เว็บไซต์ The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า ‘The Conjuring: The Devil Made Me Do It’ ได้เปิดตัวขึ้นอันดับที่ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ในการเข้าฉายสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (4 – 6 มิถุนายน 2021) ด้วยรายได้ 24 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 749 ล้านบาท จากทุนสร้าง 39 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,220 ล้านบาท
นั่นส่งผลทำให้ ‘A Quiet Place Part II’ ที่เปิดตัวอันดับที่ 1 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ตกไปอยู่อันดับที่ 2 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำรายได้ไป 19.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 609 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมทั่วโลกในตอนนี้นั้นอยู่ที่ 138.6 ล้านเหรยญ หรือประมาณ 4,325 ล้านบาท
‘The Conjuring’ เป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างผลกำไรให้กับสตูดิโออย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ‘The Conjuring’ ภาคแรกเข้าฉายในปี 2013 โดยทำรายได้รวมทั่วโลกไป 319 ล้านหรียญ หรือประมาณ 9,950 บาท จากทุนสร้าง 20 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 620 ล้านบาท
สำหรับ The Conjuring 2 ก็ทำรายได้รวมทั่วโลกไป 321 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 10,020 ล้านบาท จากทุนสร้าง 40 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,250 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภาพยนตร์ภาคแยกอย่างไตรภาค Annabelle, The Nun และ The Curse of La Llorona ก็ทำรายได้ในระดับน่าพึงพอใจเช่นกัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่า ‘The Conjuring: The Devil Made Me Do It’ จะทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกน้อยกว่า ‘The Conjuring 2’ เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เช่นสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และการที่ภาพยนตร์เปิดฉายพร้อมกับบนแพลตฟอร์มสตรีมมิง HBO Max แต่โดยรวมแล้วภาพยนตร์ยังคงได้รับคำชม และมีความเป็นไปได้ที่จะทำรายได้รวมทั่วโลกในระดับน่าประทับใจเช่นกัน
สำหรับภาพยนตร์สยองขวัญที่จะเข้าฉายต่อไปนั้นก็ยังมีทั้ง The Forever Purge, Escape Room: Tournament of Champions และ Candyman ซึ่งต้องแข่งขันกับภาพยนตร์ระดับบล็ฮกบัสเตอร์ที่จะเปิด ไ่ว่าจะเป็น F9, The Heights, Black Widow และ The Suicide Squad อีกด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส