เมื่อเร็ว ๆ นี้ Kevin Feige หัวเรือใหญ่ของ Marvel Studios ได้ออกมาพูดถึงโพรเจกต์หนังหลายเรื่องในอนาคตของจักรวาลมาร์เวลซึ่งน่าสนใจที่จะให้แฟน ๆ ตามอัปเดต (นอกจากข่าวว่า Chris Evans จะกลับมารับบทเป็น Captain America อีกครั้ง แม้เป็นข่าวที่ออกมาทีหลัง Feige ให้ข่าว แต่เราได้นำเสนอไปก่อนแล้ว) จนถึงตอนนี้ Feige บอกว่า หนังและซีรีส์ของมาร์เวลได้ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้ายาวถึงปี 2026-2027 เลยทีเดียว แต่เขาก็ยังตอบคำถามสื่อแบบกลางไว้ก่อน เหมือนเดิมที่เคยเป็นมา
ก็ไม่ได้เจาะจงมากนัก (ว่าจะทำหนังเรื่องอะไรบ้าง) พวกเรากำลังคุยกันอย่างหนัก พวกคุณคงจินตนาการออก และเราก็มีความรู้สึกที่ดีว่า พวกเรากำลังจะเดินไปทางไหนและหนังแต่ละเรื่องจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่ยังไม่มีอะไรแน่นอนในตอนนี้”
อย่างไรก็ตาม มาร์เวลก็ยืดหยุ่นพอที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการได้เสมอ (เช่นการต้องสูญเสีย Chadwick Boseman ในปีที่ผ่านมาซึ่งทำให้มาร์เวลก็ต้องเปลี่ยนบทใหม่หมดของ Black Panther 2) ถึงอย่างนั้นความเคลื่อนไหวและข่าวใหม่ของพวกเขาก็ยังน่ารู้อยู่ดี ซึ่งก็มีทั้งข่าวของหนัง X-Men, Spider-Man ภาค 3, ตัวละครจากซีรีส์ของ Marvel Television เดิมอย่าง The Defenders, ซีรีส์ Secret Invasion และ Black Widow ยังจะเลื่อนฉายไปอีกหรือไม่
ยังไม่มั่นใจว่า Black Widow จะได้ฉายพฤษภาคมนี้
Feige ออกมาแสดงความเห็นว่า เขาเองก็ไม่มั่นใจว่ากำหนดฉาย 29 เมษายนของหนังเปิดเฟส 4 MCU อย่าง Black Widow นั้นจะเป็นกำหนดฉายสุดท้ายของหนังที่ไม่เลื่อนออกไปอีกแล้วหรือเปล่า “ความมั่นใจมันไร้ความหมายมากในปัจจุบัน เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมยังหวังอยู่นะ การเลื่อนฉายไปหนึ่งปีนั้น ผมหวังว่ามันคงนานพอแล้ว ตอนนี้มีวัคซีนแล้ว เดี๋ยวเราคงได้รู้กันว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมยังคงหวังอยู่แน่นอน ผมอยากกลับไปนั่งในโรงภาพยนตร์พร้อมกับทุกคนอีกครั้ง“
นอกจากนี้ก็มีรายงานล่าสุดว่า Disney ได้พูดคุยถึง Marvel Studios ถึงความเป็นไปได้ในการจะฉาย Black Widow ในโรงภาพยนตร์พร้อมกับสตรีมมิงบน Disney+ ในราคาเพิ่มพิเศษแบบเดียวกับที่ทำกับ Mulan
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ๆ จริงก็น่าจะช่วยให้แฟรนไชส์เดินหน้าต่อไปได้ โดยที่ไม่ต้องเลื่อนฉายหนังทั้งหมดของจักรวาลมาร์เวลไปเรื่อย ๆ อย่างที่แล้วมา
การกลับมาของทีมตัวละคร The Defenders
“อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ” Feige พูดถึงการนำตัวละครทีม The Defenders กลับมาลงจอสตรีมมิง Disney+ หลังจากที่มาร์เวลประกาศสร้างโพรเจกต์ต่าง ๆ ที่จะฉายบนแพลตฟอร์มที่เป็นความหวังใหม่ของ Diseny เมื่อปลายปีก่อน หลายคนคงผิดหวังที่เหล่าฮีโร Daredevil, Jessica Jones, Luke Cage และ Iron Fist กลับไม่ได้มีโอกาสครั้งที่ 2 ที่จะกลับมาใหม่ หลังการปิดตัวของ Marvel Television (ทีมทำซีรีส์ของ Marvel ที่แยกต่างหากจาก MCU ก่อนที่ Feige จะเข้ามาคุมคอนเทนต์ทั้งหมดแทน)
Feige ตอบคำถามถึง The Defenders ไว้ว่า “แน่นอนว่าทุกคนจะได้เห็นสิ่งที่เราประกาศเอาไว้ในงาน Comic Con และในวันประชุมนักลงทุนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมอยู่กับมาร์เวลมานานพอที่จะบอกได้ว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น” แน่นอนว่า Feige ไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับ The Defenders โดยตรง แต่เขาก็ไม่ปิดทางที่จะนำตัวละครเหล่านี้และนักแสดงคนเดิมกลับมา “ความสนุกอย่างหนึ่งของการสร้างเรื่องราวจากคอมิก ก็คือตัวละครมักมาแล้วก็ไป หายไปแล้วก็กลับมา มันคือแรงบันดาลใจสำหรับเรื่องในอนาคต“
ล่าสุดมีข่าวว่า ตัวละคร Daredevil ของ Charlie Coxx ได้ถ่ายทำส่วนของเขาในหนัง Spider-Man 3 เสร็จแล้ว แต่ไม่มีการยืนยันว่า เขามารับบทเป็น Daredevil และ Matt Murdock หรือว่าแค่มารับบทหลังแค่อย่างเดียว
ทีมมนุษย์กลายพันธุ์ X-Men มาแน่
Feige ถูกถามถึงความเชื่อมโยงที่จะเกิดขึ้นในเฟส 4 ของจักรวาลหนังมาร์เวล ว่าในเมื่อตัวละคร Monica Rambeau ใน WandaVision จะเป็นตัวละครที่เชื่อมไปสู่หนัง Captain Marvel 2 และตัวละคร Wanda จากซีรีส์ WandaVision ก็จะเชื่อมไปสู่หนัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ฉะนั้นจะเป็นไปได้ไหมที่ WandaVision เองจะมีการปูทางไปถึงหนังมนุษย์กลายพันธุ์ X-Men (ในจักรวาลมาร์เวลฉบับคอมิกนั้น Quick Silver และ Scarlet Witch (Wanda) เป็นลูกของ Magneto)
“เมื่อมองย้อนกลับไปใน 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นใน MCU ทุกอย่างก็สามารถปูทางไปสู่อะไร (หนัง X-Men)ก็ได้ (หนัง X-Men) ทั้งนั้น” แน่นอนว่าไฟกีไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน แต่ก็จากหลายทฤษฎีที่แฟน ๆ เชื่อมโยงกันอยู่ถึงการที่จักรวาลมาร์เวลจะเล่าถึง Multiverse ก็เป็นไปได้ว่า X-Men อาจจะมาปรากฏตัวแบบรับเขิญอย่างเซอร์ไพรส์ในหนังหรือซีรีส์ของเฟส 4 ก็เป็นได้
ข่าวลือ Spider-Man: Homecoming 3 มีทั้งถูกและไม่ถูก
ท่ามกลางข่าวลือมากมายของหนัง Spider-Man 3 ที่ระดมทีมนักแสดงระดับน้อง ๆ หนัง Avengers และประกาศอย่างเป็นทางการออกมาก่อนหน้านี้ว่า หนังภาคนี้จะเล่าเรื่องของจักรวาลคู่ขนานที่พาไอ้แมงมุมคนเก่าและเหล่าวายร้ายจาก 2 ฉบับก่อนกลับมาร่วมจอด้วย (ในรูปแบบการกลับมารับบทเดิม แต่ไม่ใช่ตัวละครเดิมในจักรวาลที่คอหนังได้ชมกันไปแล้ว)
เมื่อ Feige ถูกถามถึงข่าวลือต่าง ๆ ที่มีออกมา เขาไม่ยืนยันหรือปฏิเสธข่าวใด ๆ เพียงบอกแค่ว่า บางข่าวก็ใกล้เคียงกับความจริงมาก ขณะที่บางข่าวก็ไม่ตรงเลย “ผมอ่านข่าวพวกนั้นไปบางส่วน ผมไม่แน่ใจว่าผมได้อ่านทุกอันไหมนะ? ความสนุกของเรื่องคาดเดาต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ก็คือมันไม่ค่อยผิดเท่าไร และบางข่าวก็ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่จนน่าตกใจด้วย แต่การบอกว่าอันไหนถูกหรือผิดมันก็จะชวนหมดสนุกไปน่ะสิ“
Feige ยังบอกว่า มันเหนือจริงมากสำหรับตัวเขาเมื่อพูดถึง Spider-Man 3 เพราะเขาเองเคยมีส่วนร่วมสร้างหนัง Spider-Man 3 มาแล้วครั้งหนึ่ง ในฉบับที่ออกฉายปี 2007 กำกับโดย Sam Raimi ที่ตอนนี้มาเข้าชื่อเป็นผู้กำกับ Doctor Strange ภาค 2 “มันสมเหตุสมผลอยู่ที่ตอนนี้เราจะเรียกมันว่า Spider-Man 3 แต่พวกผมเรียกมันว่า Homecoming 3” หนังมีกำหนดฉายในเดือนธันวาคม 2021 กำกับโดย จอน วัตต์ คนเดิม
ทำไมจึงสร้าง Secret Invasion เป็นซีรีส์ แทนที่จะเป้นหนัง
Feige เผยเหตุผลที่ Secret Invasion ที่จะเป็นซีรีส์ฉายเดี่ยวของตัวละคร Nick Fury นำแสดงโดย Samuel L. Jackson เรื่องราวเกี่ยวกับการที่เผ่าพันธุ์ Skrull (เช่นเดียวกับตัวละคร Talos ของนักแสดง Ben Mendelsohn ใน Captain America (2019)) เข้ามาแฝงตัวอยู่บนโลก โดยการปลอมตัวเป็นฮีโรหลายคนเพื่อล้มล้างมนุษยชาติและยึดครองโลก ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่และเต็มไปด้วยตัวละครฮีโรมากหน้าหลายตา (ถ้าสร้างตามฉบับคอมิก)
Feige เผยเหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจสร้างเรื่องราวนี้ให้เป็นซีรีส์แทนที่จะเป็นหนัง “พวกเราสนใจการนำเสนอบรรยากาศความหวาดระแวงทางการเมืองใน Secret Invasion และพวกเราโชคดีมากที่มี Samuel และ Ben สองนักแสดงมากความสามารถที่ใคร ๆ ก็ต้องการให้ไปอยู่ในหนังและซีรีส์เรื่องต่าง ๆ มาอยู่กับซีรีส์ของเรา”
Feige ยังบอกอีกว่า จุดโฟกัสของซีรีส์จะเชื่อมโยงสู่สิ่งเรื่องราว ๆ อื่น และเรื่องราวของเผ่าพันธุ์ Skrull ในแบบที่คนดูไม่เคยเห็นมาก่อน การทำออกมาเป็นซีรีส์จะเอื้อให้มาร์เวลได้ทำสิ่งที่แตกต่างจากที่เราเคยทำมาก่อน (ทำนองเดียวกับที่ทำให้ WandaVision กลายเป็นซีรีส์ฮีโรซิตคอม) ซีรีส์จะมีทั้งหมด 6 ตอน ยังไม่มีกำหนดสตรีมบน Disney+ ตอนนี้
Shuri จะปกป้องวากานดาหลังสูญเสีย T’Challa ใน Black Panther 2
Feige ยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่คัดเลือกนักแสดงใหม่สำหรับบทฝ่าบาท T’Challa และจะไม่ใช้ CGI ใบหน้าของ Chadwick Boseman ในหนัง Black Panther 2 ด้วย โดยในหนังภาคใหม่นี้จะเป็นการเข้าไปสำรวจตัวละครและวัฒนธรรมต่าง ๆ ในอาณาจักรวากานดามากขึ้น ล่าสุดมีรายงานข่าวตามหลังความเห็นของ Feige ออกมาอีก ว่า เนื้อหาในภาคนี้จะโฟกัสไปที่ช่วงเวลาหลังการสูญเสียกษัตริย์ T’Challa ก่อนที่ภัยครั้งใหญ่จะเข้ามาเยือนโดยวายร้าย Namor
นั่นทำให้ Shuri น้องสาวของ T’Challa ตัวละครของ Letitia Wright จะต้องขึ้นมาปกป้องบ้านเมืองแทนพี่ชาย นอกจากนี้ยังมีลืออีกด้วยว่า นักแสดงดัง Michael B. Jordan จะฟื้นจากความตายกลับมารับบท Killmonger (ซึ่งหนนี้อาจจะไม่ใช่วายร้าย) ด้วยเนื้อหาของหนังจะปรับเปลี่ยนไปจากบทร่างเดิมที่ Ryan Coogler เขียนเอาไว้ก่อนหน้า Chadwick Boseman เสียชีวิต หนังมีกำหนดเปิดกล้องถ่ายทำกรกฎาคมปีนี้ และจะเข้าฉายช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
Deadpool 3 จะยังเป็นหนังเรต R เหมือนเดิม
Feige ยืนยันว่า หนังภาค 3 จะยังคงเป็นเรต R ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในหนัง 2 ภาค สมัยที่ยังอยู่ภายใต้การสร้างของ 20th Century Fox และแฟน ๆ ของฮีโรตัวนี้กังวลมาตลอดว่า Disney จะไม่ยอมทำหนังห่าม ๆ เหมือน 2 ภาคแรก “แน่นอนว่าหนังจะยังคงได้เรต R และเรากำลังเขียนบทกันอยู่ Ryan Reynolds มาคุมบทเองเลย แต่หนังจะนังไม่ได้เริ่มถ่ายในปีนี้ เพราะ Ryan ยุ่งเอามาก ๆ และเราก็มีหลายอย่างที่ประกาศไปแล้ว ซึ่งเราก็ต้องทำให้มันสำเร็จก่อน“
นี่จะเป็นอีกครั้งที่มีตัวละครแปลกแหวกแนวมาร่วมอยู่ในจักรวาลหนังมาร์เวล และ Ryan ก็เป็นนักแสดงที่เก่งในการแสดงหนังอย่างเป็นธรรมชาติ Feige ย้ำว่า มันน่าทึ่งที่มาร์เวลจะได้ทำให้ตัวละคร Deadpool มีชีวิตขึ้นมา Deadpool ภาคแรกออกฉายเมื่อปี 2016 นั้น ทำรายได้ไปสูงถึง 782 ล้านเหรียญฯ ทั่วโลก จากทุนสร้างที่ไม่สูงเท่าไรนัก ตามด้วยความสำเร็จของ Deadpool 2 (2018) ที่ทำรายได้ไปถึง 734 ล้านเหรียญฯ ทั่วโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์เรต R ที่ทำรายได้สูงสุดอันดับต้น ๆ ในตอนนี้ และจากกำหนดการฉายหนังในตอนนี้ คาดว่า Deadpool 3 คงฉายได้อย่างเร็วช่วงต้นปี 2023
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส