เรียกได้ว่าร้อนแรงไม่แพ้ข่าวลุงพลและประชุมสภา ฯ ทีเดียวสำหรับการปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์ฉบับนานาชาติของหนัง ‘ร่างทรง’ หรือในชื่อ ‘The Medium’ ผลงานร่วมสร้างระหว่าง GDH ของประเทศไทยร่วมกับ 2 บริษัทของเกาหลีทั้ง โชว์บ็อกซ์ (Showbox) และ นอร์ธเทิร์น ครอสส์ (Nothern Cross) บริษัทโปรดักชันของนาฮงจิน ผู้กำกับหนังทริลเลอร์เกาหลีชื่อดังจาก ‘The Wailing’ ที่มารับหน้าที่อำนวยการสร้างและได้ผู้กำกับ บรรจง ปิสัญธนะกูล จาก ‘พี่มากพระโขนง’ ที่หวนคืนสู่การทำหนังสยองขวัญอีกครั้ง
โดยเรื่องราวของ ‘ร่างทรง’ จะกล่าวถึงเรื่องราวอาธรรพ์ของครอบครัวหนึ่งในภาคอีสานที่มีการสืบทอดตำแหน่งร่างทรงแต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวิญญาณที่มาเข้าร่างอาจไม่ใช่เทพเทวดาอย่างที่ใครหลายคนคิด
สำหรับตัวอย่างหนังฉบับแรกซึ่งเป็นฉบับที่ใช้ในการโปรโมตนี้จะเป็นฉบับนานาชาติ ซึ่งได้เสียงของ เอี้ยง สวนีย์ อุทุมมา นักแสดงสายละครเวทีที่ภาพของเธอถูกใช้ในโปสเตอร์หนังอีกด้วย แต่ที่สะดุดตามาก ๆ สำหรับตัวอย่างหนังครั้งนัี้คือภาพฟุตเตจที่บรรยายถึงความเชื่อของชาวอีสานตั้งแต่เฟรมแรก ๆ ของตัวอย่างภาพยนตร์เลยทีเดียว ส่วนจะมีอะไรบ้างเราลองมาไล่ดูกันดีกว่า
มีความเชื่ออะไรบ้าง
ตากเสื้อแดงไล่ผี
โดยความเชื่อนี้มาจากการไล่ผีแม่ม่าย ซึ่งข่าวล่าสุดเกิดที่จังหวัดกาฬสินธ์เมื่อปีที่แล้วที่มีผู้ชายตายติดต่อกันถึง 8 ศพ ชาวบ้านเชื่อว่าผีแม่ม่ายจะมาเอาตัวผู้ชายในหมู่บ้านนั้นไปอยู่ด้วย
หลักบือบ้าน
หลักบือบ้าน หรือหลักกลางบ้านจะมีความคล้ายหลักเมืองคือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และทัี่สำคัญที่สุดคือเหมือนเครื่องมือเตือนใจควบคุมให้คนในชุมชนไม่ประพฤติตนออกนอกกรอบศีลธรรม
แห่ดาว สกลนคร
แม้จะเป็นประเพณีที่จัดในวันคริสต์มาสของชาวคริสต์ แต่กระนั้นทีั่มาของพิธีกรรมนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยโดยประวัติของพิธีแห่ดาวเริ่มจากการเผยแผ่ของคริสตศาสนาที่เข้ามาในภาคอีสานในปี ค.ศ. 1881 ( พ.ศ. 2424) โดยการนำของ คุณพ่อยอห์น บัปติสต์ โปรดม (Jean PRODHOMME) และคุณพ่อซาเวียร์ เกโก (Xavier GEGO) ธรรมทูตรุ่นบุกเบิกคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส (MEP) ที่สอนให้คริสตชนทำดาวประดับวัดในเทศกาลคริสต์มาส ประกอบกับธรรมชาติของคนอีสานที่ร่าเริงสนุกสนานมีงานประเพณีแห่แหนตลอดทั้งปี
ประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาสนี้มีเพียงแห่งเดียวในโลก คือ ที่มิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง เท่านั้น การแห่ดาว เป็นกิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส เพื่อระลึกเหตุการณ์ที่บรรดาโหราจารย์ได้ติดตาม
ดาวประหลาดดวงหนึ่ง เพื่อไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่แบธเลเฮม และถือกันว่าดวงดาวคือสัญลักษณ์แห่งการประสูติของพระเยซู
คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี
คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันให้มากความเพราะบรรดาผู้แสวงโชคก็มักจะไปเยี่ยมเยือนคำชะโนด จังหวัดอุดรธานีกันอยู่แล้ว ด้วยความเชื่อและความศรัทธาของผู้คนต่อตัวพญานาคก็ทำให้ คำชะโนด ได้ต้อนรับบรรดาผู้มีจิตศรัทธาอยู่เนือง ๆ และเนื่องจากภาพที่เรานำเสนอมีบ่อน้ำอยู่หลังรูปปั้นพญานาคก็เลยมีข้อมูลที่น่าสนใจว่าบริเวณตรงกลางคำชะโนดจะมีบ่อน้ำที่ลึกมาก ผู้เฒ่าผู้แก่บ้านดุงเล่าว่าไม้ไผ่ 6 ลำ ต่อกันก็หยั่งไม่ถึง และน้ำในบ่อไม่เคยแห้งเลย เชื่อกันว่าบ่อน้ำคำชะโนดทะลุไปถึงแม่น้ำโขงได้ พญาสุทโธนาคราช หากประสงค์จะขึ้นมาบนมนุษยพิภพก็จะต้องมาขึ้นที่คำชะโนดเพียงแห่งเดียว เมื่อพญานาคสุทโธนาคขึ้นมาบนมนุษยพิภพก็จะเป็นมนุษย์และมีชื่อเรียกว่าเจ้าปู่ศรีสุทโธบ่อน้ำนี้เป็นบ่อของพญานาคสุทโธจึงเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้ดื่มกินรักษาโรคได้ สามารถใช้ลูบหัวเพื่อความเป็นศิริมงคล
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส