คนไทยเรารู้จัก ‘ซอสพริกศรีราชา’ กันมานับ 70-80 ปี และกินกันเป็นซอสจิ้มสามัญประจำบ้าน โดยแทบไม่รู้เลยว่า ที่อีกซีกโลกหนึ่งมีคนเอาชื่อ “ศรีราชา” ไปใช้กับซอสพริกในบ้านเขาจนโด่งดังราวกับเป็นของตัวเอง
ซอสพริกศรีราชา เดิมเรียก “น้ำพริกศรีราชา” เป็นสินค้าขึ้นชื่อของอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2456 โดยนายกิมซัว ทิมกระจ่างเป็นผู้คิดค้นสูตร ใช้พริกแดง กระเทียม น้ำตาล น้ำส้มสายชู และเกลือเป็นวัตถุดิบ ได้น้ำพริกสีแดงส้มจ้า รสชาติเผ็ด เปรี้ยว หวานที่จัดจ้าน ใช้จิ้มกับอะไรก็อร่อยตั้งแต่หมึกย่างยันไข่เจียว จึงเป็นที่นิยมกันทั่วไปในเวลาไม่นาน
สูตรน้ำพริกศรีราชาของนายกิมซัว ได้แยกออกมาเป็น 2 สาย สายหนึ่งคือลูกชายที่แต่งงานแล้วย้ายมากรุงเทพฯ นำน้ำพริกศรีราชาสูตรนายกิมซัวมาตั้งโรงงานทำขายแถววงเวียนใหญ่เมื่อปี 2488 ในชื่อ ซอสพริกศรีราชาตราภูเขาทอง (กิมซัวแปลว่าภูเขาทอง จึงใช้รูปเจดีย์ภูเขาทองเป็นตรา) ซอสตรานี้ได้รางวัลเหรียญทองจากกระทรวงอุตสาหกรรม 3 ปีซ้อน (2505/2507/2509) และยังขายดีอยู่ทุกวันนี้
อีกสายหนึ่งมาทางลูกหลานฝ่ายหญิง ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ที่ศรีราชา ได้ตั้งสายการผลิตที่แหลมฟาน ผลิตน้ำพริกในชื่อ ซอสพริกศรีราชาพานิช ในเวลาที่ใกล้เคียงกันและเป็นที่นิยมทั้งในไทยและต่างประเทศมาจนปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน อาแปะ ‘ธวัช วิพิศมากูล’ ได้เล่าว่าตอนเด็ก ๆ เขาเคยเห็นนายกิมซัว มาซื้อพริกซื้อกระเทียมจากร้านของยายเขาทีละมาก ๆ ทราบว่านำไปทำน้ำพริก แต่ทางบ้านเขาได้สูตรน้ำพริกมาจากชาวพม่าที่ทำงานในโรงเลื่อย และทำกินกันในบ้านมาจนทำขายและได้จดทะเบียนการค้าในปี พ.ศ. 2488 ใช้ชื่อ ซอสพริกศรีราชาตราเกาะลอย
หลายสิบปีต่อมา เดวิด ทราน ชาวญวณที่อพยพไปอยู่อเมริกาคิดทำซอสพริกออกขายให้ร้านอาหารจีนและเวียดนามในย่านไชน่าทาวน์ช่วงทศวรรษปี 2520 โดยใช้พริกฮาลาเปโญของเม็กซิกันเป็นวัตถุดิบ จึงทำให้มีรสชาติต่างออกไปจากซอสพริกศรีราชาของไทย ซึ่งเชื่อว่าเขาน่าจะเคยลิ้มรสมาตั้งแต่ครั้งอยู่เวียดนาม ซอสของเดวิด ทราน หวานน้อยกว่าและใสกว่าซอสศรีราชาของไทย มีลักษณะเด่นที่ขวดสกรีนตราไก่และจุกสีเขียวสด และเขาเรียกซอสนี้ว่า “Sriracha”
เดวิด ทรานเคยพูดถึงที่มาของคำว่า “ศรีราชา” ไว้หลายอย่าง แต่ในที่สุดก็ยอมรับว่า ซอสของเขานั้นได้รับอิทธิพลจากซอสศรีราชาของไทยจึงเรียกว่าศรีราชา
ในยุคแรก ๆ ศรีราชาของเดวิด ทราน เรียกกันง่าย ๆ ว่าซอสตราไก่ เป็นที่รู้จักอยู่ในหมู่คนเอเชีย นิยมใช้ปรุงเฝอหรือจิ้มติ๋มซำ แต่ไม่นานความจี๊ดจ๊าดนี้ก็แพร่หลาย ฝรั่ง “เครซี่” รสและกลิ่นของศรีราชาถึงขนาดเอาไปเคลือบถั่ว ปรุงรสมันฝรั่งอบกรอบ คลุกพอปคอร์น ใส่หน้าพิซซ่า แม้กระทั่งใส่ในวอดก้า และศรีราชาก็กลายเป็นชื่อสีแดงส้มแจ๊ด ที่นำไปทำลิปสติกและสีเคลือบรถด้วย!
ความโด่งดังของศรีราชาตราไก่ ข้ามกลับมาที่เมืองไทยพร้อมข่าวเดวิด ทรานจะขอจดลิขสิทธิ์ชื่อ “Sriracha” ทำเอาคนไทยออกมาแย้งกันยกใหญ่ว่าจะเอาชื่อ “ศรีราชา” ของเราไปใช้ได้อย่างไร และทางการไทยจะทำอะไรได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม แม้เดวิด ทรานจะจดลิขสิทธิ์ตราไก่และฝาขวดสีเขียว แต่เขาไม่เคยยื่นขอจดลิขสิทธิ์ชื่อ Sriracha เลย และเมื่อมีคนอื่นพยายามจะยื่นขอจดชื่อนี้ในภายหลัง สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐฯ (The United States Patent and Trademark Office หรือ USPTO) ก็ไม่รับจด โดยบอกว่าชื่อ “Sriracha” เป็นสามานยนามที่คนรับรู้กันทั่วไปแล้วว่าคือซอสพริก ไม่ใช่ชื่อเฉพาะ ไม่ใช่ตราสินค้า ใคร ๆ จึงสามารถเรียกซอสพริกของตัวเองว่าศรีราชาได้ ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นกรณีศึกษาที่อเมริกาเลยทีเดียวว่า เดวิด ทราน สูญเสียโอกาสสำคัญเพราะไม่ขอจดลิขสิทธิ์
แต่ใครจะไปรู้ดีกว่าเดวิด ทราน ว่าทำไมเขาถึงไม่จดลิขสิทธิ์ชื่อ “ศรีราชา”
อ้างอิง 1 อ้างอิง 2 อ้างอิง 3 อ้างอิง 4
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส