ปี 2021 ยังเป็นปีที่มีหนัง Science-Fiction เข้าฉายหลายเรื่องเหมือนเช่นปีอื่น ๆ แม้ว่าจะเริ่มมีบางเรื่องขยับวันฉายไปปีหน้าเพราะสถานการณ์โควิดบางแล้ว เช่น หนังฮีโรของ Sony-Marvel อย่าง Morbius และบางเรื่องก็เปลี่ยนจากฉายโรงใหญ่ไปลงสตรีมมิงอย่าง Tomorrow of War แต่หนังฟอร์มใหญ่อีกหลายเรื่องก็มุ่งมั่นจะฉายโรงใหญ่ให้ได้อย่างไม่คิดว่าจะลงสตรีมมิงชนิดยอมเลื่อนไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าไม่เลื่อนอีก ปีนี้เราจะได้ชมหนังภาคต่อของ A Quiet Place, Ghostbusters, The Matrix 4 รวมถึงหนังรีเมก Dune ส่วนหนังที่จะเป็นเรื่องราวต้นฉบับและพร้อมสร้างภาคต่อ ก็มีทั้ง Chaos Walking, Free Guy, Infinite และ Bios
A QUIET PLACE PART II (17 กันยายน)
ทีมงานเดิมจากภาคแรกกลับมาเกือบครบ และสตูดิโอก็มั่นใจกับแฟรนไชส์นี้มากถึงขนาดเตรียมสร้างภาค 3 และภาคแยกต่อแบบไม่รอโควิด ภาคนี้จึงไม่มีทางเป็นความล้มเหลวแน่นอน John Krasinski นักแสดงจากซีรีส์ Jack Ryan ฉบับล่าสุดและเป็นผู้กำกับภาคแรก รวมถึงเป็นสามีตัวจริงของนางเอก Emily Blunt กลับมาเขียนบทและกำกับภาคต่อของสุดฮิตที่ทำรายได้รวมทั่วโลกไป 340 จากทุนสร้างแค่ 17 ล้านเหรียญฯ
ภาคแรกเล่าเรื่องราวของโลกหลังประสบกับหายนะจากสิ่งมีชีวิตต่างดาว มนุษย์ที่รอดชีวิตต้องอยู่ในความเงียบ ในภาคนี้จะได้เห็นการเดินหน้าเอาชีวิตรอดกันต่อของครอบครัวเดิมในภาคแรก และพวกเขาจะไม่ใช่คนที่เหลือรอดเพียงกลุ่มเดียว คำวิจารณ์ของนักวิจารณ์ที่ได้ชมหนังช่วงก่อนโรงทั่วสหรัฐฯ จะปิดไม่นานก็ออกมาในทิศทางบวกทั้งหมด แต่ผู้ชมก็ต้องมาแล้วเกินกว่า 1 ปีเต็มกว่าจะได้ดู Emily Blunt, Noah Jupe, Millicent Simmonds กลับมารับบทครอบครัวที่ยังรอดชีวิต และยังได้ Cillian Murphy จาก Inception (2010) และซีรีส์ Peaky Blinders และ Djimon Hounsou จาก Guardians of the Galaxy (2014) มาสมทบ
FREE GUY (21 พฤษภาคม)
นี่คือหนังที่ค่ายหนังมั่นใจมากว่าจะฮิตระเบิดจึงเลื่อนมาแล้วหลายครั้งเพื่อหนีโควิด การันตีความฮาและความกวนโดยพระเอกเบอร์หนึ่งแนวนี้อย่าง Ryan Reynolds จาก Deadpool และผู้กำกับที่เป็นเจ้าของหนังไตรภาค Night at the Museum (2006-2014) หนังจะเล่าเรื่องราวของนายธนาคารที่ชื่อ Guy ผู้อยู่ในโลกสมมติของเกม Open World เกมหนึ่ง เขาใช้ชีวิตอย่างซ้ำซากไปตามบทบาทของตัวละครในเกม จนวันดีคืนดีเกิดมีสำนึกรู้คิดขึ้นมาว่ามีโลกภายนอกที่ใหญ่กว่าของผู้เล่นเกม และเขาก็เกิดอยากจะเป็นฮีโรต่อสู้กับเหล่าตัวละครวายร้ายแถมยังสามารถกำหนดเรื่องราวของตัวเองได้ขึ้นมาซะงั้น ความมันของการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องฟังคำสั่งใครครั้งแรกจึงบังเกิด
สมทบด้วยนักแสดงสาว Jodie Comer, ผู้กำกับจากหนัง Thor ภาค 3 และ 4 Taika Waititi (มาเป็นนักแสดงในที่นี้), Joe Keery จากซีรีส์ Stranger Things และหนังยังเป็นฝีมือของผู้กำกับแนวตลกที่ทำหนังฟอร์มดีมาตลอดอย่าง Shawn Levy จากไตรภาค Night at the Museum (2006-2014), Big Fat Liar (2002), Date Night (2010) และหนังไซไฟครอบครัวอย่าง Real Steel (2011) รวมถึงยังเป็นผู้ควบคุมการสร้างซีรีส์สุดฮิตอย่าง Stranger Things ทั้ง 4 ซีซันอีกต่างหาก
DUNE (1 ตุลาคม)
หนังของ Denis Villeneuve ไม่มีเรื่องไหนที่เป็นหนังห่วย (ผลงานเก่าเช่น หนัง Arrival (2016) และ Blade Runner 2049 (2017)) พ่วงด้วยงานภาพระดับต้องร้องว้าวและไปชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ทีมนักแสดงก็ระดับหนัง Star Wars หรือ LOTR กันเลยทีเดียว ผู้กำกับก็เป็นหนึ่งในคนที่ออกมางอนแรงใส่ Warner ที่จะเอาหนังของเขาไปสตรีมพร้อมฉายโรง โดยบอกว่า สตูดิโอกำลังฆ่าหนังด้วยมือตัวเองในการดับฝันภาคต่อไปหากภาคนี้ไม่เปรี้ยง นี่คือหนึ่งในหนังฟอร์มยักษ์ที่จะเป็นการรีเมกมหากาพย์ไซไฟแห่งยุคจากฉบับปี 1984
Dune ฉบับใหม่ที่เต็มไปด้วยนักแสดงล้นจอ ระดับไม่เคยได้ออสการ์ก็เคยเข้าชิง ทั้ง Timothée Chalamet, Rebecca Ferguson, Jason Momoa, Josh Brolin, Javier Bardem, Oscar Isaac, Dave Bautista, Zendaya, Stellan Skarsgård และ Charlotte Rampling เล่าเรื่องราวในอาณาจักรกาแล็กซีไกลโพ้น ราชวงศ์ Atreides ของ Paul Atreides ที่รับหน้าที่ปกครองดาวทะเลทรายชื่ออาร์ราคิส ซึ่งมีทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในจักรวาลที่เรียกว่า “พืชทิพย์” ที่ช่วยในการเดินทางข้ามจักรวาล ต่อมาจักรพรรดิแห่งกาแล็กซีก็หวั่นเกรงต่อราชวงศ์นี้ที่เริ่มเป็นที่นิยมชมชอบของราชวงศ์อื่น ๆ จึงได้ร่วมมือกันกับราชวงศ์ที่เป็นปรปักษ์ วางแผนลอบสังหารล้างราชวงศ์ที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง แต่ Paul กับ Lady Jessica แม่ของเขาหนีไปได้ และเข้าร่วมกลุ่มกับชาว Freeman ที่เป็นชนพื้นเมืองเพื่อต่อสู้กลับ
(อ่านต่อหน้าถัดไป)
GHOSTBUSTERS: AFTER LIFE
คอหนังยุค 80s ย่อมจะต้องไม่พลาดหนังของแก๊งปราบผีสุดฮิตที่อายุเกือบ 30 ปีเข้าไปแล้วของ “แก๊งปราบผี” ก็กำลังจะกลับมา โดยหนังจะเป็นภาคต่อโดยตรงจาก 2 ภาคแรกเมื่อปี 1984 เรื่องราวของเกี่ยวกับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พาลูกสองคนย้ายไปอยู่กับคุณตาในชนบท ต่อมาเธอได้พบความจริงว่าคุณตาคือหนึ่งในทีมนักปราบผีของบริษัทกำจัดผีที่เก่งที่สุด นอกจากนั้น สิ่งที่เคยถูกกักขังไว้นานมาแล้วก็กำลังจะหลุดออกมาในยุคปัจจุบัน จนต้องนักปราบผีรุ่นใหม่จะต้องผนึกกำลังกับคุณตาไปทำหน้าที่ปราบผี นำทีมโดยครูในโรงเรียนของเด็กทั้งสองที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแก๊งปราบผีซึ่งดันเป็นคนเดียวที่เชื่อเรื่องผี
Jason Reitman ผู้กำกับของเรื่อง มีผลงานเด่น ๆ อย่าง Juno (2007) และ Up in the Air (2009) รวมถึงเป็นลูกชายแท้ ๆ ของ Ivan Reitman ผู้กำกับ 2 ภาคต้นฉบับได้เล่าว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พ่อของเขาได้ชมหนังฉบับเต็มแล้ว และก็กลายมาเป็นโมเมนต์สุดประทับใจระหว่างพวกเขาทั้งคู่ “พ่อผมได้ชมหนังฉบับทดสอบ เขาสวมหน้ากากแล้วขับรถไปยังโซนี่เพื่อดูหนังในสตูดิโอ และหลังจากนั้น เขาก็ร้องไห้ เขาบอกว่า “ฉันภูมิใจที่ได้เป็นพ่อของแก” นั่นเป็นโมเมนต์ที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลย” Reitman ยังบอกด้วยว่า หนังภาคนี้จะยังคงความไซไฟสยองขวัญซึ่งถูกถ่ายทอดไว้ด้วยโทนตลกซึ่งเป็นจุดขายของ 2 ภาคแรก
BOSS LEVEL
หากคุณชอบเรื่องราวของหนังไซไฟวนลูปประเภท Groundhog Day (1993), Edge of Tomorrow (2014) หรือ Happy Death Day (2017) แล้วละก็ หนังเรื่องใหม่ของ Mel Gibson นักแสดงดังจากยุค 80s และ Frank Grillo จาก Captain America: The Winter Soldier (2014) และ The Purge Anarchy (2014) เรื่องนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจไม่น้อย Grillo รับบทเป็น Roy Pulver ทหารรับจ้างที่ถูกนักฆ่ารุมฆ่าแล้วตื่นขึ้นมาถูกรุมฆ่าซ้ำ ๆ อีกเป็นร้อยครั้ง หนังเป็นผลงานกำกับของ Joe Carnahan จาก Narc (2002) , Smokin’ Aces (2006), The A-Team (2010) และ The Grey (2011) ซึ่ง Grillo ร่วมแสดงด้วย
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชีวิตของเขาถึงติดอยู่ในการวนลูปเวลาแบบนั้น และทำไมนักฆ่าเหล่านั้นถึงมารุมฆ่าเขา แต่สิ่งเดียวที่รู้ก็คือ ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับหัวหน้าองค์กรอย่าง Clive Ventor จนกระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาเก่าที่เขาคิดว่าตายไปแล้วโทรมาหาและน่าจะเป็นเบาะแสให้เขาหลุดพ้นจากการตายวนลูปได้ เขาจึงต้องหาทางไปช่วยเธอ และใช้ความรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เพื่อเอาชนะเหล่านักฆ่าตัวฉกาจทั้งหลาย หนังทุนสร้าง 45 ล้านเหรียญฯ ยังสมทบด้วยนักแสดงชั้นนำมากมายทั้ง Naomi Watts จาก King Kong (2005), Annabelle Wallis จาก The Mummy (2017), Michelle Yeoh จาก Crazy Rich Asians (2018) และ Ken Jeong จาก The Hangover (2009) โดยจะสตรีมมิงในสหรัฐฯ ทางช่อง Hulu 5 มีนาคมนี้ ส่วนบ้านเรายังไม่มีรายงานว่าบริษัทไหนจะซื้อมาจัดจำหน่าย
THE TOMORROW WAR (23 กรกฎาคม-กำหนดฉายเดิมก่อนขาย)
Paramount Pictures และ Skydance ตัดสินใจขายสิทธิ์หนัง The Tomorrow War ให้กับ Amazon Prime ราคาที่สูงมากราว 200 ล้านเหรียญฯ ซึ่งต้องถือว่าเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ทำรายได้จากการขายเพื่อไปลงแพลตฟอร์มสตรีมมิงได้มากขนาดนี้ แสดงว่าผู้สร้างและ Amazon ต้องมั่นใจในฟอร์มของหนังอย่างมาก หนังมีนักแสดงนำอย่าง Chris Pratt จาก Jurassic World (2015) และ Guardians of the Galaxy (2014) ที่มารับบทเป็น ทหารรับจ้างที่ถูกนักวิทยาศาสตร์จากอนาคตเกณฑ์ไปรับกับกองทัพเอเลียนที่มาบุกโลก
เขาพบว่าความสามารถในการควบคุมอดีตของตัวเขาเอง คือกุญแจสำคัญที่อาจช่วยให้มนุษยชาติชนะสงครามระหว่างมนุษย์กับเอเลียนในครั้งนี้ หนังยังสมทบด้วยนักแสดงอีกหลายคนทั้ง J.K. Simmons จาก Justice League (2017), Betty Gilpin จาก The Hunt (2020) และ Yvonne Strahovski จากซีรีส์ Dexter โดย The Tomorrow War สร้างจากบทของ Zach Dean จาก 24 Hours to Live (2017) และ กำกับโดย Chris McKay ผู้กำกับของหนังแอนิเมชัน The Lego Batman Movie (2017) ที่มากำกับหนังคนแสดงเป็นครั้งแรก
INFINITE (28 พฤษภาคม)
ดัดแปลงจากนิยาย “The Reincarnationist Papers” ของ D. Eric Maikranz ว่าด้วย Evan Michaels ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคจิตเภท ที่เกิดจากการที่เขาฝันเห็นภาพหลอนที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง แต่แล้วเขาก็ได้ไปพบกับองค์กรลับชื่อ “ค็อกโนมินา” ซึ่งสมาชิกล้วนเป็นคนที่สามารถระลึกชาติได้ ต่อมาเมื่อมีมารร้ายหมายจะมาทำลายโลก องค์กรจึงต้องพึ่งชายหนุ่มผู้นี้ซึ่งได้พบความจริงว่าภาพที่เขาเห็นชัดเจนในฝันนั้น ความจริงแล้วเป็นเหตุการณ์ในชาติก่อนและเขาต้องใช้นิมิตเหล่านั้นมาช่วยในการกอบกู้โลก
Chris Evans เคยเข้าชื่อในการรับบท Evan Michaels ก่อนที่จะถอนตัวออกไป และได้ Mark Wahlberg มารับบทแทน และยังสมทบด้วยดาราชนิดขนมาเป็นกองทัพ ทั้ง Chiwetel Ejiofor จาก Doctor Strange (2016), Dylan O’Brien จาก The Maze Runner, Rupert Friend จาก Hitman: Agent 47 (2015) และ Sophie Cookson จาก Kingsman: The Secret Service (2014) ที่หนังได้นักแสดงมาร่วมมากขนาดนี้เป็นเพราะผู้กำกับคือ Antoine Fuqua ที่เคยกำกับ Wahlberg มาใน Shooter (2007) และมีหนังในเครดิตอย่าง Olympus Has Fallen (2013) และ The Equalizer (2014-2018) ซึ่งก็รับประกันความมันได้แน่นอน
(อ่านต่อหน้าถัดไป)
CHAOS WALKING (5 มีนาคม)
หนังทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญฯ โดยผู้กำกับอย่าง Doug Liman ที่เชี่ยวชาญงานหนังแอ็กชันและไซไฟจาก The Edge of Tomorrow (2014) และ Mr. & Mrs. Smith (2005) ก็เชื่อมั่นว่าจะทำหนังไซไฟไอเดียล้ำเรื่องใหม่ออกมาถูกใจคอหนัง Tom Holland จาก Spider-Man: Homecoming (2017) ประกบคู่กับ Daisy Ridley นางเอกจาก Star Wars ไตรภาคล่าสุด (2015-2019) สมทบด้วย Mads Mikkelsen จาก Doctor Strange (2016), Nick Jonas จาก Jumanji: Welcome to the Jungle (2017), David Oyelowo จาก Selma (2014), และ Cynthia Erivo นักแสดงที่ได้เข้าชิงออสการ์นำหญิงเมื่อปีที่ผ่านมาจาก Harriet (2019)
หนังเล่าเรื่องราวโลกอนาคตอันใกล้ที่ไร้ซึ่งมนุษย์เพศหญิงและสิ่งมีชีวิตเพศเมีย เพราะถูกเชื้อโรคประหลาดฆ่าตายจนหมดทั้งโลก ส่วนผู้คนที่เหลืออยู่ก็ได้รับเชื้อโรคที่ทำให้ความคิดทุกอย่างในหัว ปรากฏออกมาให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ไปด้วยกัน ทั้งในรูปของคำพูด เสียงและภาพ นั่นทำให้สังคมยุ่งเหยิงและโลกตกอยู่ในภาวะสงคราม Todd Hewitt เด็กหนุ่มที่เดินทางเอาตัวรอดไปกับสุนัขรู้ใจ ได้พบ Viola Eade เด็กสาวคนหนึ่งที่อาจเป็นผู้หญิงที่เหลือรอดอยู่คนเดียวในโลก รวมถึง เธออาจเป็นทางออกของสถานการณ์โลกแตกในครั้งนี้
BIOS (13 สิงหาคม)
หนังแนวที่แฟนหนังไม่ค่อยได้เห็นนักแสดงมากฝีมืออย่าง Tom Hanks นำแสดงก็คือหนังแนวไซไฟ (อาจมีแค่เรื่องเดียวคือ Cloud Atlas (2012) ของผู้กำกับหนัง The Matrix) ในปีนี้การได้เห็น Hanks ในหนังไซไฟดราม่าของ Universal Pictures ที่ร่วมสร้างกับ Amblin Entertainment ของ Steven Spielberg จึงกลายเป็นหนังที่น่าติดตามขึ้นมาในทันที โดย Hanks รับบทเป็น Finch ที่ตั้งใจสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาเพื่อดูแลสุนัขของเขาหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว ต่อมา Finch ก็พบว่า หุ่นจักรกลอัจฉริยะตัวนี้ได้เรียนรู้ความรัก มิตรภาพและความหมายของการใช้ชีวิตในแบบเดียวกับมนุษย์อย่างที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน
สมทบด้วย Caleb Landry Jones จาก X-Men: First Class (2011) โดยหนังเป็นผลงานกำกับของ Michael Sapochnik ผู้กำกับฝีมือดีเจ้าของรางวัลไพร์มไทม์เอ็มมี่จากซีรีส์ Game of Thrones และเคยกำกับ Altered Carbon, True Detective และเคยกำกับหนังอย่าง Repo Men (2010) มาก่อน รวมถึงยังเป็นผลงานเขียนบทของ Craig Luck และ Ivor Powell ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของหนังไซไฟในตำนานอย่าง Alien (1979) และ Blade Runner (1982)
THE MATRIX 4 (22 ธันวาคม)
ใครจะไปคิดว่าหนังไซไฟเรื่องเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกภาพยนตร์ที่จบไปตั้งแต่ปี 2003 จะกลับมามีภาคต่ออีก แถมยังได้นักแสดงนำชุดเดิมกลับมาพร้อมส่งไม้ต่อให้กับนักแสดงชุดใหม่ที่สตูดิโอรวมทั้งผู้กำกับ พร้อมทำให้หายคิดถึงและส่งให้ Keanu Reeves ค้างฟ้าอีกรอบ นักแสดงหลักชุดเดิมของหนังกลับมาหมดยกเว้น Lawrence Fishburne ทำให้เดากันว่าหนังจะเป็นการย้อนไปตอนที่ตัวละคร Morpheus ยังเป็นหนุ่มอยู่ และได้ Yahya Abdul-Mateen มารับบทแทน
หนังก็ยังไม่มีเรื่องย่อออกมา นอกจาก Reeves ที่ให้สัมภาษณ์ว่า Neo นั้นตายอย่างเสียสละไปแล้วในภาค 3 Revolution (2003) แล้วและเขายืนยันว่า The Matrix 4 จะไม่ใช่เรื่องของการเล่าย้อนกลับไปเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้วใน 3 ภาคก่อนอย่างแน่นอน นอกจากได้ Keanu Reeves, Carrie-Anne Moss, Jada Pinkett Smith และ Lambert Wilson จะกลับมาแล้ว ทีมนักแสดงชุดใหม่ที่คาดว่าจะมาสานต่อเรื่องราวนอกจาก Abdul-Mateen แล้วก็ยังมี Neil Patrick Harris จาก Gone Girl (2014), Jessica Henwick จาก Love and Monsters (2020) และ Jonathan Groff จากซีรีส์ Mindhunter
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส