เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรค โควิด-19 ทำให้งานสำคัญช่วงปลายปีอย่างงานกาชาดที่สวนลุมพินี ได้ย้ายมาจัดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในเว็บไซต์ https://www.งานกาชาด.com แทน โดยยังคงได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐและเอกชนมาร่วมจัดบูธกันอย่างคับคั่ง ให้ความรู้และแจกของรางวัลมากมายเช่นเดิม รวมถึงยังเปิดหน้าร้านออนไลน์ขายของให้จับจ่าย ไม่น้อยหน้างานกาชาดเดิมเลยทีเดียว
และหนึ่งในจุดที่น่าสนใจที่ขาดไม่ได้สำหรับงานแฟร์แบบนี้ คือสวนสนุก เครื่องเล่น ซึ่งในปีนี้ก็ได้จัดอยู่บริเวณตรงกลางของเกาะงานกาชาดเลยด้วย มองหาไม่ยากมาก และจุดที่น่าสนใจในโซนนี้คือมันมี บ้านผีสิง ด้วย
บูธบ้านผีสิง ออกแบบเป็นบ้านร้าง 2 ชั้นที่เราสามารถเลือกห้องได้ 3 ห้อง คือ ห้องโถงกลางบ้าน โถงชั้นบน และระเบียง เพื่อเข้าไปร่วมประสบการณ์แบบวิดีโอฟาวด์ฟุตเทจ ของผู้กล้าท้าผีที่เดินถือกล้องดุ่ม ๆ เข้าไปในแต่ละห้อง ด้วยกิมมิกและบรรยากาศที่หลอนใช้ได้เลย
โถงกลางบ้าน – ตาม
เมื่อมองเข้าไปในตัวบ้านการจะเริ่มสำรวจที่สมเหตุสมผล ก็คงต้องเริ่มที่ชั้นล่างที่เปิดรับแขกเสียก่อน ในตอนที่ชื่อ ตาม ภาพจะเปิดที่เรายืนอยู่หน้าบ้านร้าง กล้องมือถือของเรามีภาพของเด็กหญิงหน้าตาน่ารักอยู่ ทว่าด้วยบรรยากาศสีเทาดำ เสียงอันล่องลอยหลอกหลอน และตัวบ้านที่รกร้างซับซ้อนด้วยเงามืดราวกับมีสายตาแอบมองมาอยู่ทุกแห่ง เราก็รู้แล้วว่าการเข้าไป ตามหาเด็กหญิงในรูปนั้น ไม่น่าจะเป็นความน่าปีติยินดีเท่าใดนัก แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็จงตามไปให้สุดว่าเธออยู่ที่ใด
สำหรับตอนที่ 1 นี้ ทำออกมาได้น่าสนใจดีทีเดียว ด้วยการเกริ่นนำบรรยากาศต่าง ๆ ของตัวบ้าน มีภารกิจเป้าหมายให้ติดตามพอจับเนื้อเรื่องได้ ส่วนตัวมองว่าเป็นตอนที่ทำได้ดีที่สุดด้วย จังหวะการหลอก ภาพผ่านกล้องที่กรอบจำกัดด้วยแสงไฟฉายติดตามร่างเงาของใครสักคนไปจนถึงห้องสุดท้าย และระหว่างทางที่ปรากฏร่างของบางอย่างที่ยากจะใช้เหตุผลอธิบายคอยปั่นประสาทเราเป็นระยะ นี่น่าจะเป็นตอนที่เชิญชวนเราร่วมประสบการณ์ระหว่างทางได้น่ากลัวที่สุดแล้วล่ะ
โถงชั้นบน – ตื่น
หลังจากตอนที่แล้ว เราได้ตื่นขึ้นมาบนห้องชั้น 2 ของบ้าน และเมื่อมองสำรวจไปรอบตัว เราจะยังเจอเด็กหญิงใส่ชุดขาวเดินหายไปในทางเดินดั่งเชื้อเชิญให้เราตามเธอไปอีกครั้ง (นั่นไง นี่ก็ยังไม่เข็ดอี๊ก) และครั้งนี้เราจะได้สำรวจทางเดินบนชั้นบนที่ผ่านไปยังห้องต่าง ๆ อย่างห้องที่มีชั้นล็อกเกอร์เก็บของต่าง ๆ ตลอดจนห้องที่มีกระจกหน้าต่างรายล้อม และสิ้นสุดลงที่ห้องโถงชั้นบน ซึ่งมีม้าโยกของเด็กตั้งอยู่
สำหรับตอนนี้เป็นบทเชื่อมที่ทำให้เรารู้ว่า มันยังมีปริศนาบางอย่างที่ไม่ได้รับการค้นพบ และผีหรืออะไรก็ตามที่ปรากฏมาท้ายสุดของตอนนี้ก็พิลึกและน่ากลัวที่สุดใน 3 ตอนนี้แล้วด้วย
ระเบียง – ตาย
ชื่อตอนก็เหมือนบอกกลาย ๆ ว่านี่น่าจะเป็นตอนจบ หรือตอนสุดท้ายที่ไม่ค่อยจะน่าพิสมัยเท่าใดเลย เราจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าจากเวลากลางวันที่เราเดินเข้าบ้านมา บัดนี้กลายเป็นเวลาค่ำเสียแล้ว ไฟฉายที่ติดตัวเราหายไป แต่มีเทียนจุดทิ้งไว้ข้างตัวแทน ท่ามกลางแสงสลัวมีศพที่มัดตราสังนอนอยู่ห่างออกไปแนวระเบียง ยังไม่พอ เสียงพระสวดศพดังก้องอยู่ทั่วบริเวณบ้าน เป็นอีกครั้งที่เราต้องเอาเทียนเดินส่องทางเพื่อหาทางออก แต่แน่นอนล่ะว่ามันคงไม่ง่ายนัก
เป็นตอนปิดท้ายที่ดูซ้ำหลายรอบ ไม่ใช่อะไร แต่เพราะมันมืดมาก (ฮา) หนังยังสร้างบรรยากาศหลอน ๆ แบบไทยได้น่าสนใจ เสียดายเพียงต้องเพ่งสายตาอย่างที่บอก แถมตอนจบก็ยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าใดนักด้วย
แต่ส่วนตัวนี่ก็คือ บูธบ้านผีสิง ในงานกาชาด ซึ่งทำได้เกินกว่าที่คาด เพราะถ้าเป็นเกมคลิกเลือกเส้นทาง มันคงไม่ได้อารมณ์ร่วมเท่า การแทนสายตาเราผ่านกล้องไหลเข้าไปในสถานการณ์แบบไม่ต้องสะดุดเลยแบบนี้ การแบ่ง 3 ตอนก็ถือว่าเริ่มและจบในตัวได้ดี แม้ตัวบูธเหมือนจะแนะนำให้ดู ตื่น-ตาม-ตาย ตามชื่อหนัง แต่ถ้าไม่อยากงงก็ควรไล่ตามที่เราแนะนำคือ ดูจากโถงกลางบ้าน ไปจบที่ระเบียงนี่ล่ะ เวิร์กสุดแล้ว
ดูจบแล้วถ้าประทับใจก็ไปบริจาคให้กับทางสภากาชาดได้ในเว็บนั้นเลย หรือเข้าไปชมบูธใดในงานแล้วประทับใจก็สามารถโหวตร้านกาชาดในดวงใจได้ โดยทุกเงิน 100 บาทจะได้คะแนนโหวต 110 คะแนน เงินทุกบาททุกสตางค์ก็เอาไปบำรุงสภากาชาดไทย และกลับมาดูแลประชาชนชาวไทยนี่เองล่ะครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส