die ที่เลื่อนจากเดือนพฤศจิกายน 2020 ไปเป็น 2 เมษายน 2021

ทั้งนี้ ทางเว็บไซต์ Sunday Times ของประเทศอังกฤษ ได้รายงานว่า Cineworld ได้แจ้งแก่นายบอริส จอห์นสัน ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และนายโอลิเวอร์ โดว์เด็น ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ว่าไม่สามารถให้บริการโรงภาพยนตร์ได้ในขณะนี้

อีกทั้งทางสำนักข่าว Reauters ยังได้รายงานว่า Cineworld มีแผนจะปิดโรงภาพยนตร์ 128 แห่ง ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ซึ่งอาจทำให้มีคนตกงานถึง 5,500 ตำแหน่ง และจะปิดโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาด้วย

cineworld

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Cineworld ได้รายงานว่าสูญเสียรายได้ไป 1,300 ล้านปอนด์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 เนื่องจากวิกฤติ COVID-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในการล็อกดาวน์ครั้งที่ 2 นี้ได้หรือไม่

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังต้องประสบการขาดทุนก่อนการหักภาษี 6 เดือน (จนถึงเดือนมิถุนายน 2020) เมื่อเทียบกับเมื่อปี 2019 ที่มีผลกำไรถึง 110 ล้านปอนด์

ทาง The Guardian ยังได้นำส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จาก Cineworld มารายงานว่า “ในขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนในอนาคตของกลุ่มบริษัทจากการได้รับผลกระทบจาก Covied-19”

“ถ้าหากรัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดในการเว้นระยะห่างทางสังคมมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้เราต้องปิดโรงภาพยนตร์ต่อไปอีก ซึ่งดูเหมือนว่าจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อการดำเนินธุรกิจ และอาจจำเป็นต้องมีเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น”

ข้อมูลอ้างอิง : ladbible

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส