เว้นช่วงจากภาค 4 ถึง 6 ปี แล้วพาราเมาท์ก็ได้ฤกษ์เริ่มต้นนับหนึ่งในไตรภาคชุดใหม่ โดยไม่สนว่าภาคนี้จะเจ๊งหรือได้กำไรยังไงก็จะทำภาคต่อ เพราะพาราเมาท์ถือสิทธิ์ Terminator ได้ไปอีก 4 ปีเท่านั้น แล้วสิทธิ์จะกลับไปอยู่ในมือ เจมส์ คาเมรอน เจ้าของเรื่องในปี2019

เส้นเรื่องในภาคนี้ ต่อจากภาค 1 คือถ้าไม่ได้ดูภาค 2-3-4 ก็ดูรู้เรื่องนะ หนังเดินตามวังวนเวลาที่เจมส์ คาเมรอน เคยเขียนไว้ในภาค 1 เหล่าหุ่นยนต์ สกายเน็ท ส่งหุ่น T-800 มาสังหารซาร่า คอนเนอร์ในปี 1984 จอห์น คอนเนอร์ ก็ส่ง ไคล์ รีส มือขวาของตัวเองมาอารักขาแม่ในปี 1984 เช่นกัน แต่เมื่อมาถึง อดีตกลับเปลี่ยนไป ไม่เหมือนภาค1ของเจมส์ คาเมรอนแล้ว เมื่อมีหุ่น T-800 ที่บุคคลนิรนามส่งมาอารักขา ซาร่า คอนเนอร์ตั้งแต่เธออายุ 9 ขวบแล้ว กลายเป็นทีมใหม่ ซาร่า คอนเนอร์ ,ไคล์ รีส กับคู่กัดหุ่น T-800 เดินตามเส้นเรื่องใหม่ที่จะสานต่อไปอีก 2 ภาค แต่ยังมีเป้าหมายเดิม คือทำลายสกายเน็ตตั้งแต่ก่อนมันอุบัติขึ้น

terminator genisys

หนังอัดฉากแอ็คชั่นมาแน่น และต่อเนื่อง คนสู้กับหุ่น หุ่นสู้กับหุ่น เฮลิคอปเตอร์ไล่ล่า รถวิ่งไล่กัน ระเบิดถล่มทลาย แต่ก็เป็นแอ็คชั่นในรูปแบบชินตาในมาตรฐานหนังฮอลลีวู้ด ไม่ได้ชวนลุ้นหรือมีความแปลกใหม่ให้ได้เห็น

ผมรู้สึกตะขิดตะขวงตั้งแต่เห็นตัวอย่างหนังแล้ว ที่ดันเปิดเผยจุดสำคัญเสียหมด พอเห็นจอห์น คอนเนอร์เผยว่าเป็นตัวร้ายก็เลยไม่ประหลาดใจ ได้เห็นความสามารถใหม่ของหุ่นรุ่นใหม่ในภาคนี้ที่เป็นผงเหล็กกระจายตัว และมารวมตัวใหม่ได้ แต่ซีจีของหุ่นรุ่นใหม่นี้ก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตาได้เท่ากับการเปิดตัวซีจีโลหะเหลวของ T-1000 ใน the judgement day (1991) เฟรนไชส์ 3 ภาคหลังก็ไม่สามารถสร้างความแปลกใหม่อะไรให้กับเรื่องราวของ terminator อีกแล้ว ขณะดูก็ทำใจลำบากนะกับการได้เห็น T-800 ไอคอนที่อยู่ในระดับตำนานฮอลลีวู้ดมาถึง 30 ปี แล้วโดนทีมงานสร้างสรรค์บุคลิกใหม่ให้ หลุดจากภาพหุ่นยนต์ไปแล้ว กลายเป็น T-800 ที่พูดแต่ทฤษฎียากๆ และคิดอ่านเป็น วางแผนเป็น ที่โอเวอร์มากคือความสามารถในการประดิษฐ์อุปกรณ์นู่นนี่นั่นได้ และการยัดเยียดทฤษฎีดันทุรังเพื่อให้อาร์โนลด์ กลับมาเล่นในวัยนี้เลยมีการอธิบายว่า ผิวหนังสังเคราะห์ของ T-800 ถูกคิดค้นมาให้ใกล้เคียงกับผิวหนังมนุษย์เลยแก่เหี่ยวได้………โอ้ว อีกทั้งการเขียนให้ จอห์น คอนเนอร์ ฮีโร่คนสำคัญของเรื่องกลายเป็นตัวร้ายซะ ล้วนเป็นการทำร้ายความรู้สึกของคนรุ่นที่โตมากับหนัง terminator ที่เจมส์ คาเมรอน สร้างสรรค์จินตนาการออกมาอย่างน่าอัศจรรย์อยู่ในระดับหนังคลาสสิคเรื่องหนึ่ง แล้วถูกรื้อทิ้งหมดในภาคนี้โดยทีมเขียนบทที่เครดิตไม่น่าเชื่อถือเท่าใดนัก เลต้า คาโลกริดิส (shutter island,alexander) และแพททริค ลุซเซีย (Drive Angry ,My Bloody Valentine) เริ่มมองเห็นแววหายนะของอีก 2 ภาคต่อแล้วล่ะครับ

หนังได้ เจ.เค. ซิมมอนส์ ออสการ์คนล่าสุดมารับบทตัวละครใหม่ โอไบรอั้น ตำรวจที่เคยเห็น T-800 กับ T-1000 มาตั้งแต่ปี 1984 และตามคดีนี้มาตลอด เชื่อในเรื่องการข้ามเวลาเลยถูกมองว่าเป็นตำรวจบ้า บทน่าสนใจครับ แต่อยู่ดีๆ ท้ายเรื่องก็โดนทิ้งหายไปเสียเฉยๆ หนังโดดข้ามเวลาหลายช่วง ทำให้อนาคต อดีตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขณะดูต้องใช้สมาธิคิดตามอยู่ตลอด ไม่งั้นจะพา”งง”เอาได้ง่ายๆ

หนังใช้ทุนสร้างสูงทีเดียวล่ะ 170 ล้านเหรียญ เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกอาจจะทำตัวเลขไปได้สูงด้วยกำลังของแฟนเดนตายเฟรนไชส์ terminator แต่เสียงบอกต่อน่าจะแย่ รายได้ในอเมริกาไม่น่าจะได้ทุนคืนแต่ รวมรายได้นอกอเมริกาน่าจะได้ละครับ

ความสนุกในระดับกลางๆ ครับ พลาดไปไม่น่าเสียดาย ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องดู

Alan-Taylor-Directing-Terminator-5-Genisys

เกร็ดเล็กๆน้อยๆจากหนัง

  • ทอม ฮาร์ดี้ เป็นตัวเลือกแรกของทีมงานในบท จอห์น คอนเนอร์
  • ฉากที่อาร์โนลด์ ผมสีเทาในครึ่งหลังของหนัง เป็นสีผมจริงของอาร์โนลด์ ในวัยนี้
  • ดาราจากซีรี่ส์ฮิต game of thrones กลายเป็น ซาร่า คอนเนอร์ ถึง 2 คน ลีน่า เฮดี้ เคยรับบทใน the sarah connor chronicles ก่อนมารับบทราชินีเซอซี่ และ อีมิเลีย คลาร์ค ในบท ดานิริส ทาเกเรี่ยน ก็มารับซาร่า คอนเนอร์ ในภาคนี้
  • อาร์โนลด์ ชวาร์ทเซนเนกเกอร์ ฟิตหุ่นวันละ 3 ชั่วโมง ล่วงหน้า 6 เดือน เพื่อกลับมาโชว์ร่างฟิตในภาคนี้
  • ผู้เขียนบท เลต้า คาโลกริดิส และแพททริค ลุซเซีย บอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจาก back to the future 2 เมื่อมาร์ตี้ แม็คฟลาย ย้อนเวลาไปแก้ไขอดีต แล้วกลับมาเจออนาคตที่เปลี่ยนแปลง ทีมงานยื่นโอกาสให้ทั้งคู่เขียนบท แต่ทั้งคู่ก็ปฎิเสธไปถึง 3 ครั้ง เหตุที่ว่าเขาไม่ชอบเรื่องราวของภาค 3 ภาค 4 ที่ไม่กล้าไปแตะต้องเรื่องต้นแบบของ เจมส์ คาเมรอน จนสุดท้าย เจมส์ คาเมรอน บอกอนุญาตทั้งคู่ “เอาเลย ตามสบาย” ทั้งคู่ถึงรับงาน เลยออกมาเป็นเรื่องราวแบบนี้
  • เบร็ตต์ แรทเนอร์ (x-men:the last stand,rush hour) เดิมทีได้กำกับ แต่บอกปัด แล้วไปกำกับ hercules แทน,อัง ลี และ จัสติน ลิน เป็นอีก 2 ชื่อผู้กำกับ ที่ได้รับข้อเสนอให้มากำกับ แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่ อลัน เทย์เลอร์ จาก thor และ game of thrones
  • หนังใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมด 90 วัน
  • เบร็ท อาซาร์ เป็นนักกล้ามที่หุ่นดูใกล้เคียงอาร์โนลด์ทีสุด เลยถูกรับเลือกจากหลายคนที่มาออดิชั่นบทตัวแสดงแทน อาร์โนลด์ ในฉากข้ามเวลามาปี 1984 แล้วใช้ซีจีใส่หน้า อาร์โนลด์ ตอนหนุ่มเข้าไปแทน

 

Play video