หลังจากกลับไปกลับมาอยู่พักหนึ่งก่อนจะแน่นอนแล้วว่า Zack Snyder’s Justice League จะเป็นหนังเต็มเรื่องความยาว 4 ชั่วโมง ไม่ใช่มินิซีรีส์ที่จะฉาย 4 ตอนตอนละชั่วโมงเหมือนที่บอกทีแรก แต่ยังจะสตรีมให้ชมต่าง HBO Max เช่นเดิม (ส่วนบ้านเราก็มีคำยืนยันแล้วว่าจะได้ชมผ่านทางบริการของ HBO Go) ล่าสุดผู้กำกับได้ทวีตประกาศวันสตรีมของหนังออกมาแล้วเป็นวันที่ 18 มีนาคม หรืออีกราว 2 เดือนนับจากนี้
และยังได้ปล่อยโปสเตอร์สุดเข้มฉบับขาวดำออกมาด้วย (มีคนแซวว่า นึกว่าเป็นฉบับแฟนเมด เพราะมีการจิกกัดหนังเรื่องเดิมอยู่ด้วยในที) แบบแรกเป็นการเล่นกับโลโก้ของ Justice League เพื่อล้อใบปิดยั่วน้ำลายตอนหนังฉบับปี 2017 ประกาศวันฉายเหมือนกัน แบบที่สองใช้แรงบันดาลใจจากหนังสือ “Superman” เล่ม 75 หรือตอน “The Death of Superman” ที่ Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) อ้างอิงมาอย่างหลวม ๆ และแบบที่สามเล่นกับกิมมิกว่า โลกได้ค้นพบหนังอีกฉบับของ Snyder ที่ถูกทิ้งไปและไม่ได้ฉายโรง
Zack Snyder ต้องทิ้งการถ่ายทำหนังฉบับปี 2017 ไปอย่างกะทันหัน เพราะว่าลูกสาวคนโตเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย ก่อนหน้านี้เขาแทบไม่พูดถึงเหตุการณ์นั้น แต่เมื่อไม่นานนี้เขาได้อธิบายให้แฟนหนังได้เข้าใจถึงการตัดสินใจทิ้งหนังเรื่องนี้ นอกจากจะกลับไปดูแลหัวใจของคนที่เหลือในครอบครัวแล้ว ดูเหมือนว่าในส่วนของการทำงาน Snyder ก็ได้เจอเข้ากับปัญหาไม่ลงรอยกับสตูดิโอด้วยเหมือนกัน
ผมบอกกับตัวเองว่า พอกันที ผมอยู่ในสภาพที่รู้ว่าครอบครัวต้องการผมมากกว่าเรื่องบ้า ๆ พวกนี้”
Sean O’Connell นักเขียนของเว็บไซต์ CinemaBlend ได้เขียนหนังสือเล่าเบื้องหลัง Snyder Cut ทั้งหมด ชื่อว่า “Release the Snyder Cut” และได้คุยกับ Snyder ถึงเหตุผลจริงๆ ที่เขาทิ้งหนังไป และ Snyder ก็เปิดเผยถึงปัญหาอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการต้องกลับไปดูแลครอบครัวหลังต้องเผชิญกับวิกฤต
ผมไม่มีแรงที่จะสู้รบกับค่ายหนังอีกแล้ว ไม่มีแรงที่จะสู้เพื่อหนังอีกแล้ว ผมคิดว่านั่นแหละเป็นเหตุผลหลักใหญ่ หนังทุกเรื่องมันคือการต่อสู้ ใช่ไหม ผมคุ้นเคยกับอะไรแบบนั้นดี เพียงแต่ ณ ตอนนั้น ผมไม่มีแรงจะต่อสู้อีกแล้ว ผมถูกกระหน่ำทุบตีจากสิ่งที่เกิดขึ้นมากมายในชีวิตผม ผมก็เลยไม่แคร์ว่าจะต้องทิ้งอะไรไป”
และอย่างที่เรารู้กัน Justice League ถูกเข้าคุมงานต่อด้วยผู้กำกับ Joss Whedon ที่เคยกำกับ The Avengers (2012) และ Avengers: Age of Ultron (2014) หนังรวมฮีโรของจักรวาลมาร์เวล ซึ่ง Warner เองก็คงคาดหวังให้หนังประสบความสำเร็จเช่นกัน แต่สุดท้ายหนังก็กลายเป็นความล้มเหลว ทำรายได้รวมทั่วโลกไป 657 ล้านเหรียญฯ (จากทุนสร้าง 300 ล้านเหรียญฯ ซึ่งหักต้นทุนค่าประชาสัมพันธ์แล้ว หนังถือว่าได้กำไรนิดเดียว) น้อยกว่าหนังจักรวาลดีซีเรื่องอื่น ๆ ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ Zack Snyder ก็เพิ่งออกมาบอกด้วยว่า หนัง Suicide Squad (2016) ของผู้กำกับ David Ayer ซึ่งกำลังจะถูกรีเมกใหม่เป็นหนังของ James Gunn ชื่อ The Suicide Squad (2021) ที่ได้นักแสดงเดิมบางคนกลับมา แม้ว่า Snyder จะเป็นคนดูแลการถ่ายซ่อมหลังจากผู้บริหาร Warner สั่งให้ถ่ายซ่อมใหม่ ถึงอย่างนั้น Snyder ก็บอกกับเว็บไซต์ John Doe Movie Reviews ว่า เขาเองก็อยากเห็นหนัง Suicide Squad ฉบับดั้งเดิมของ Ayer เข้าฉายแบบที่เขาได้รับโอกาสนั้นเช่นกัน
ผมสนับสนุนคนทำหนังทุกคนที่อยากให้หนังในแบบของพวกเขาเอง หรือตามวิสัยทัศน์ของพวกเขา เพราะผมได้รับการสนับสนุนอย่างมาก ผมจึงอยากให้คนอื่นได้รับการสนับสนุนแบบนั้นเช่นกัน”
Ayer เองก็เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า หนังฉบับของเขานั้นง่ายมากในการทำให้สมบูรณ์แต่ Suicide Squad เองนั้นอาจไม่โชคดีเท่า Justice League ตรงที่หากมีการทำฉบับดั้งเดิมออกฉาย ก็อาจจะทับไลน์กับหนัง The Suicide Squad เรื่องใหม่ ที่เป็นทั้งภาคต่อและยกเครื่องใหม่ไปพร้อมกัน และยังจะมีซีรีส์ภาคแยกของตัวละครในเรื่องออกสตรีมมิงทาง HBO Max ซึ่งก็จะทำให้เกิดเป็นความซ้ำซ้อนกันเกินไป Warner จึงน่าจะเดินหน้ากับ The Suicide Squad ที่มีอนาคตมากกว่าแล้ว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส