ปัจจุบันนี้การ์ตูนโจรสลัดที่ดังกระฉ่อนโลกอย่าง ONE PIECE ก็ได้ออกมาโลดแล่นอยู่ในวงการการ์ตูนมากกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งภายในเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องราวผ่านกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่นำโดย ลูฟี่ ได้ออกไปผจญภัยตามหาขุมสมบัติที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ โกลด์ ดี โรเจอร์ ได้ซ่อนเอาไว้ในท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ทำให้กลุ่มโจรสลัดพระเอกนี้ได้ไปเจอกับสถานการณ์ต่าง ๆ มากมายจนปัจจุบันนี้มีค่าหัวมากมายมหาศาล แต่กว่าค่าหัวของเค้าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ใช่ว่าจะผ่านเรื่องราวมาน้อย ๆ นะครับผม
ซึ่งค่าหัวในการ์ตูนเรื่องนี้จะบ่งบอกถึงความเก่งกาจของเจ้าตัวและความอันตรายที่อาจจะมาก่อปัญหาให้กับรัฐบาลโลก เพราะฉะนั้นบทความนี้เราจะพาทุกคนย้อนกลับไปถึงกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางว่าตั้งแต่ที่เค้าเริ่มออกเดินทางนั้นค่าหัวเค้าพัฒนาไปขนาดไหน และเหตุการณ์อะไรบ้างที่เป็นตัวแปรทำให้ค่าหัวเค้าพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบนี้ !!
1.มีค่าหัวครั้งแรกก่อนเข้าสู่แกรนไลน์
ลูฟี่มีค่าหัวครั้งแรก 30 ล้านเบรี
หลังจากที่ ลูฟี่ ได้ตัดสินใจเป็นโจรสลัดและออกทะเลเป็นครั้งแรกเค้าสามารถเอาชนะ บากี้ ที่ตอนนั้นมีค่าหัว 15 ล้านได้ หลังจากนั้นก็ได้ไปปะทะกับ ดอนครีก โจรสลัดตัวเบ้งอีกคนของฝั่งทะเลอีสต์บลูที่มีค่าหัว 17 ล้านเบรี ก่อนจะได้ไปปะทะกับ อารอน ผู้นำกลุ่มโจรสลัดเงือกที่มีค่าหัวสูงถึง 20 ล้านเบรีและเป็นผู้ที่มีค่าหัวสูงสุดในทะเลอีสต์บลูในตอนนั้น ทำให้รัฐบาลโลกเริ่มเล็งเห็นถึงความอันตรายของกลุ่มหมวกฟางที่ถึงแม้จะเพิ่งตั้งกลุ่มได้ไม่นานแต่ก็ได้เอาชนะ TOP3 ผู้ที่มีค่าหัวสูงสุดในทะเลฝั่งอีสต์บลูได้ จึงได้เริ่มตั้งค่าหัวลูฟี่อยู่ที่ 30 ล้านเบรี ก่อนจะเริ่มเข้าสู่แกรนไลน์
2.หลังเอาชนะคร็อกโคไดล์
ลูฟี่ 100 ล้านเบรี โซโล 60 ล้านเบรี
ในศึกของภาคอลาบาสต้านั้น ลูฟี่ จำเป็นต้องปะทะกับองค์กรณ์หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า บาล็อกเวิร์ส โดยมีผู้นำเป็นถึง 1 ใน 7 เทพโจรสลัด คร็อกโคไดล์ ซึ่งในศึกนี้หลังจากที่ลูฟี่สามารถเอาชนะ 7 เทพโจรสลัดและช่วยเหลือาณาจักรได้ค่าหัวของเค้าก็ได้พุ่งสูงขึ้นถึง 100 ล้านเบรีเลยทีเดียว รวมถึง โซโล ก็มีค่าหัวครั้งแรกหลังจบศึกนี้ด้วยเช่นกันกัน
3.หลังจบศึกที่เอบิเนสล็อบบี้
ลูฟี่ 300 ล้าน โซโล 120 ล้าน โรบิน 80 ล้าน ซันจิ 77 ล้าน นามิ 16 ล้าน โซเงคิง (อุซป) 30 ล้าน แฟรงกี้ 44 ล้าน ช็อบเปอร์ 50 เบรี
เพื่อที่จะช่วยเหลือ โรบิน ที่ถูกรัฐบาลโลกลักพาตัวไปทำให้กลุ่มหมวกฟางต้องเข้าปะทะกับกลุ่มนักฆ่าของรัฐบาลโลกที่ใช้ชื่อว่า CP9 นอกจากนี้ยังไปเผาธงที่เป็นสัญลักษณ์ของรัฐบาลโลกทิ้งอีกด้วย ซึ่งการเผาธงนี้นั่นก็หมายความว่ากลุ่มโจรสลัดนี้ได้เปิดสงครามกับรัฐบาลโลกอย่างเป็นทางการ นั่นจึงทำให้พอจบศึกนี้จบลงกลุ่มหมวกฟางจึงได้มีการถูกตั้งค่าหัวกันยกแก๊ง และได้กลายเป็นรุกกี้โจรสลัดที่มีค่าหัวสูงเป็นอันดับ 2 ในช่วงนั้นด้วย
4.หลังจบสงครามมารีนฟอร์ด
ลูฟี่ 400 ล้าน บรู๊ค (เข้ามาหลังจบศึกเอบิเนสล็อบบี้) 33 ล้าน ที่เหลือเท่าเดิม
ในช่วงสงครามระหว่างกลุ่มโจรสลัด หนวดขาว และ ทหารเรือ เอส พี่ชายของลูฟี่ได้เสียชีวิตลงและ ลูฟี่ ก็ได้เข้าสู่ช่วงที่พังที่สุดในชีวิต เค้าไม่อาจปกป้องพวงพ้องหรือแม้แต่พี่ชายของตัวเองได้ และได้พบเจอกับศัตรูที่เก่งกาจกว่าตัวเองหลายต่อหลายคน แต่ด้วยการให้คำปรึกษาจาก เรลี่ (อดีตรองกัปตันกลุ่มโรเจอร์) ได้แนะนำให้ ลูฟี่ หยุดพักและฝึกฝนฝีมือเป็นเวลา 2 ปี และในช่วงนั้นเองดูเหมือนจะยังไม่มีการยืนยันว่าหมวกฟางได้ตายไปแล้วจริง ๆ ทางรัฐบาลโลกจึงประกาศขึ้นค่าหัวตัวกัปตัน ลูฟี่ จาก 300 เป็น 400 ล้านเบรี่
5.หลังเอาชนะโดฟลามิงโก้ได้
ลูฟี่ 500 ล้าน โซโล 320 ล้าน โรบิน 130 ล้าน แฟรงกี้ 94 ล้าน อุซป 200 ล้าน ซันจิ 177 ล้าน นามิ 66 ล้าน บรู๊ค 83 ล้าน ช็อปเปอร์ 100 เบรี
ในศึก เดรสโรซ่า ลูฟี่ ได้ทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือแผนการที่ ลอว์ ได้บอกเอาไว้ จากแทนที่จะไปทำลายแค่โรงงานสไมล์เสร็จแล้วก็หนี แต่ด้วยสิ่งที่ โดฟลามิงโก้ 1 ใน 7 เทพโจรสลัดทำต่ออาณาจักรนี้ทำให้ ลูฟี่ โกรธและตัดสินใจที่จัดการโดฟลามิงโก้ให้ได้ แน่นอนว่าผลสุดท้ายพระเอกของเราก็เป็นฝ่ายชนะ และด้วยเหตุการณ์นี้เองทำให้กลุ่มหมวกฟางได้ถูกอัปเดตค่าหัวยกแก๊งอีกครั้งนึง
6.หลังจบศึกบนเกาะโฮลเค้ก
ลูฟี่ 1500 ล้าน ซันจิ 330 ล้าน ที่เหลือเท่าเดิม
หลักจากที่ ซันจิ ถูกตระกูลวินสโมคดึงตัวกลับไปเพื่อให้ไปแต่งงานกับลูกสาวของ 1 ใน 4 จักรพรรดิ์ “บิ๊กมัม” ลูฟี่มีเหรอจะอยู่เฉย ๆ รีบตรงไปยังเกาะ โฮลเค้ก และเปิดศึกในทันที เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องของตัวเอง ในศึกนี้ ลูฟี่ สามารถเอาชนะ 2 ใน 3 แม่ทัพของกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมได้ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ คาตาคุริ ที่มีค่าหัวมากกว่าพันล้านเบรีเลยทีเดียว ทั้งยังสามารถหลบหนีจากการตามล่าของบิ๊กมัมได้สำเร็จจนมีข่าวเขียนพาดหัวว่า ลูฟี่ เนี่ยแหละคือจักรพรรดิคนที่ 5 และทำให้ค่าหัวของเค้าโดดจาก 500 ล้าน กลายเป็น 1500 ล้านเบรีในทันที
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส