ไก่ชนไม่ได้มีไว้ตีเอามัน แต่สร้างมูลค่าได้เดือนนึงนับสิบล้าน! พาไปถึงส.มีสุวรรณฟาร์ม ไก่ชนระดับ 50 ล้าน ที่กวาดรางวัลมาจนชั้นวางไม่พอ เพราะไก่ม้าล่อ ส.มีสุวรรณนี่แหละของจริง!
‘พิษณุ หลักกรด’ หรือที่คนรู้จักกันในชื่อ ‘เสี่ยเบิร์ด ส.มีสุวรรณ’ เจ้าของฟาร์มไก่ชนราคาตี 50 ล้านบาท สูงที่สุดในโลก ผู้หลงรักไก่ชนมาตั้งแต่สมัยประถม เริ่มปั่นจักรยานเป็นก็ปั่นไปหาซื้อไก่มาเลี้ยงแล้ว ไก่ชนเป็นกีฬาถูกต้องตามกฎหมายเหมือนกับมวย เป็นกีฬาของชาวรากหญ้าและเป็นกีฬาของคนไทย ซึ่งเราพบเห็นได้ทุกพื้นที่ในต่างจังหวัด เห็นได้ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร หนุ่มโรงงาน ไปจนถึงนักการเมืองท้องถิ่น เมื่อมีกลุ่มคนสนใจกีฬาไก่ชนเป็นจำนวนมาก จึงเกิดการรวมตัวและส่งเสริมให้เปิดสนาม ตามมาด้วยการผลิตไก่ชนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ สร้างอาชีพและรายได้แก่ชาวบ้านอีกทางเลือกหนึ่ง และเป็นการยกระดับวงการไก่ชนบ้านเราให้มีมูลค่าสูงนับสิบ ๆ ล้าน
ธุรกิจเริ่มต้นที่ใจแต่ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
การเลี้ยงไก่ชนเริ่มต้นด้วยความรัก ถ้ามีใจรักอะไรก็ง่ายไปหมด แต่ถ้าคุณไม่มีใจตั้งแต่แรกและไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องไก่อีก คุณก็จะท้อและล้มเลิกไปเอง ลงทุนอะไรไปก็เจ๊ง แต่สำหรับผมไก่ชนคือส่วนหนึ่งของชีวิต มันคือสายเลือดของผมไปแล้ว!
“ผมทำธุรกิจสีขาว ผมทำไก่ออกไปตี พอตีชนะก็เอาไก่มาผลิตขายลูกเจี๊ยบ มันคือธุรกิจสีขาวล้วน ๆ” เสี่ยเบิร์ดเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจเลี้ยงและผลิตไก่ชนที่สร้างมูลค่านับสิบล้านต่อเดือน โดยเริ่มต้นมาจากสมัยอายุ 20 ปี เสี่ยเบิร์ดไปพบกับพี่ ‘ไฉน ดอนเมือง’ ราชาไก่ชนเบอร์หนึ่งของประเทศไทยในสมัยนั้นและเป็นคนถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงไก่ชนแก่เขา “พี่ไฉนเป็นคนสอนเรื่องไก่ชนแก่ผม เลี้ยงไก่ต้องทำอย่างไร ตีไก่ต้องรู้อะไรบ้าง พอตีชนะมูลค่าของไก่ก็เพิ่มมากขึ้น จากหลักพันเป็นหลักหมื่น จากหลักหมื่นก็ขึ้นสู่หลักแสน ทำให้คนเลี้ยงอย่างเราเริ่มมีกำลังใจมากขึ้น จำนวนไก่ก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจึงเกิดเป็นธุรกิจเลี้ยงและผลิตไก่ชนขาย”
เสี่ยเบิร์ดเล่าว่าเริ่มจากการซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ชนมาเพาะ พอโตก็เอาออกไปตี ถ้าชนะก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น คนก็จะเชื่อมั่นและมาขอซื้อลูกไก่จากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ตัวนั้น ๆ เขาใช้เวลากว่า 15 ปี ในการก่อร่างสร้างธุรกิจไก่ชนของตัวเองขึ้นมาในชื่อ ‘ส.มีสุวรรณ’ “ในช่วง 5 ปีแรกเป็นช่วงล้มลุกคลุกคลานอยู่กับเรื่องสายพันธุ์เพื่อหาสายพันธุ์ที่แข็งแรงที่สุด ผมหมดเงินไปมากกว่า 5 ล้านในการซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ คุณเลี้ยงไก่ 10 ตัวอาจจะถึงสนามแค่ 2-3 ตัว ส่วนตัวอื่น ๆ อาจจะตาเจ็บ ก้อยหัก เดือยโค่นหรือป่วยตาย จนเหลือตัวที่แข็๋งแรงที่สุดถึงได้ออกไปชน ไก่ชนถึงมีราคาสูง”
ทุกวันนี้ธุรกิจขายไก่ชนของเสี่ยเบิร์ดสร้างมูลค่าให้กับครอบครับเดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยขายลูกไก่จากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้วันละ 300,000 บาท (ช่วงก่อนโควิดจะมาขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 – 7 แสน) ตกเดือนละประมาณ 7 ล้านบาท และขายไก่หนุ่มไก่สาวได้อีกอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน ทำให้รู้ว่าไก่ชนสายพันธุ์ ‘ส.มีสุวรรณ’ ที่เสี่ยเบิร์ดเพาะด้วยตัวเองนั้นไปได้
ชนหลักล้าน
เสี่ยเบิร์ดแนะนำไก่ชนที่สร้างมูลค่าหลายสิบล้านให้กับเขา เริ่มต้นที่ ‘แดงหล่อ’ เคยได้คู่ชนราคา 50 ล้านบาท ตัวที่สองคือ ‘เยียร์สุวรรณ’ ชนะเดิมพัน 16.5 ล้านบาท ทั้งสองตัวเป็นไก่พันธุ์พม่าม้าล่อ และเป็นลูกเกิดที่เสี่ยเบิร์ดเพาะพันธุ์ขึ้นมาเอง
“สมัยเด็กผมมีความฝันว่าในชีวิตหนึ่งขอสักครั้งที่ได้ไก่ชนหลักแสน แต่วันนี้มันไปไกลเกินกว่านั้น ผมได้ชนหลักล้าน หลักสิบล้าน ไปจนถึงห้าสิบล้าน ซึ่งการชนระดับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่เป็นการสร้างสีสันและเพิ่มมูลค่าให้กับวงการไก่ชนบ้านเรา รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้ลูกเหล่าเราด้วยว่า ไก่ชนของ ส.มีสุวรรณสามารถชนระดับ 50 ล้านบาทได้จริง” เสี่ยเบิร์ดไม่ได้พูดให้เชื่อแต่ทำให้เห็น เพราะราคาชนระดับ 50 ล้านบาท ยังไม่มีไก่ชนตัวไหนหรือประเทศไหนทำลายสถิตินี้ลงได้ เรื่องนี้จึงโด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่ในประเทศอื่นก็ยังไม่มีไก่ชนตัวไหนชนระดับเดียวกับ ‘แดงหล่อ’
การชนไก่ระดับหลักล้านหรือหลายสิบล้านเป็นการชนระหว่างซุ้มใหญ่มาเจอกัน ‘ส.มีสุวรรณ’ คือยอดไก่พม่า ในขณะที่อีกฝั่งคือยอดไก่ไทย ต่างฝ่ายต่างวางเดิมพันคนละ 25 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้มาจากการรวบรวมของแฟนคลับแต่ละซุ้มในภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคอีสานที่นิยมกีฬาไก่ชนเป็นจำนวนมาก เสี่ยเบิร์ดเล่าว่า “แค่ภาคอีสานก็ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาทแล้ว บางคนลงหลักพัน บางคนหลักหมื่นไปจนถึงแสนก็มี ใครชนะก็ได้เงิินกองนี้ไป”
ทุกวันนี้ ไก่ชน ส.มีสุวรรณเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของวงการไก่ชนบ้านเรา ถึงแม้เสี่ยเบิร์ดจะไม่ได้ออกตัวว่าตัวเองเป็นเบอร์หนึ่งให้คนอื่นในวงการเป็นผู้ตัดสิน แต่สิ่งที่ไก่ชนมอบให้ ส.มีสุวรรณ์คือ ‘เพื่อน’ ที่มาจากวงการไก่ชนบ้าง เกษตรกรบ้าง ที่สำคัญคือเงินทองกลับมาเลี้ยงครอบครัว เสี่ยเบิร์ดเน้นย้ำว่าไก่ชนไม่ได้เป็นเพียงอาชีพเสริม แต่เป็นธุรกิจหมุนเวียน “ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน คนขายข้าวเปลือกก็ได้ คนสานสุ่มไก่ก็ได้ คนขายยารักษาไก่ก็ได้ คนทำอุปกรณ์ไก่ชนก็ได้ มันเป็นคำที่ว่า ‘เราเลี้ยงไก่ ไก่เลี้ยงเรา’ ทุกวันนี้ถ้าผมไม่มีไก่ชนผมก็ไม่รู้จะไปทำอะไร..ไก่ชนให้อะไรกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ”
อ่าน ‘Exofood Thailand’ แล็บแมลงที่ตั้งสมมติฐานให้ ‘แมลง’ แทนค่า ‘อาหารแห่งอนาคต’
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส