Troop Tower (ทรูป ทาวเวอร์) สมาชิกในวง 3 คนได้แก่ “ยักษ์ – อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์” หรือ “ยักษ์ มือกลองวงแคลช” ตามมาด้วย โอม – ธนายุทธ ประจิมทิศ กีต้าร์ และเหมี่ยว – ภูเก็ต ช้างเสวก กลอง เจ้าของบทเพลง “ขอโทษ” ซิงเกิลสุดเศร้า จุกจัดที่กวาดยอดวิวมากกว่า 56 ล้านวิว แม้พวกเขาจะหายหน้าหายตาไปถึง 4 ปี ครั้งนี้พวกเขากลับมาพร้อมเพลงใหม่ “ภาพดีๆ” ภายใต้ทีม “Music Management” รุ่นใหม่อย่าง “Spacebar Hub”
“ภาพดีๆ” แนวเพลงพอปร็อก ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการจากลา คนที่ต้องการจะไปมักจะพูดคำว่า “ไม่ต้องเสียใจนะ” หรือ “อย่าร้องไห้เลย” อาจเพราะพวกเขาคงไม่อยากรู้สึกผิด หรือไม่อยากเสียเวลากับเราอีก แต่ตรงกันข้าม คนที่ถูกบอกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆ ส่วนใหญ่จะยังรัก และเจ็บปวดกับคำบอกลาอย่างรุนแรงอยู่เสมอ การห้ามไม่ให้เสียใจจึงเป็นเรื่องที่ยากจะทำ เพราะคนที่หมดใจกับคนที่ยังรักอยู่มันเหมือนอยู่กันคนละโลกจริง ๆ
คำถามแรกมาย้อนความไปมาสักนิด อยากทราบว่าสมาชิก Troop Tower แต่ละคนมารวมตัวกันได้อย่างไร?
ยักษ์ : Troop Tower จะต้องเล่ามาตั้งแต่สมัยจบวงแคลช ที่วงแคลชพักวง ผมกับสุ่มเลยเอาโปรเจกต์ Shade ที่เป็นวงที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยมัธยมมาทำเพื่อความสนุกสนานอย่างเพลง “รอพี่ก่อน” ตอนนั้นมีผมร้อง แล้วก็สุ่มเล่นกีต้าร์ แบนเล่นเบสและมีเล้งเป็นมือกีตาร์อีกคนหนึ่ง แต่เรายังไม่มีมือกลองเราก็เลยบอกว่าไปเทียบเชิญพี่เหมี่ยวมา ไปเจอพี่เหมียวที่ตอนที่เราไปทัวร์กับดา เอ็นโดรฟิน แล้วมีน้องเหมี่ยว morning surfers เล่นดนตรีให้ดาเอ็นโดรฟินอยู่ เราก็เลยบอกว่าเราชอบเหมี่ยวว่ะ เราใช้ชีวิตคล้ายๆกัน เราชอบกินอะไรเหมือนกันแล้วก็สนุกกับมันได้เหมือนๆ กัน เราก็เลยบอกว่าเอาเหมี่ยวนี่แหละ ตอนนั้นก็ทำวง Shade กันหลังจากนั้นแป๊บนึง สุ่มเขาต้องการที่จะไปเทิร์นโปรจักรยานเขาก็เลยบอกว่าขอ Fade ตัวออกไปจากวง Shade เพื่อไปเป็นนักปั่นจักรยานมืออาชีพเราก็เลยประชุมกับพี่เหมี่ยวว่าจะเอาอย่างไรกันดี วงนี้จะอยู่กันแบบไหนจะเป็น Shade เหมือนเดิมหรือว่าเราจะทำอะไรกันดี เหมี่ยวเขาก็จะบอกว่า…
เหมี่ยว : ก็เอาแบบรวบรัดเลยนะ สรุปกันว่าจะทำวงใหม่เราก็เลยจะไปหาสมาชิกเพิ่ม เพราะเหลือแค่กลองกับนักร้อง เราก็เลยได้ไปเอาโอมเข้ามา เป็นที่มาของ Troop Tower และได้นัดกันประชุมแล้วก็เรื่องชื่อวงที่พี่แบงค์อยู่ ๆมาจากไหนก็ไม่รู้แล้วก็มาบอกว่า ศักดาทุบตึกก็เป็นที่มาของชื่อวง
ฟังแล้วก็เซอร์ไพรส์มากที่พี่ยักษ์เป็นคนร้องเฮ้ยมือกลองวงแคลชร้องเพลงได้ด้วย
ยักษ์ : ผมก็เซอร์ไพรส์เหมือนกันครับ คือมันเริ่มตั้งแต่ตอนที่ทำวง Shade ตอนมัธยม ตอนนั้นวงแคลชยังเป็นลูซิเฟอร์อยู่ก็มีตำแหน่ง 5 คนนี้ พี่พลกับพี่แฮ็กเป็นรุ่นพี่แล้วก็จบม 6 กลายเป็นผมกับสุ่มก็เลยเคว้ง ตอนนั้นที่โรงเรียนราชวินิตบางแก้วแพรวเพริศพริ้งมันมีงานให้เล่นเยอะมาก งานของวงดนตรีสมัยนั้นมันเยอะมากจริงๆ ช่วงนั้นในโรงเรียนนักร้องหายากกว่าทุกตำแหน่งเลยไม่มีใครยอมเป็นนักร้องเพราะทุกคนจะเป็นมือกลอง มือกีต้าร์กันหมด มือกลองเยอะมากเต็มโรงเรียน ผมก็เลย เออ งั้นเดี๋ยวร้องให้ก็ได้ เพราะว่าก็ชอบร้องเพลง แค่พอร้องได้ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น ก็ร้องเพลงได้นี่หว่าก็เลยร้องเพลงต่อมา
อยากให้ขยายความเพิ่มถึงชื่อวง Troop Tower มีความหมายว่าอะไรทำไมต้องเป็นชื่อนี้?
ยักษ์ : หลังจากที่แบงค์ แคลชตั้งชื่อวงทุบตึกให้เรามาแล้วเราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเกิดเราจะเป็นวงทุบตึก ซึ่งจริงๆ แล้วเราชอบนะ มันจำได้ในทีเดียวเลย แต่ถ้าเกิดเราชื่อวงทุบตึกเราจะไม่สามารถทำเพลงช้าให้คนเชื่อได้เลยว่าเราเศร้าได้ มันจะไม่เชื่อแน่นอน ถ้าเกิดว่าทุบตึกแล้วมาร้องเพลงเศร้าคนนี่งงแน่
เหมี่ยว : ก็เลยลองเล่นคำดูว่าทุบมันจะเป็นอะไรได้บ้าง มี Troop ที่แปลว่ากองกำลัง มันก็เหมือนวงดนตรีที่มีหลายๆ คนมาเป็นกองกำลัง ตึกที่เป็นตัว T มันก็ควรจะเป็น Tower นั่นแหละครับก็เป็นTroop Tower แค่นั้นแหละครับที่มาของชื่อวงแล้วเอามาเสนอทุกคนก็ ok Happy
ขอย้อนไปในตอนซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยมาเมื่อ 4 ปีที่แล้วอย่างเพลงขอโทษที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมียอดวิวถึง 56 ล้านวิวทั้งที่ยังไม่มี MV ออกมาพี่ๆรู้สึกกันอย่างไรบ้างในช่วงที่ปล่อยเพลงขอโทษออกมาแล้วมีผลตอบรับที่ดีมาก
เหมี่ยว : จริงๆ เพลงขอโทษมี MV
ยักษ์ : ต้องย้อนกลับไปนิดนึงเราเริ่มต้นจากการคุยกันว่าความสำเร็จของวงเราคืออะไร เราต้องการทำเพลงแค่หาพวกที่มีความรู้สึกร่วมกับเพลงเรา รู้สึกมีเหตุการณ์ร่วมกับเพลงเรา แค่มีคอมเมนต์มาในใต้เพลงว่าเขารู้สึกอย่างไรเราก็รู้สึกดีแล้ว เรามานั่งอ่านคอมเมนต์ ที่แบบว่าเฮ้ย!! พี่นี่มันชีวิตผมเลยว่ะ เราก็ฟินแล้ว ซึ่งยอดวิวก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราหัวใจพองโตขึ้นมาได้เยอะมาก เรารู้สึกว่ามันมีคนชอบเพลงเราเยอะขนาดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรายืนหยัดในการที่เราจะต้องทำเพลงออกมาเรื่อย ๆ เรื่องยอดวิวเราวางไว้ในสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้แต่สิ่งที่เราสามารถคาดเดาได้ก็คือทำเพลงดี ๆ ออกมาในแบบที่เราชอบเรื่อย ๆ ให้ทุกคนได้ฟังกัน
เหมี่ยว : พี่จำได้ไหมว่าทำไมเราถึงทำ MV กัน เพราะคะนองปากไง ว่าถ้าครบล้านวิวแล้วจะทำ MV ทีนี้ครบล้านวิวก็เลยต้องไปทำ MV
ยักษ์ : เรื่องอินไซด์เลย คือว่าเราเคยมี MV อีกตัวนึงออกมาซึ่งกำกับโดยแบงค์แคลชซึ่งดูไม่รู้เรื่องเลย เพลงขอโทษก่อนที่จะมาเป็น MV ที่อยู่ใน YouTube คือพี่แบงค์ไม่มีใน YouTube ไม่ให้ใครดู
เหมี่ยว : พี่แบงค์เขาเสนอตัวเขาคงอยากจะทำงาน จริงจังมากคือใช้คำว่าออกกองได้เลยสิ่งเดียวที่ได้จากวันนั้นคือภาพเพลงขอโทษที่เรานั่งกัน 3 คนเป็นภาพขาวดำ ที่ได้จากวันนั้น ใน Lyrics พอเราถ่ายกันเสร็จขอถ่ายรูปวงรูปนึงได้ไหม เราก็ถ่ายรูปวงนั่นแหละที่เอามาทำปกรายละเอียดแค่นั้นเลยที่เหลือไม่ได้ใช้อะไรสักอย่างหลังจากซิงเกิลแรกขอโทษที่ปล่อยออกมาและก็ในเพลงล่าสุดภาพดีดีแล้วก็มีเพลงไหนออกมาบ้างครับทั้งหมดกี่เพลง
โอม : เดี๋ยวผมเลี้ยงให้ครับตอนนี้มี 1.ขอโทษ 2.จำได้ไหมเราเคยรักกัน 3.เพลงรักครั้งเก่าที่พี่เหมี่ยวแต่ง 4.ถ้ามันจะเป็นแบบนี้ 5. ภาพดีดี และ 6. กำลังจะได้ฟังต่อจากเพลงนี้แต่มีแล้วแน่นอน
อยากให้เล่าถึงที่มาที่ไปของซิงเกิ้ลล่าสุดคือภาพดี ๆ หน่อยครับ
ยักษ์ : เพลงภาพดี ๆ เพลงนี้เขียนไว้ตั้งแต่หลายปีแล้ว จริง ๆ แล้วมันคือเหตุการณ์เดียว แทบจะเป็นคนคนเดียวกับเพลงขอโทษเลย แต่ว่าเรากำลังเล่าในโมเมนต์ที่พอคนที่ต้องการจะไปจากเรา คือเขาบอกลาเรียบร้อยแล้วครับ จะมีเหตุการณ์หนึ่งคือเราอาจจะต้องเสียน้ำตากับเหตุการณ์นี้ อาจจะต้องเจ็บปวดกับการที่คนคนหนึ่งจะไป แต่หลาย ๆ ครั้งกับคำพูดว่าไม่ต้องเสียใจหรอกอย่าร้องไห้เลย ไม่เป็นไรนะ เรากลับรู้สึกว่ามันห้ามกันไม่ได้หรอก ข้อนึงคือตอนนี้เราอยู่คนละโลกแล้วโลกของเขาคือกำลังจะไปมีความสุขแล้ว โลกของเขาคือไม่ได้รักเราแล้ว แต่โลกของเราคือเป็นโลกที่เรายังรักเขาอยู่ แต่เขากลับบอกเลิกเรา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะห้ามเราไม่ให้เสียใจ ห้ามเราไม่ให้ร้องไห้ เราก็เลยหยิบยกช่วงเวลานั้นมาเขียนเป็นเพลงนี้และกำลังจะบอกว่าไม่ต้องบอกเราอย่างนี้ดีกว่า ว่าให้เรายิ้มกับเหตุการณ์นี้และดีใจกับเหตุการณ์นี้มันเป็นไปไม่ได้และปล่อยให้น้ำตามันเยียวยาเราแล้ว เดี๋ยวเราจะดีขึ้นได้ด้วยตนเอง โดยคุณไปใช้ชีวิตคุณได้เลย
อยากให้พูดถึง feedback ของเพลงภาพดี ๆ หลังจากที่ปล่อยออกไปแล้ว
โอม : จริงๆ ยอดวิวถ้าพูดตรง ๆ มันยังไม่ค่อยเยอะครับแต่ผมก็ดีใจเวลาที่มีคนมาคอมเม้นว่าหายไปซะนานเลย มีคนชอบ เวลาที่เขามาคอมเม้นเขามาอินไปกับตัวเพลงสำหรับผมถือว่าโอเค
ในเพลงนี้ได้มีการแชร์ให้กับแฟนคลับที่ติดตามเราให้เขาฟังก่อนที่ปล่อยจริง ๆ มั้ย
เหมี่ยว : ไม่มีใครได้ฟังเลยเป็นจังหวะที่อยู่ดี ๆ วงก็เกิดขยันขึ้นมาทำ 2 เพลง 3 เพลงติดกัน
เพื่อนและคนรอบข้างของพี่ ๆ ได้ฟังกันไหมครับ
โอม : ผมให้นักเรียนฟัง ให้เพื่อนฟัง ถ้าเป็นนักเรียนเป็นลูกศิษย์จะชอบเพลงนี้สุดในฐานะที่เขาเป็นวัยรุ่น เพราะดนตรีมันกระแทกกระทั้นหน่อยเขาชอบกันและเพื่อนๆ ก็ชอบบอกว่าเพลงนี้ดีแปลกดี การร้อยเรียงถ้อยคำ ก็แปลกดีเมโลดี้ก็ต่ำแล้วไปสูงมันแปลกในความรู้สึกของคนที่เขาฟังและ feedback มา
เหมี่ยว : ผมให้พี่คนนึงฟังและแฟนฟังพูดเหมือนกันว่าฟังแล้วมีกลิ่นของ Silly Fools
ยักษ์ : ไม่ได้ให้สมาชิกในวงแคลชฟังเลยครับ ปกติไม่ได้ให้ฟังเพราะว่า…ข้อแรกเลยถ้าพูดตรงๆคือถ้าบอกให้ฟังเพลงให้หน่อยเรารู้สึกทำหน้าไม่ถูกเวลาให้ฟัง แต่มันจะฟังหรือเปล่าไม่รู้ไม่เคยถามเหมือนกันหลังจากที่ปล่อย lyric Video ไปแล้วมีแผนที่จะปล่อย MV เลยไหมครับและคิดว่าพลอดเรื่องจะเป็นประมาณไหน
ยักษ์ : เรายังไม่ได้แพลนเรื่อง MV ไว้เพราะว่าถ้าเราจะทำ MV หมายถึง ว่าเราจะต้องลงทุนเองเสมอ เรามีความอยากที่จะทำ MV ที่มันดีมาก ๆ คงต้องใช้เงินหลักแสนซึ่งในภาวการณ์ตอนนี้หาเงินแสนสนุกมากครับ ไม่รู้จะหาจากไหนเหมือนกัน เรื่องวางแผนคงรอให้เรามีตังค์ก่อน
ในการกำกับ MV อาจจะเอาพี่แบงค์มามีโอกาสไหมครับ
ยักษ์ : ถ้าเกิดบอกมันแป๊บเดียวมันทำให้แน่นอนพี่แบงค์เขาชอบครับ
อยากให้พี่ ๆ นิยามคำว่าภาพดี ๆ ในสไตล์ของ Troop Tower ให้ฟังหน่อยครับว่าเป็นอย่างไร
เหมี่ยว: ภาพที่ดีของ Troop Tower น่าจะเป็นภาพวันที่มีคนหนึ่งถือ EP ของเราอยู่ ซึ่งอีกไม่นานนี้แหละครับ
โอม : ผมชอบภาพเวลาทำงานด้วยกันนะเวลาอยู่ในห้องอัด ไม่รู้นะอันนี้คือส่วนตัวผมเป็นคนชอบเอากล้องไปถ่ายเล่น แล้วเวลาทุกครั้งที่รู้ตัวว่ากำลังจะขับรถไปห้องอัดผมก็จะรู้สึกว่าเดี๋ยวจะได้ฟังมันแล้วอะไรประมาณนี้ ได้แค่ไหนฟังตอนเขาเบ้าท์มาเป็นโครง ผมก็เอาไปใส่รถฟัง ผมจะชอบภาพตอนที่ทำงานกันอยู่ในห้องอัดผมรู้สึกว่ามันสนุกดีได้กินเบียร์ด้วย
ยักษ์ : ส่วนผมมันคงเป็นภาพที่อาจจะเป็นในอนาคตที่เราอยากให้มันเกิดขึ้น คือ เราอยากมีมินิคอนเสิร์ตที่เป็นมีตติ้งสักครั้งหนึ่งและเป็นภาพที่เรากับคนที่ชอบเพลงเราจริง ๆ ที่เป็นแฟนกับเราจริง ๆ มานั่งคุยกัน มานั่งฟังเพลงกันมาอารมณ์ร่วมกับเพลงไปด้วยกันและได้ร้องเพลงด้วยกันอันนี้เป็นภาพดีๆที่เราหวังไว้ว่าจะเกิดขึ้น
ถ้าไม่ตั้งชื่อเพลงว่าภาพดี ๆ พี่ ๆ อยากตั้งชื่อเพลงนี้ว่าอะไร?
เหมี่ยว : เป็นเพลงที่มีชื่อเข้ามาเยอะมากยกตัวอย่าง “แล้วจะให้ทำอย่างไร”
ยักษ์ : เอาแบบว่าถ้าอยากให้เป็นโดยที่ไม่ต้องสนมาร์เก็ตติ้งเลย
เหมี่ยว : ตอนนั้นผมคิดคำว่า “กูไม่เป็นไร”
โอม : โอมเสนอชื่อภาพดี ๆ นี่แหละ ผมชอบคำนี้เพราะรู้สึกว่ามันเรียกง่ายดี เฮ้ย เปิดเพลงภาพดี ๆ ให้หน่อยอะไรแบบนี้ ผมรู้สึกว่ามันเรียกง่าย เรียกชื่อเพลงง่าย ง่ายต่อการขอและในเพลงนี้มัน ก็เหมือนที่พี่ยักษ์บอกผู้หญิงขอให้เราไม่ต้องร้อง ไม่ต้องอะไร ผู้หญิงอยากเห็นภาพดีๆก็เลยรู้สึกว่าคำนี้มันน่าจะแทนเพลงภาพดีดี ได้ดีที่สุดแล้ว ตอนที่เสนอพี่ ๆ เขาไป ในเพลงมันก็มีประโยคนี้อยู่มันก็เลยมีความรู้สึกว่าชื่อนี้น่าจะเหมาะ พี่ยักษ์เคยเสนอชื่ออะไรนะที่ได้เกี่ยวกับเพลงเลย
ยักษ์ : จำไม่ได้แล้ว
โอม : ไม่เป็นไรฉันโอเคอะไรสักอย่างประมาณนี้
สุดท้ายนี้อยากให้พี่ ๆ ฝากผลงานเพลงภาพดี ๆ หน่อยครับ
ยักษ์ : ก็ฝากเพลงภาพดีดีด้วยครับเพลงนี้เราเขียนออกมาจากโมเมนต์ที่เรารู้สึกเจ็บปวดที่สุดแล้วก็เราอยากให้ทุก ๆ คนที่อาจจะเคยมีประสบการณ์เดียวกันถ้าเกิดรู้สึกอย่างไรฝาก คอมเม้นท์มาด้วยนะครับ เรารักในการอ่านคอมเมนต์ของทุกคนมาก แล้วต่อจากนี้ก็ฝากต่อไปด้วยว่าเราจะรวบรวมทุกเพลงเป็น EP เหมือนทำหนังสือเล่มหนึ่งแล้วก็มาอ่านหนังสือที่เป็นเรื่องเศร้าด้วยกันและอยากให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมไปด้วยกัน ก็เฝ้าฟังกันต่อว่าเราจะเล่าเรื่อง เรียบเรียงเรื่องพวกนี้มันยังไงก็ฝากไว้ด้วยครับสำหรับเพลงภาพดีดีแล้วก็ EP ที่เรากำลังจะมีเกิดขึ้นครับ
เหมี่ยว : เพลงของ Troop Tower ไม่น่าจะใช่เพลงที่ตลาดจ๋าขนาดที่จะฟังรอบแรกแล้วจำได้เลยผมอยากให้ลองฟังแล้วก็กลับมาฟังอีก กลับมาฟังอีก มันน่าจะเพราะขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนที่พวกเรารู้สึกกับเพลงนี้ครับ
โอม : ผมก็ฝากเพลงภาพดีดี ผมรู้สึกฟังแล้วผมชอบฟังเพลงที่ความหมาย ผมว่ามันเข้าใจไม่ยากและฝากเพลงอื่นๆด้วยที่ไม่ใช่เพลงขอโทษ Troop Tower มีเพลงมาเพลงนี้เป็นเพลงที่ 5 ก็ฝากเพลงอื่น ๆ ด้วย อยากให้ฟังเพลงอื่นๆ กันด้วยเพราะว่าแต่ละเพลงมันก็จะมีสไตล์และคาแรกเตอร์ของมันแล้วมันก็มีความอ่อนเยาว์ของเราในวัยนั้นด้วยเพราะตอนนั้นมันก็หลายปีมาแล้วที่เราทำ อยากให้ไปลองฟังกันนะครับ
วันนี้ขอบคุณพี่ๆ Troop Tower ทุกคนมากครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส