เว็บไซต์ Variety ได้สัมภาษณ์ ชาร์ลีซ เทรัน (Charlize Theron) นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ที่กำลังมีผลงานล่าสุดในการกลับมารับบท Cipher วายร้ายไซเบอร์ใน ‘F9’ ซึ่งภาคล่าสุดในแฟรนไชส์ ‘Fast & Furious’
ทั้งนี้เธอได้กล่าวถึงผลงานต่อไปว่า ภาคต่อของ ‘The Old Guard’ ของ Netflix ได้รับการเขียนบทเสร็จแล้ว และยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า วิน ดีเซล (Vin Diesel) ได้ขอให้ทีมเขียนบทพัฒนาโปรเจกต์ภาคแยกของตัวละคร Cipher ด้วย
อย่างไรก็ดีเทรันนั้นมิได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ภาคฉายเดี่ยวของ Cipher แต่อย่างใด
ตัวละคร Cipher นั้น ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกใน ‘The Fate of the Furious’ เมื่อปี 2017 โดยเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่เฉลียวฉลาดและวางแผนอย่างแยบยลที่สุดคนหนึ่งในแฟรนไชส์นี้ ซึ่งภายหลังจากที่เธอหลบหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิดในตอนท้ายของ ‘The Fate of the Furious’ แล้วนั้น เธอก็ได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งใน ‘F9: The Fast Saga’ ในปี 2021 นี้ เพื่อแก้แค้น Dominic Toretto (รับบทโดย วิน ดีเซล) และครอบครัวของเขาให้ได้ โดยความช่วยเหลือของ Jakob (รับบทโดย จอห์น ซีนา) มือสังหารระดับพระกาฬที่เป็นน้องชายของ Dom เอง
ด้วยฝีมือการแสดงของเทรันนั้น ได้ทำให้ตัวละคร Cipher ดูมีชีวิตชีวา และโหดเหี้ยมได้อย่างลุ่มลึก จนแฟน ๆ ที่ติดตามแฟรนไชส์ยกให้เธอเป็นสุดยอดตัวร้ายของแฟรนไชส์นี้ และการที่จะสร้างภาคแยกของ Cipher ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘F9: The Fast Saga’ ได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ ไปถึง 70 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,250 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถิติเปิดตัวสูงสุดนับตั้งแต่ ‘Star Wars: The Rise of Skywalker’ เมื่อเดือนธันวาคม 2019 เป็นต้นมา ก่อนจะเกิดวิกฤติ COVID-19 จนทำให้โรงภาพยนตร์ปิดให้บริการมาจนถึงเมื่อต้นปี 2021 ที่เริ่มมีการเปิดให้บริการโรงภาพนตร์บางส่วนในสหรัฐฯ
ในขณะนี้ (2 กรกฎาคม 2021) ภาพยนตร์ภาคที่ 9 ของแฟรนไชส์นี้ก็ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วถึง 423.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 13,605 ล้านบาท
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส