ถึงตอนนี้ Zack Snyder’s Justice League ก็สตรีมมิงผ่าน HBO Max มากว่า 2 สัปดาห์แล้ว ผู้เขียนเล็งเห็นว่าเป็นเวลาเหมาะสมที่จะหยิบยกประเด็นที่น่าสนใจในหนังมาขยาย อธิบายข้อสงสัยกันได้ โดยไม่โดนข้อหาสปอยล์แล้วล่ะนะ ประเด็นและตัวละครที่หลายคนน่าจะสงสัยกันมากก็คือ ที่มาของ Martian Manhunter ที่เป็นตัวละครใหม่ที่ไม่มีในเวอร์ชันปี 2017 แต่โผล่มาในเวอร์ชัน Snyder Cut และโผล่มาถึง 2 ฉากเสียด้วย ครั้งแรกในช่วงกลางเรื่อง ตอนที่ปลอมตัวมาเป็น มาร์ธา เคนต์ เพื่อมาหา โลอิส เลน
และอีกครั้งในฉากปิดเรื่องที่เขาบินมาหา บรู๊ซ เวย์น ที่บ้านพักตากอากาศ ซึ่ง Martian Manhunter ก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากว่าเขาต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิก Justice League นับเป็นนาทีสำคัญและน่าตื่นเต้นสำหรับแฟน ๆ ดีซี ที่ได้เห็นสมาชิกใหม่ของทีม Justice League ที่ดูแววแล้วน่าจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต แต่ด้วยการกระทำที่ดูคลุมเครือและคำพูดที่ดูเป็นปริศนามากมาย เขาเป็นใครมาจากไหน มีเป้าหมายอะไร เราจะค่อย ๆ คลายข้อข้องใจกันไปทีละเปลาะครับ
The Anti-Life Equation สมการต่อต้านชีวิต
การที่จะทำความรู้จักกับ Martian Manhunter จำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องทำความเข้าใจกับทฤษฎี The Anti-Life Equation เสียก่อน เพราะในบทสนทนาระหว่างเขากับ บรู๊ซ เวย์น นั้น Martian Manhunter ได้เตือน บรู๊ซ เวย์น ว่า ภารกิจของ Darkseid ยังไม่จบ มันต้องกลับมาดำเนินแผนการตามทฤษฎี The Anti-Life Equation อย่างแน่นอน
สมการต่อต้านชีวิต คืออะไร ตรงคำจำกัดความนี้ ขอหยิบยกข้อเขียนบางส่วนของ Filmaneo มาไว้ตรงนี้แล้วกัน
The Anti-Life Equation คือสูตรคณิตศาสตร์เหนือธรรมชาติ อันพิสูจน์ว่าจักรวาลถูกออกแบบมาโดยที่ ชีวิตนั้นไร้ความหมาย ไร้ความสำคัญใดๆ ไม่ว่าใครก็ตามได้รับรู้สมการ (ในคอมิคเรื่องหนึ่งดาร์คไซด์ใช้วิธีกระจายเสียงตามสาย) มันจะผลักดันให้เขาวิกลจริต, ชื่นชอบการทำลายล้าง และเมื่อเพิ่มสูตร
“only meaning in life is Darkseid = สิ่งเดียวที่มีความหมายในชีวิตคือดาร์คไซด์”
เข้าเสริมตรงบรรทัดสุดท้าย ผู้รับรู้สมการจะต้องกลายเป็นทาสของดาร์คไซด์ ใน Justice League มีฉากย้อนอดีตสมัยสเตพเพ่นวูล์ฟบุกโลกครั้งก่อน เขาทุบค้อนลงบนแผ่นดินจนลุกเป็นไฟ เกิดลวดลายบนผืนดินคล้ายสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง สัญลักษณ์เกี่ยวข้องกับสมการ ซึ่งหากพูดถึงสมการในคอมิคดีซี จะหมายถึง ‘สมการต่อต้านชีวิต = Anti-Life Equation ที่ดาร์คไซด์ใช้มันเป็นเครื่องมือล้างสมองและปกครองผู้คนบนดวงดาวต่างๆ
Martian Manhunter เป็นใครมาจากไหน
สำหรับแฟน ๆ ของภาพยนตร์ดีซีแล้วนั้น ได้รู้จักตัวละคร นายพล คาลวิน สแวนวิก (Calvin Swanwick) ครั้งแรกใน Man of Steel ต่อมาใน Batman v Superman: Dawn of Justice เขาก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นวุฒิสมาชิก แต่พอมาถึง Zack Snyder’s Justice League ผู้กำกับ แซ็ก ชไนเดอร์ ก็เผยว่าตัวตนที่แท้จริงของ คาลวิน สแวนวิก นั้นคือมนุษย์ต่างดาวนาม Martian Manhunter ที่ปลอมตัวมาโดยตลอด ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ แม้แต่ตัว แฮร์รี่ เล็นนิกซ์ ผู้รับบทนี้ก็ยังเพิ่งรู้
ย้อนไปถึงที่ไปที่มาของ Martian Manhunter ในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูนนั้นเขาถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1955 นู่นเลย ภาพลักษณ์แรกของ Martian Manhunter นั้น เป็นมนุษย์ต่างดาวผิวสีเขียว มาจากดาวอังคาร มีชื่อจริงว่า จอนน์ จอนซ์ (J’onn J’onzz) ในเวอร์ชันการ์ตูนนั้น Martian Manhunter แสดงเจตนาเด่นชัดว่าเป็นพันธมิตรกับเหล่าซูเปอร์ฮีโรดีซี และได้เป็นสมาชิกของ Justice League ด้วย มีความสามารถพิเศษหลายอย่าง เช่น ปลอมแปลงรูปร่าง, เหาะได้, มีพละกำลังแข็งแกร่งทัดเทียมซูเปอร์แมน, งอกอวัยวะใหม่ได้, มีโทรจิต, และยิงคลื่นความร้อนจากดวงตาได้ เราจะสังเกตได้ว่าความสามารถพิเศษของ Martian Manhunter นั้นมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกับซูเปอร์แมน ฉะนั้นตอนไหนที่ซูเปอร์แมนติดภารกิจอื่น กลุ่ม Justice League ก็จะได้ Martian Manhunter มาทำหน้าที่แทน แต่ถึงอย่างนั้น Martian Manhunter ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน นั่นก็คือ “กลัวไฟ”
ทำไม Martian Manhunter มาอยู่บนโลกมนุษย์
คาดเดาได้ว่าภารกิจหลักของ Martian Manhunter นั้นก็คือการยับยั้งแผนการ The Life-Equation ของ Darkseid และที่เขามาอยู่บนโลกมนุษย์นี้ก็น่าจะเกี่ยวกับการที่ Steppenwolf ค้นพบว่า Anti-Life ถูกซุกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ แต่นั่นก็คือการคาดเดาจากเนื้อหาของหนัง ซึ่งตัว แซ็ก ชไนเดอร์ เองก็ยังไม่มีการอธิบายแบบกระจ่างชัดถึงที่มาของ Martian Manhunter แต่ในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูนนั้น ได้เล่าที่มาของ Martian Manhunter ว่า อาณานิคมของชาวอังคารถูกทำลายไปแล้ว จอนน์ จอนซ์ เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว จำต้องหาโลกใหม่อาศัยอยู่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า แซ็ก ชไนเดอร์ อาจจะเปิดเผยปูมหลังของ Martian Manhunter ใน Justice League 2 หรือ Justice League 3 ว่าทำไมเขาถึงเจาะจงเลือกโลกมนุษย์เป็นบ้านใหม่ของเขา
เหตุผลที่ Martian Manhunter เลือกใช้ นายพล คาลวิน
สแวนวิก เป็นร่างมนุษย์
ทำไม Martian Manhunter ต้องเลือกนายพลอเมริกันผู้นี้เป็นฉากหน้าของเขา ที่วิเคราะห์กันได้ก็น่าจะเป็นเพราะ บทบาทในฐานะนายทหารระดับสูงนั้น มีข้อได้เปรียบและมีอภิสิทธิ์มากมายเหนือกว่าประชาชนทั่ว ๆ ไป และสามารถเข้าถึงความลับสำคัญในหน่วยงานทหารได้อีกด้วย ซึ่งเป็นช่องทางที่ จอนน์ จอนซ์ จะใช้สืบหาที่อยู่ของ The Life-Equation ซึ่งอาจจะรู้ก่อน Steppenwolf อีกด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังดูเข้าเค้า กับการที่ จอนน์ จอนซ์ เลือกฉากหน้าเป็นบุคคลระดับสูงในหน่วยงานทหาร
และถ้าสังเกตจากสถานะของนายพล คาลวิน สแวนวิก ใน Man of Steel and Batman v. Superman แล้วนั้น จะเห็นได้ว่านายพลสแวนวิกจะล่วงรู้ถึงการบุกรุกเข้ามาของเอเลี่ยนจากนอกโลกก่อนทุกครั้ง และเขามักจะเป็นตัวแทนของรัฐบาลที่ออกมาเจรจากับเหล่าผู้บุกรุกเสียทุกครั้ง
การเข้าสู่จักรวาลภาพยนตร์ดีซีของ Martian Manhunter
ฉากแรกเลยที่เปิดตัว Martian Manhunter นั้น ค่อนข้างสร้างความสับสนงงงวยให้กับผู้ชมอย่างมาก ว่านี่มันตัวอะไร หลังจากที่ได้เห็น มาร์ธา เคนต์ มาเยี่ยม โลอิส เลน ที่ห้องของเธอ ทั้งคู่เปิดใจกันเรื่องความเศร้าโศกในวันที่ไม่มี คลาร์ก เคนต์ และเป็นฝ่าย มาร์ธา เคนต์ ที่ให้กำลังใจและบอกกับเลนว่า โลกต้องการให้เธอออกไปเผชิญแทนที่จะซุกตัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์เช่นนี้ พอมาร์ธา เคนต์ ออกจากห้องมาก็เผยตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว ในภาพลักษณ์ที่เราไม่คุ้นเคย ก่อนจะเปลี่ยนร่างอีกครั้งเป็น นายพล คาลวิน สแวนวิก เป็นการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวละครที่แฟน ๆ รู้จักกันดีมาตั้งแต่ 2 เรื่องก่อน แถมเมื่อวิเคราะห์เจตนาและการกระทำของ Martian Manhunter แล้ว ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเขาน่าจะอยู่ในฝ่ายธรรมะ
ที่จริงแล้วบทของนายพล คาลวิน สแวนวิก นั้นก็มีอยูใน Justice League เวอร์ชันปี 2017 อยู่แล้ว แต่วอร์เนอร์ พิจารณาแล้วก็กังวลในเรื่องความยาวของหนัง ก็เลยถูกตัดออกไปในเวอร์ชันตัดต่อสุดท้าย แซ็ก ชไนเดอร์ ก็เลยต้องเรียกตัว แฮร์รี่ เล็นนิกซ์ มาถ่ายทำเพิ่มเติม 2 ฉาก ถ่ายทำฉากที่อพาร์ตเมนต์ของ โลอิส เลน และฉากท้ายเรื่องที่ปรากฏตัวในภาพลักษณ์ของ Martian Manhunter ในเดือนสิงหาคม 2020 และฉากสำคัญท้ายเรื่องนี่ล่ะ ที่แซ็ก ชไนเดอร์ ตั้งใจให้เชื่อมโยงไปสู่ภาค 2 ที่เหล่าสมาชิก Justice League จะต้องมารวมพลังกันอีกครั้งเพื่อป้องกันแผนการร้าย the Anti-Life Equation ของ Darkseid
ที่จริงแล้วฉากปิดท้ายนี่จะต้องเปิดเผยตัว Green Lantern
ตามบทดั้งเดิมของ แซ็ก ชไนเดอร์ นั้น ในฉากปิดท้ายเรื่องนี่เขาไม่เคยวางแผนไว้ว่าจะให้เป็น Martian Manhunter มาก่อนเลย ที่จริงแล้วในฉากนี้เขาเขียนไว้ว่าจะเป็นการเปิดตัว Green Lantern แต่ผู้บริหารวอเนอร์ ไม่เห็นด้วย คงยังเจ็บจากหนังเดี่ยว Green Lantern ไม่หายกระมัง
“เราถ่ายทำฉากนี้เป็น Green Lantern ไปแล้วด้วย แต่สตูดิโอเห็นแย้งกับผม พวกเขาบอกว่า ‘เราไม่ต้องการให้คุณไปยุ่งเกี่ยวกับ Green Lantern อีก’ ในที่สุดผมก็ต้องยอมพวกเขา แล้วพวกเขาก็ยอมให้ผมทำฉากอย่างที่เห็นนี่ออกมาแทน”
แซ็ก ชไนเดอร์ เล่าความรู้สึกว่า เขาค่อนข้างผิดหวังกับการที่สตูดิโอกีดกันไม่ให้เขานำ Green Lantern กลับมาแนะนำตัวบนจออีกครั้งด้วยวิธีนี้
“พวกเขาบอกผมว่า ‘เรามีแผนการจะนำ Green Lantern กลับมาอยู่แล้ว และเราอยากจะเปิดตัวด้วยวิธีการของเราเอง’ ผมก็บอก แล้วแต่ ตามสบายเลย ท้ายที่สุดเราก็ได้ทางออกร่วมกันออกมาเป็น Martian Manhunter”
แซ็ก ชไนเดอร์ ยังเผยต่ออีกว่าที่จริงแล้ว เขามีแผนจะเปิดตัวว่า นายพล คาลวิน สแวนวิก เป็น Martian Manhunter ในหนังเรื่องหน้า แต่ในฉากปิดท้ายเรื่องนี้ เจตนาของเขาจริง ๆ แล้วอยากได้ Green Lantern มาเป็นสมาชิกคนสำคัญรายใหม่ที่จะมีบทบาทอย่างมากใน Justice League 2 and Justice League 3 แต่เมื่อทุกอย่างลงเอยมาแบบนี้ ในฐานะผู้ชมก็ได้แต่ยินดีไปกับ แฮร์รี่ เล็นนิกซ์ นักแสดงรุ่นใหญ่ที่หลายคนคุ้นหน้า เพราะอยู่ในวงการแสดงมาตั้งแต่ยุค 80s ได้เป็นซูเปอร์ฮีโรกับเขาเสียที