ในงาน Disney Investor Day ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (10 ธันวาคม) ไฮไลต์ของงานที่ Disney แถลงข่าวโพรเจกต์หนังใหม่แบบชุดใหญ่ไฟกะพริบนอกจากจะมีซีรีส์ Star Wars และ Marvel ฝั่งละ 10 เรื่องแล้ว ผลงานดั้งเดิมที่เป็นการ์ตูนและแอนิเมชันก็ยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีของสตูดิโอ Walt Disney และหลายเรื่องก็ถึงเวลาเสียทีที่จะได้กลับมาให้ได้ชมกันหลังจากจะสร้าง ๆ มานานสองนาน (ภาพยนตร์แอนิเมชันของ Pixar Studio เรื่องใหม่ ๆ เขียนแยกไว้ให้อ่านที่นี่)
เรื่องแรกน่าจะเป็นภาพยนตร์ที่แฟน ๆ Disney รอคอยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง นั่นคือ Enchanted (2007) การ์ตูนผสมหนังแบบ Live Action เรื่องแรก ๆ ของ Disney (อาจเรียกได้ว่าเป็นหนังที่กรุยทางให้กับหนังเจ้าหญิง Live Action ในยุค 10 ปีมานี้ของ Disney ทั้งหมด และหนังอย่าง Frozen เลยก็ว่าได้) และยังเป็นหนังแจ้งเกิดให้กับนักแสดง Amy Adams ก่อนจะหันมาเอาดีด้านขายการแสดงในหนังดราม่า หนังต้นฉบับนั้นประสบความสำเร็จมาก ทำรายได้ทั่วโลก 340 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 85 ล้านเหรียญฯ และยังเข้าชิงถึง 3 สาขารางวัลออสการ์ (เข้าชิงในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ 3 เพลงรวด)
กว่าจะมีภาค 2 หนังก็ใช้เวลาเดินทางมาถึง 13 ปีจนเกือบจะน่าเป็นห่วงว่า Adams จะแก่ไปเสียก่อน เธอจะกลับมาในหนังภาคต่อ Disenchanted จะเล่าเรื่องราวต่อจากภาคแรก เป็นเวลา 10 ปีหลังจากที่เจ้าหญิง Giselle ที่ทะลุมิติจากเมือง Andalasia มาอยู่ที่โลกจริง ณ มหานครนิวยอร์ก เธอตั้งคำถามต่อชีวิตที่มีความสุขตลอดไปของเทพนิยาย พร้อมกับเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้โลกทั้งสองต้องกลับตาลปัตรอีกครั้ง
ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการถึงกำหนดการฉาย และทีมนักแสดง Patrick Dempsey ในบท Robert ทนายหนุ่มผู้ที่ไม่เชื่อในความรักแบบเทพนิยาย, Susan Sarandon ผู้พากย์เสียงราชินี Narissa และ James Marsden ในบทเจ้าชาย Edward ที่ตกหลุมรัก Giselle ในโลกเทพนิยาย แต่เชื่อว่าถ้า Disney เอาจริงเอาจังขนาดนี้แล้ว คงไม่เป็นการยากที่จะเจรจาให้พวกเขากลับมา หนังจะสตรีมให้ชมทาง Disney+ เร็ว ๆ นี้และไม่เข้าฉายโรงใหญ่
เรื่องต่อไปที่เคยเป็นหนังแอนิเมชันที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องอย่าง Zootopia (2016) และ Moana (2016) ก็กำลังจะมีซีรีส์ภาคแยก Zootopia+ (อย่างกับตั้งชื่อมาสำหรับ Disney+) เรื่องราวของตัวเองต่อจากฉบับหนังเช่นกัน โดยสำหรับหนังเหล่าสิงสาราสัตว์จะเป็นภาคแยกที่เล่าเรื่องของเจ้าเสือนักเต้น และสล็อตจอมซน รวมถึงเรื่องราวของตัวละครเจ้าหญิง Tiana จาก Princess and the Frog (2009) ที่เป็นเจ้าหญิงแอฟริกัน-อเมริกันคนแรก และตัวละครเจ้าหุ่นพองลม Baymax จาก Big Hero 6 (2014) ก็จะมีซีรีส์เรื่องราวของตัวเองเช่นกัน โดยทุกเรื่องจะสตรีมปี 2022 ยกเว้นแค่ Moana ที่จะเป็นปี 2023
ส่วนภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องใหม่ที่จะฉายในโรงใหญ่ เรื่องแรกคือ Raya and The Last Dragon เรื่องราวแนวเจ้าหญิงในเทพนิยาย ฉากหลังได้แรงบันดาลใจจากภูมิภาคเอเชียอาคเนย์หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เรียกกันในปัจจุบันซึ่งก็คือภูมิภาคที่ประเทศไทยตั้งอยู่ เนื้อหาในหนังจะเป็นการผสมผสานระหว่างการ์ตูนคลาสสิกของ Disney กับเรื่องราวแนวการต่อสู้แบบกังฟู เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองลึกลับชื่อกุมันดรา (Kumandra) เมืองแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ตัวเอกของเรื่องเป็นสาวน้อยชื่อ Raya นักรบผู้ต้องเสาะหามังกรตัวสุดท้ายเพื่อนำแสงสว่างกลับคืนสู่อาณาจักรอีกครั้ง
Don Hall และ Carlos López Estrada รับหน้าที่กำกับ สมทบด้วย Adele Lim นักเขียนบทชาวอเมริกันเชื้อสายมาเลเซีย จาก Crazy Rich Asians (2018) และ Qui Nguyen รับหน้าที่เขียนบท และยังมีฝน-ประสานสุข วีระสุนทร แอนิเมเตอร์นักวาดชาวไทยที่ทำงานอยู่ที่ Pixar รับหน้าที่เป็นผู้ควบคุมโพรเจกต์ที่ต้องนำบทและมุมมองต่าง ๆ ของผู้กำกับมาขึ้นโครงวาดเป็นหนังทั้งเรื่อง โดยอัปเดตล่าสุดจากภายในงาน Disney ก็คือ หนังเรื่องนี้จะออกฉาย 12 มีนาคม ในรูปแบบเดียวกับ Mulan และ Soul ในปีนี้ นั่นคือสตรีมทาง Disney+ สำหรับประเทศที่เปิดให้บริการแล้ว (สิงคโปร์จะเปิดให้บริการเดือนกุมภาพันธ์นี้) ส่วนประเทศที่ยังไม่มี Disney+ ก็ชมกันในโรงภาพยนตร์
เรื่องที่ 2 คือ Encanto ที่จะพาคอหนังไปสัมผัสบรรยากาศในเมืองโคลอมเบีย เมืองหลวงของประเทศสเปนที่มีครอบครัวนักเวทอาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยมนตร์ขลัง (Disney น่าจะสร้างหนังการ์ตูนที่เล่าเรื่องราวครบทุกอารยธรรมของทุกประเทศบนโลกเร็ว ๆ นี้)
หนังจะกำกับโดย Byron Howard จาก Tangled (2010) และ Jared Bush จาก Zootopia (2016) รวมถึงเขียนบทโดย Charise Castro Smith ผู้ควบคุมงานสร้างซีรีส์สยองขวัญ The Haunting of Hill House และทำเพลงประกอบโดย Lin-Manuel Miranda ที่มีผลงานเก่าอย่างการทำเพลงให้ Moana (2016) และจะได้ทำเพลงประกอบของหนัง Life Action นางเงือกน้อย The Little Mermaid ด้วย
ตามมาด้วยเหล่าหนังไลฟ์แอ็กชัน ดัดแปลงจากการ์ตูนดั้งเดิมของ Disney มีอัปเดตทั้งหมด 4 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือ The Little Mermaid ที่ได้ Halle Bailey นักแสดงเด็กจากซีรีส์ Grown-ish ฝ่ากระแสต่อต้านมารับบทเป็นเงือกสาวผิวดำแตกต่างจากต้นฉบับ สมทบด้วย Daveed Diggs ให้เสียงพากย์เป็นกุ้ง Sebastian, Jacob Trembley จาก Wonder (2017) ให้เสียงพากย์เป็นเจ้าปลา Founder และ Awkwafina ให้เสียงพากย์เป็นเจ้านกนางนวล Scuttle ส่วนตัวละครที่เป็นคนแสดงมี นักแสดงออสการ์ Javier Bardem เป็นราชา Triton, Melissa McCarthy จาก Spy (2015) เป็นนางปลาหมึกยักษ์ Ursula และ Jonah Hauer-King จาก A Dog’s Way Home (2019) เป็นเจ้าชาย Eric หนังยังไม่มีกำหนดฉาย
ไลฟ์แอ็กชันเรื่องที่ 2 Pinocchio ฉบับใหม่ ผลงานกำกับเรื่องต่อไปของ Robert Zemeckis ที่เพิ่งมีผลงานรีเมก The Witches (2020) ไปในปีนี้ เขาจะกลับมาร่วมงานกับนักแสดงคู่บุญอย่าง Tom Hanks จาก Forrest Gump (1994), Cast Away (2000) และ The Polar Express (2004) โดยเขาจะมารับบทเป็นคุณลุงช่างแกะสลักไม้ Geppetto เจ้าของ Pinocchio หุ่นไม้ที่สร้างขึ้นมาจากฝีมือของช่างแกะสลัก Geppetto ซึ่งนางฟ้าได้มอบชีวิตให้แก่เจ้าหุ่นไม้ พร้อมทั้งได้ให้สัญญาว่า จะได้กลายเป็นเด็กผู้ชายจริง ๆ ก็ต่อเมื่อพิสูจน์ตัวเองว่า เป็นคนกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และไม่เห็นแก่ตัว หนังยังไม่มีกำหนดเปิดกล้องและเข้าฉายตอนนี้
ไลฟ์แอ็กชันเรื่องที่ 3 Peter Pan and Wendy ฉบับใหม่ที่จะเป็นงานกำกับของ David Lowery จาก A Ghost Story (2017) และ Pete’s Dragon (2016) นำนิยาย Peter Pan เด็กชายผู้ที่ไม่ยอมโต ได้พาเด็กกลุ่มหนึ่งท่องไปกับเขายังดินแดนมหัศจรรย์ที่ชื่อว่าเนเวอร์แลนด์ หนังถูกสร้างมาแล้วจากหลายสตูดิโอร่วมถึงของ Disney เองในเรื่อง Hook (1991) ฉบับนี้นำแสดงโดย Jude Law ในบทกัปตัน Hook, Yara Shahidi จากซีรีส์ Black-ish และ Grown-ish ในบท Tinker Bell และ Ever Anderson (ลูกสาวแท้ ๆ ของ Milla Jovovich) จาก Black Widow จะรับบทเป็น Wendy หนังยังไม่มีกำหนดเปิดกล้องและเข้าฉายเช่นกัน
และเรื่องสุดท้ายเรื่องราวของชิปมังค์แสนป่วนใน Chip ‘n’ Dale: Rescue Rangers ที่จะกำกับโดย Akiva Schaffer จาก The Watch (2012) เขียนบทโดย Dan Gregor และ Doug Mand คู่หูมือเขียนบทจาก Dolittle (2020) นำแสดงโดย John Mulaney ที่เคยให้เสียงพากย์ใน Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018) และ Andy Samberg ให้เสียงพากย์เป็น Jonathan ใน Hotel Transylvania มาแล้วทุกภาค (2012-2021) ร่วมกับเหล่าชิปมังค์ที่สร้างจาก CGI
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส