ส่งท้ายปี 2020 โรงภาพยนตร์ก็ได้ฤกษ์ฉายหนังมอนสเตอร์สุดมันส์อย่าง Monster Hunter ที่มีพี่จา พนม ยีรัมย์ ดารานักบู๊ของบ้านเราไปรับบทนำได้อย่างสมศักดิ์ศรีและน่าจะถือเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ส่งท้ายปีนี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งด้วยความที่ตัวหนังเป็นแอ็กชันแฟนตาซีดังนั้นจึงไม่แปลกที่มันจะไม่ได้ฉายแค่โรงธรรมดาเท่านั้น หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดีเลยขอส่งท้ายปี 2020 ด้วยรีวิวเปรียบเทียบ 2 ระบบไปเลย
เหมาะกับระบบไหนมากกว่ากัน
จากข้อมูลด้านเทคนิกของหนังบนเว็บไซต์ IMDB.com หนังถ่ายมาในอัตราส่วน 2.35:1 และไม่มีฉากขยาย ส่วนระบบเสียงจะมีมิกซ์ในระบบ IMAX 6-Track ซึ่งนั่นทำให้ IMAX ได้เปรียบในแง่ของระบบเสียงกระหึ่มเวลามอนสเตอร์อย่าง หนอนยักษ์ ดีอาบลอส มุดดินแล้วโผล่มาเขมือบ หรือ มังกรยักษ์ลาธาลอสที่บินโฉบไปมาได้อย่างสะใจกว่า ส่วนในด้าน 4DX ก็มีดีที่ระบบเก้าอี้สั่นเวลาเจ้าอสูรโผล่มาไฝ้ว์กับพี่จา พนม และเจ๊ มิลลา โจโววิชของเรา เรียกได้ว่ามีดีคนละด้านดังนั้นในหัวข้อนี้คะแนนเลยสูสีกันมาก โดย IMAX ได้ไป 8 คะแนนและ 4DX ได้ไป 7 คะแนน
เอฟเฟกต์ปะทะจอใหญ่
ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ Monster Hunter เคยโปรโมตว่าหนังจะเข้าฉายในระบบ IMAX3D ก่อนจะเปลี่ยนมาฉายแค่ระบบ 2D ในภายหลังดังนั้นไม่ว่าชมในระบบไหนก็จะได้ดูภาพที่เป็นแค่ 2D เท่านั้นเหมือนกัน โดยเราจะรีวิวและให้คะแนนแยกกันเพื่อจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ
Monster Hunter ในระบบ IMAX ข้อดีหลัก ๆ ของระบบ IMAX คือขนาดจอที่ค่อนข้างใหญ่และหนังบางเรื่องจะมีการทำขนาดภาพให้ใหญ่กว่าปกติไม่ว่าจะด้วยการถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX หรือเป็นเทคนิกหลังการถ่ายทำ (Post-Production) แต่สำหรับ Monster Hunter กลับมีจุดบอดตรงหนังไม่มีฉากขยายแต่กระนั้นข้อดีที่เห็นได้ชัดเลยคือการปรากฎตัวของมอนสเตอร์บนจอ IMAX กลับทำได้น่าตื่นตาตื่นใจกว่าการชมในโรงภาพยนตร์ปกติอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงระบบเสียงที่ต้องบอกว่าสะใจกว่าระบบเสียงทั่วไปมากดังนั้นสำหรับ IMAX ผมให้ได้เลยที่ 9 คะแนน
Monster Hunter ในระบบ 4DX หากสู้ IMAX ด้วยจอใหญ่ไม่ได้ 4DX ก็มีไม้ตายที่เอฟเฟกต์ของเก้าอี้ ลม น้ำ และแสงไฟเลเซอร์ที่ช่วยดึงอารมณ์ผู้ชมให้มีส่วนร่วมกับเรื่องราวบนจอภาพ แต่ขอแสดงความเสียใจด้วยสำหรับใครก็ตามที่หลวมตัวเข้าไปชมในระบบ 4DX เพราะตัวหนังไม่มีเอฟเฟกต์อย่างอื่นเลยนอกจากเก้าอี้โยก แต่เก็บเงินค่าบัตรชมภาพยนตร์เท่าเดิมนะครับ นี่เป็นการแสดงให้เห็นเลยว่าทางโรงภาพยนตร์ที่จัดฉายในระบบ 4DX เองไม่ได้ใส่ใจในการออกแบบประสบการณ์ครั้งนี้เท่าไหร่ ยังดีที่ระบบเก้าอี้ โยก และ สั่น สามารถทำงานได้ทั้งเรื่องดังนั้นคะแนนของ 4DX เลยให้ได้แค่ 5 คะแนนครับ
ราคาระบบไหนคุ้มกว่ากัน
จากการเช็กราคาบัตรชมภาพยนตร์ผ่านแอปพลิเคชัน Major Super App จะพบว่าสนนราคาของทั้งระบบ IMAX และ 4DX ใกล้เคียงกันมากโดยระบบ IMAX จะเริ่มต้นที่ 350*บาทและไปจบที่แบบโซฟาคู่ละ 1,400 บาท ในขณะที่ 4DX จะมีแค่ 2 ระดับราคาคือ 430 บาท และ 480 บาท ตามตำแหน่งของที่นั่ง ซึ่งหากเรานับแค่ที่นั่งที่ราคาต่ำสุดยังไง IMAX ก็ถูกกว่าถึง 80 บาทและยังได้เห็นมอนสเตอร์ตัวใหญ่กว่า แต่ใครต้องการฟีลดูหนังแบบสวนสนุกก็ต้องระบบ 4DX ล่ะครับ แต่หากวัดจากประสบการณ์การชมจริงแล้วผมให้คะแนน IMAX ที่8 คะแนน ส่วน 4DX ยังอยู่ที่ 7 คะแนนครับ
- ราคาหักส่วนลดบัตร MGEN ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
สรุปแล้วในยกนี้ทางระบบ IMAX ถือว่าชนะคะแนนไปได้แบบฉิวเฉียดในทุกหมวดหมู่ เชื่อว่าหากได้ดูหนังในระบบ 3D อาจทำให้น่าตื่นตาตื่นใจขึ้นอีก ซึ่งตรงนี้ทางเราไม่ทราบข้อมูลเหมือนกันว่าทำไมทางค่ายหนังถึงเปลี่ยนใจไม่ฉายระบบ 3D ครับ
พิสูจน์อ้กษร : สุชยา เกษจำรัส