ตลอดช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา Zack Snyder (แซ็ก สไนเดอร์) ได้ทุ่มให้เวลาในการพัฒนา Justice League เวอร์ชันสมบูรณ์ หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Zack Snyder’s Justice League อย่างเต็มที่ ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวจะมีองค์ประกอบที่แตกต่างจากเวอร์ชันที่ฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 2017 อย่างชัดเจน
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ Zack Snyder จะกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่ได้รับค่าเหนื่อยใด ๆ เลยในการถ่ายทำภาพยนตร์ให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ล่าสุดเขาได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Vanity Fair ถึงเหตุผลที่เขาไม่ได้รับค่าเหนื่อยในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ว่า
“ผมไม่อยากจะติดค้างใคร ซึ่งทำให้ผมสามารถต่อรองกับกลุ่มผู้ที่มีอำนาจ ได้เต็มที่มากกว่า”
ผลที่ได้รับก็คือ เขาสามารถควบคุมงานสร้างสรรค์ของภาพยนตร์ดังกล่าวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับงบประมาณ 70 ล้านเหรียญ หรือราว 2,100 ล้านบาท ที่ Warner Bros. ได้ให้มา เพื่อให้เขาถ่ายทำภาพยนตร์จนเสร็จสมบูรณ์
จากที่กล่าวข้างต้น นับว่าเป็นความมุ่งมั่นในการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งเป็นโพรเจกต์ที่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่มาโดยตลอด และทำให้ Warner Bros. อนุญาตให้เขาถ่ายทำ Justice League เสริมได้ตามที่ต้องการ
ต่อจากนี้ แม้ว่า Warner Bros. จะยังไม่มีแผนดำเนินการสร้างภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ DCEU (DC Extended Universe) ตามที่ Zack Snyder ได้วางแผนไว้ก็ตาม แต่การยินยอมให้แฟน ๆ ได้ชม Zack Snyder’s Justice League ที่มีความยาวถึง 4 ชั่วโมง (จากเดิมเวอร์ชันในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 2017 ได้ถูกตัดต่อเหลือเพียง 2 ชั่วโมง) ก็นับว่าเป็นแผนการตลาดเพื่อดึงผู้ชมเดิมไปสู่เส้นทางใหม่ของแฟรนไชส์ DCEU ในอนาคตได้
Zack Snyder’s Justice League มีกำหนดฉายผ่านบริการสตรีมมิง HBO Max และ HBO GO (สำหรับประเทศไทย) ในวันที่ 18 มีนาคม 2021 นี้
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส