ซีรีส์จบคนไม่จบจ้ะ กับความประทับใจในความดีงาม ที่ซีรีส์เสิร์ฟให้เราได้รับชมจนสัมผัสถึงความสนุกสนานกว่าที่เราคาดคิด จนอดพูดถึงไม่ได้ ใครยังไม่ดูไปตามดูได้ที่ VIU ส่วนใครที่ขำจนน้ำตาเล็ด ฟินกับคู่พระ-นาง เอ๊ะ หรือจะพระ-นายในร่างนางดี และอดมีความรู้สึกร่วมกับตอนจบกันไม่ได้ เชื่อว่าหลายท่านมีความสะเทือนใจเล็ก ๆ กับความรักที่เชฟบงฮวานมีต่อฝ่าบาท ณ จุดนี้กลิ่น Y จาง ๆ เข้ามาอยู่ในหัวใจแฟน ๆ กันเลยเชียว ทาง VIU เขาก็เข้าใจคนที่ไม่อยากมูฟออนเป็นอย่างดี จัด 2 ตอนพิเศษ Mr. Queen: The Secret มาให้ดูกันแล้วแบบฟิน ๆ ตามไปดูกันได้นะจ๊ะ เพื่อการมูฟออนเป็นวงกลมอย่างสมบูรณ์แบบ
คำเตือน : บทความนี้เหมาะสำหรับคนที่ดูเรื่องนี้จนจบแล้วเท่านั้น
1.ความรักที่ยิ่งใหญ่ของบยองอิน
บยองอิน (นาอินวู) กลายเป็นวายร้ายที่น่าเศร้า พระรองที่น่าสงสารไปในทันทีค่ะเมื่อซีรีส์เดินทางมาถึงจุดจบของเรื่อง ซีรีส์ปูตัวละครตัวนี้ไว้ที่พื้นฐานของความรักมั่นคงอย่างพลิกความคาดหมาย ชายคนหนึ่งมีรักเดียวใจเดียวและมองแต่เพียงจิตวิญญาณภายใน ของหญิงที่ตนรักอย่างแท้จริง เรียกว่าเป็นความฉลาดในการเขียนบทที่ใส่ความจริงข้อนี้เอาไว้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เรียกว่าเฉลยและตอกย้ำกันเลยแหละ เมื่อเขารู้ว่า โซยง (ชินฮเยซอน)ยังมีเศษความทรงจำหลงเหลืออยู่ในร่างนี้ ขอมีเธออยู่เพียงเสี้ยวเขาก็ยอมที่จะสละชีวิตให้ได้ ฮือออ …. สงสาร
เพียงฉากเดียวเท่านั้น สามารถกลบความหมั่นไส้ที่บยองอินช่างเหิมเกริมกับฝ่าบาท เหตุผลมีเพียงหนึ่งเดียวเลยคือ ก็เขารักของเขาจริง ๆ และไม่คิดว่าจะมีใครรักเธอได้เท่าเขาอีกแล้ว เขาคนเดียวที่จะปกป้องเธอได้ แม้กระทั่งการคิดใหญ่ใฝ่สูงเขาก็ยอมที่จะทำ สิ่งที่น่าสงสารมากขึ้นไปกว่านี้ก็คือ เขาไม่ได้รับความรักอย่างที่เขาอยากได้จากคนที่เขารักเลยสักคนเดียว มเหสีก็ไม่ได้รักตอบเพราะนางรักฝ่าบาทไปแล้วไง พ่อก็ไม่รักอีก รู้ข่าวว่าลูกตายก็ปล่อยตายเมื่อย ๆ ไปอย่างงั้น ความดีส่วนนี้ของบยองอินทำให้บงฮวานในร่างมเหสี หลั่งน้ำตาเป็นเผาเต่าให้กับเขาเลยละจ้ะ
2.ฮวาจินที่หาตัวเองจนเจอ
จุดเริ่มต้นในการเข้าวังของ ฮวาจิน (ซอลอินอา) และบยองอิน มีส่วนที่เหมือนกันอยู่ข้อหนึ่งคือ ทั้งสองคนเข้ามาเพื่อปกป้องและช่วยเหลือคนที่ตัวเองรัก ในขณะที่บยองอินสูญเสียความเป็นตัวเองไปเรื่อย ๆ ถึงกับคิดก่อกบฎ แต่ฮวาจินกลับคิดได้ว่าเธอกำลังกลายเป็นอะไรไปแล้ว และเลือกที่จะจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี เจ็บแต่จบ เรื่องนี้ทำให้ฮวาจินเป็นหญิงยุคโชซอนที่เท่สมกับที่บงฮวานเคยบอกไว้ว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เท่มาก ๆ การจากไปแบบนี้เจ็บปวดอยู่แล้วละ รักเขามาก ยอมเข้าวังมาเป็นสนมแต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนไป จนเธอเองเกือบจะเสียความเป็นตัวตนทำเรื่องเลวร้าย น่าละอายไปแล้วก็หลายครั้ง
เมื่อสิ่งที่ต้องการเพียงแค่ได้รักกับชายที่รักและร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเขา มันไม่เป็นอย่างที่คิด บายจ้ะฝ่าบาท ขอลาออกจากการเป็นสนม แต่ยังรักฝ่าบาทอยู่นะ ซีนที่มเหสีเรียกฮวาจินเข้าวังเพื่อบอกความจริงว่าฝ่าบาทยังไม่ตาย และฮวาจินแอบช่วยบอกความจริงกับประชาชนอย่างลับ ๆ ยืนยันกับเราได้เลยว่า อีตาฝ่าบาทนี่น่าอิจฉาอะไรอย่างนี้ มีผู้หญิงที่รักตัวเองเหลือเกินถึงสองคน สุดท้ายฮวาจินก็ได้ค้นพบตัวเองจ้ะ เธอไม่ใช่คนที่ทั้งชีวิตหมุนรอบชอลจง เรียกว่าเป็นสตรียุคโชซอนที่มีสติ แต่เป็นคนที่ต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องและเพื่อตัวเอง มีซีนตอนจบเล็ก ๆ ของเธอที่ทำให้เราสามารถจิ้นไปได้ว่า สุดท้ายแล้วเธออาจได้พบรักที่แท้จริงกับ องค์ชายยองพยอง (ยูมินคยู) ก็เป็นได้
3.ฉากจบที่ร้าวรานกับการมีอยู่ของมเหสีโซยง
เชื่อว่าหลายคนอินกับฉากนี้ไม่น้อยเลยละค่ะ เพราะโชคชะตาช่างกลั่นแกล้งบงฮวานอะไรอย่างนี้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับฝ่าบาทมามากมาย จนตกหลุมรักเขาไปแล้วซะด้วยซ้ำ พอถึงคราวที่จะต้องจากกันกลับไม่ได้ร่ำลาซะงั้นน่ะ วิญญาญบงฮวานอยู่ ๆ ก็วาร์ปไปเข้าร่างตัวเองที่นอนเป็นผักอยู่ในโลกอนาคต ปล่อยให้พระมเหสีตัวจริงสานต่อภารกิจเอาซะดื้อ ๆ ทำไมคนที่เผชิญชะตากรรมด้วยกันมาไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะ แต่ในความจริงแล้วพระมเหสีโซยง รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างนั่นแหละจ้ะยืนยันจากคำพูดที่ว่า “เขาไม่อยู่แล้ว” ซึ่งหมายถึงบงฮวานในร่างของเธอ จากไปแล้ว แสดงว่าเธอรู้ทุกอย่าง
ทำไมบทช่างเขียนออกมาใจร้ายกับเชฟหนุ่มของเราซะจริง แล้วทีนี้กลับโลกอนาคตไปแล้วจะรักผู้หญิงได้อีกหรือเปล่าเนี่ย แต่เหตุการณ์นี้เท่ากับว่า บทเขียนให้บงฮวานกลายเป็นฮีโรที่เข้ามาช่วยพลิกประวัติศาสตร์ และมาเพื่อสอนโซยงถึงวิธีการยืนหยัดเพื่อตัวเอง และที่แน่ ๆ มาเพื่อทำให้ฝ่าบาทตกหลุมรักโซยง ด้วยการเป็นมเหสีปากร้ายและแปลกแหวกโชซอน คำพูดหนึ่งของพระราชาชอลจงที่บอกว่า “ข้าทำบางอย่างหายไปหรือไม่นะ” ยิ่งตอกย้ำความเศร้าไปอีกเพราะบงฮวานจากไปโดยไม่ได้กล่าวคำลา
4.ความรักและความเดียวดายของบงฮวาน
ย้อนกลับมาในยุคปัจจุบันที่ บงฮวาน (ชเวจินฮยอก) ตื่นขึ้นมา ความรู้สึกเป็นห่วงฝ่าบาทยังคงอยู่จ้ะ แต่จะทำไงได้ ถ้าอยากรู้เหตุการณ์ต่อจากนั้น หนังสือประวัติศาสตร์คือคำตอบ ซีนนี้สร้างออกมาเป็นคอมเมดี้ที่เคล้าน้ำตาที่สุดแล้ว สงสารบงฮวานอ่ะเอาจริง ๆ ภาพที่มองชอลจงในหนังสือประวัติศาสตร์ ยินดีกับความสำเร็จของเขา ร้องไห้ไปด้วยหัวเราะไปด้วย กับภาพที่จิตรกรเลือกที่จะใส่หน้าตลก ๆ ในวันที่ชอลจงตั้งใจทำเพื่อให้เขาหัวเราะ สงสารเชียว
ในขณะที่ทุกคนในโชซอนใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ แต่บงฮวานอยู่คนเดียวในปี 2021 ถ้านี่ไม่ใช่ตอบจบที่เศร้าก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วละ แต่สังเกตกันไหมคะว่า ในจุดนี้ซีรีส์ทำออกมาล้อประวัติศาสตร์อยู่หน่อย ๆ ในข้อที่ประวัติศาสตร์บอกไว้ว่า พระเจ้าชอลจงมีพระพักตร์ที่ไม่งาม ก็จิตรกรเล่นวาดรูปออกมาแบบนี้ คนรุ่นหลังก็คิดว่าไม่งามอ่ะสิเนอะ ว่ามะ
5.มิตรภาพของสหายต่างสถานะ
ถ้าไม่รวมสองนางในเรื่องนี้เข้าไปด้วย ความประทับใจนี้ท่าทางจะไม่สมบูรณ์แล้วละค่ะ หลังจากที่มเหสีเปลี่ยนไปกลายเป็นเชฟสาวของวังหลวง กิริยาท่าทางและความคิดความอ่านต่าง ๆ ช่างแตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง แต่ความรักของสาวใช้คนสนิทอย่าง ฮงยอน (แชซออึน) กลับไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงจงรักภักดีอยู่อย่างนั้น แถมยังได้รับความรักความเอ็นดูจาก ชเวซังกุง (ชาชุงฮวา) มาอีกคน เรียกได้ว่าเป็นพี่ผินพี่แย้มของแม่การะเกดก็ไม่ปาน
ถึงขนาดบุกป่าฝ่าดงเคียงข้างกันตามหาฝ่าบาท ความสะเทือนใจที่ซ่อนอยู่ในฉากนี้ก็คือ เขาทั้งสามคนจะไม่ได้ร่วมเดินในเส้นทางเดียวกันอีกแล้ว เพราะในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บงฮวานจะจากไป นี่จะเป็นการเดินทางร่วมกันครั้งสุดท้ายของบงฮวานในร่างพระมเหสีและสองสาว ไม่อยู่ด้วยกันตลอดไปอย่างบุพเพสันนิวาสของบ้านเรา ซึ่งคนที่จะรับความรู้สึกอาลัยนี้มีเพียงคนเดียว คือเชฟหนุ่มบงฮวานของเรานี่เอง
หลายเสียงอยากให้เรื่องนี้มี SS2 แต่ ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเชื่อว่าเป็นไปได้ยากอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะอย่างที่เราทราบกันดีอยู่ว่า Mr.Queen รีเมกมาจาก Go Princess Go ซื้อมาแค่นี้อ่ะ จะทำภาคต่ออาจติดปัญหาลิขสิทธิ์อย่างแน่นอน ทำบ่ได้ดอกหนา … เอาเป็นว่าใครดูจบแล้วก็ไปดูตอนพิเศษที่เขาทำมาเสิร์ฟเอาใจแฟน ๆ ไปก่อนแล้วกันนะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส