เมื่อปี 2009 The Orphan ภาคแรกที่มีชื่อไทยว่า “เด็กนรก” เข้าฉายและประสบความสำเร็จทางรายได้ในระดับน่าพอใจ (รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 77 ล้านเหรียญฯ) และยังแจ้งเกิดผู้กำกับ Jaume Collet-Serra ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ได้ไปกำกับหนังแอ็กชันให้ Liam Neeson หลายเรื่อง เช่น Unknown (2011), Non-Stop (2014), The Commuter (2018) รวมถึงหนังนรกน้ำตื่นสุดระทึก The Shallows (2016) ถัดมา 12 ปี ใครจะนึกว่าเด็กนรกจะกลับมาอีกครั้งกับภาคต่อ Orphan: First Kill ที่เดิมใช้ชื่อหนังว่า Esther

Isabelle Fuhrman ยังคงกลับมารับบทเด็กผี Esther โดยในภาคนี้จะเป็นเรื่องราวก่อนหน้าของเธอ ฆาตกรโรคจิตวัย 33 ปี ที่มีความผิดปกติด้านฮอร์โมนทำให้เธอมีตัวเล็กและมีลักษณะภายนอกคล้ายเด็ก หนังจะเผยตัวตนที่เคยเป็นอดีตคนไข้ในโรงพยาบาลจิตเวชในรัสเซีย ก่อนจะหนีไปสหรัฐอเมริกาโดยปลอมเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่หายสาบสูญไป

Isabelle Fuhrman ในวัย 11 ขวบ

ซึ่งในภาคแรกนั้น Esther มาลงเอยในสถานดูแลเด็กกำพร้าด้วยภาพลักษณ์ของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่กลายมาเป็นลูกบุญธรรมของ Kate (รับบทโดย Vera Farmiga) และ John (Peter Sarsgaard) ผู้โชคร้ายในภาคแรก ส่วนภาคนี้การทำตัวเป็นเด็กเพื่อหนีไปสหรัฐฯ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องเจอกับแม่บุญธรรมที่เป็นคู่ปรับที่ต้องมาคอยรับมือกับเธอ Julia Stiles จาก The Bourne Ultimatum (2007) และหนังเด็กนรกอีกเรื่องอย่าง The Omen (2006) จะมารับบทนี้

Vera Farmiga และ Peter Sarsgaard รับบทเป็นพ่อแม่อุปธรรมผู้โชคร้ายในภาคแรก
Julia Stiles

ตอนแรกหลายคนก็สงสัยว่า Fuhrman ซึ่งอายุ 11 ขวบในภาคแรกจะกลับมาแสดงภาคต่อเป็นเด็กทั้งที่อายุ 23 ปีแล้วในตอนนี้ได้ยังไง ตามรายงานก็บอกว่า ทีมสร้างจะใช้เทคนิคพิเศษจากคอมพิวเตอร์กราฟิกหลังการถ่ายทำเพื่อทำให้เธอดูเด็กลง ผสมกับการใช้เทคนิคแต่งหน้าและการถ่ายทำโดยการใช้มุมกล้องหลอกตาเอา และล่าสุดเธอก็ได้ลงรูปในอินสตาแกรมส่วนตัว (พร้อมสภาพเลอะเลือดปลอมสุดสยอง) เพื่อบอกข่าวดีกับแฟน ๆ ว่าตอนนี้การถ่ายทำเสร็จสิ้นแล้ว

Isabelle Fuhrman โตเป็นสาวแล้ว

David Coggeshall จาก The Haunting in Connecticut 2: Ghosts of Georgia (2013) และ Prey (2019) มารับหน้าที่เขียนบท ส่วนผู้กำกับจากภาคแรกนั้นไม่กลับมา เพราะไปกำกับหนังซูเปอร์ฮีโรฟอร์มยักษ์ Black Adam ของ Dwayne Johnson ให้กับดีซีอยู่ในตอนนี้ และส่งไม้ต่อให้กับ William Brent Bell จาก Devil Inside (2012) และ The Boy (2016) มีกำหนดฉายภายในปี 2021

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส