ไก่ชนไม่ได้มีไว้ตีเอามัน แต่สร้างมูลค่าได้เดือนนึงนับสิบล้าน! พาไปถึงส.มีสุวรรณฟาร์ม ไก่ชนระดับ 50 ล้าน ที่กวาดรางวัลมาจนชั้นวางไม่พอ เพราะไก่ม้าล่อ ส.มีสุวรรณนี่แหละของจริง!

https://www.youtube.com/watch?v=0Itp4r-pehI

‘พิษณุ หลักกรด’ หรือที่คนรู้จักกันในชื่อ ‘เสี่ยเบิร์ด ส.มีสุวรรณ’ เจ้าของฟาร์มไก่ชนราคาตี 50 ล้านบาท สูงที่สุดในโลก ผู้หลงรักไก่ชนมาตั้งแต่สมัยประถม เริ่มปั่นจักรยานเป็นก็ปั่นไปหาซื้อไก่มาเลี้ยงแล้ว ไก่ชนเป็นกีฬาถูกต้องตามกฎหมายเหมือนกับมวย เป็นกีฬาของชาวรากหญ้าและเป็นกีฬาของคนไทย ซึ่งเราพบเห็นได้ทุกพื้นที่ในต่างจังหวัด เห็นได้ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร หนุ่มโรงงาน ไปจนถึงนักการเมืองท้องถิ่น เมื่อมีกลุ่มคนสนใจกีฬาไก่ชนเป็นจำนวนมาก จึงเกิดการรวมตัวและส่งเสริมให้เปิดสนาม ตามมาด้วยการผลิตไก่ชนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ สร้างอาชีพและรายได้แก่ชาวบ้านอีกทางเลือกหนึ่ง และเป็นการยกระดับวงการไก่ชนบ้านเราให้มีมูลค่าสูงนับสิบ ๆ ล้าน

ธุรกิจเริ่มต้นที่ใจแต่ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

การเลี้ยงไก่ชนเริ่มต้นด้วยความรัก ถ้ามีใจรักอะไรก็ง่ายไปหมด แต่ถ้าคุณไม่มีใจตั้งแต่แรกและไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องไก่อีก คุณก็จะท้อและล้มเลิกไปเอง ลงทุนอะไรไปก็เจ๊ง แต่สำหรับผมไก่ชนคือส่วนหนึ่งของชีวิต มันคือสายเลือดของผมไปแล้ว!

“ผมทำธุรกิจสีขาว ผมทำไก่ออกไปตี พอตีชนะก็เอาไก่มาผลิตขายลูกเจี๊ยบ มันคือธุรกิจสีขาวล้วน ๆ” เสี่ยเบิร์ดเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจเลี้ยงและผลิตไก่ชนที่สร้างมูลค่านับสิบล้านต่อเดือน โดยเริ่มต้นมาจากสมัยอายุ 20 ปี เสี่ยเบิร์ดไปพบกับพี่ ‘ไฉน ดอนเมือง’ ราชาไก่ชนเบอร์หนึ่งของประเทศไทยในสมัยนั้นและเป็นคนถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงไก่ชนแก่เขา “พี่ไฉนเป็นคนสอนเรื่องไก่ชนแก่ผม เลี้ยงไก่ต้องทำอย่างไร ตีไก่ต้องรู้อะไรบ้าง พอตีชนะมูลค่าของไก่ก็เพิ่มมากขึ้น จากหลักพันเป็นหลักหมื่น จากหลักหมื่นก็ขึ้นสู่หลักแสน ทำให้คนเลี้ยงอย่างเราเริ่มมีกำลังใจมากขึ้น จำนวนไก่ก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจึงเกิดเป็นธุรกิจเลี้ยงและผลิตไก่ชนขาย”

เสี่ยเบิร์ดเล่าว่าเริ่มจากการซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ชนมาเพาะ พอโตก็เอาออกไปตี ถ้าชนะก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น คนก็จะเชื่อมั่นและมาขอซื้อลูกไก่จากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ตัวนั้น ๆ เขาใช้เวลากว่า 15 ปี ในการก่อร่างสร้างธุรกิจไก่ชนของตัวเองขึ้นมาในชื่อ ‘ส.มีสุวรรณ’ “ในช่วง 5 ปีแรกเป็นช่วงล้มลุกคลุกคลานอยู่กับเรื่องสายพันธุ์เพื่อหาสายพันธุ์ที่แข็งแรงที่สุด ผมหมดเงินไปมากกว่า 5 ล้านในการซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ คุณเลี้ยงไก่ 10 ตัวอาจจะถึงสนามแค่ 2-3 ตัว ส่วนตัวอื่น ๆ อาจจะตาเจ็บ ก้อยหัก เดือยโค่นหรือป่วยตาย จนเหลือตัวที่แข็๋งแรงที่สุดถึงได้ออกไปชน ไก่ชนถึงมีราคาสูง”

ทุกวันนี้ธุรกิจขายไก่ชนของเสี่ยเบิร์ดสร้างมูลค่าให้กับครอบครับเดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยขายลูกไก่จากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้วันละ 300,000 บาท (ช่วงก่อนโควิดจะมาขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 – 7 แสน) ตกเดือนละประมาณ 7 ล้านบาท และขายไก่หนุ่มไก่สาวได้อีกอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน ทำให้รู้ว่าไก่ชนสายพันธุ์ ‘ส.มีสุวรรณ’ ที่เสี่ยเบิร์ดเพาะด้วยตัวเองนั้นไปได้

ชนหลักล้าน

เสี่ยเบิร์ดแนะนำไก่ชนที่สร้างมูลค่าหลายสิบล้านให้กับเขา เริ่มต้นที่ ‘แดงหล่อ’ เคยได้คู่ชนราคา 50 ล้านบาท ตัวที่สองคือ ‘เยียร์สุวรรณ’ ชนะเดิมพัน 16.5 ล้านบาท ทั้งสองตัวเป็นไก่พันธุ์พม่าม้าล่อ และเป็นลูกเกิดที่เสี่ยเบิร์ดเพาะพันธุ์ขึ้นมาเอง

‘แดงหล่อ’ ไก่ชนราคาตี 50 ล้านบาท

“สมัยเด็กผมมีความฝันว่าในชีวิตหนึ่งขอสักครั้งที่ได้ไก่ชนหลักแสน แต่วันนี้มันไปไกลเกินกว่านั้น ผมได้ชนหลักล้าน หลักสิบล้าน ไปจนถึงห้าสิบล้าน ซึ่งการชนระดับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่เป็นการสร้างสีสันและเพิ่มมูลค่าให้กับวงการไก่ชนบ้านเรา รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้ลูกเหล่าเราด้วยว่า ไก่ชนของ ส.มีสุวรรณสามารถชนระดับ 50 ล้านบาทได้จริง” เสี่ยเบิร์ดไม่ได้พูดให้เชื่อแต่ทำให้เห็น เพราะราคาชนระดับ 50 ล้านบาท ยังไม่มีไก่ชนตัวไหนหรือประเทศไหนทำลายสถิตินี้ลงได้ เรื่องนี้จึงโด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่ในประเทศอื่นก็ยังไม่มีไก่ชนตัวไหนชนระดับเดียวกับ ‘แดงหล่อ’

‘เยียร์สุวรรณ’ ชนะเดิมพัน 16.5 ล้านบาท

การชนไก่ระดับหลักล้านหรือหลายสิบล้านเป็นการชนระหว่างซุ้มใหญ่มาเจอกัน ‘ส.มีสุวรรณ’ คือยอดไก่พม่า ในขณะที่อีกฝั่งคือยอดไก่ไทย ต่างฝ่ายต่างวางเดิมพันคนละ 25 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้มาจากการรวบรวมของแฟนคลับแต่ละซุ้มในภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคอีสานที่นิยมกีฬาไก่ชนเป็นจำนวนมาก เสี่ยเบิร์ดเล่าว่า “แค่ภาคอีสานก็ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาทแล้ว บางคนลงหลักพัน บางคนหลักหมื่นไปจนถึงแสนก็มี ใครชนะก็ได้เงิินกองนี้ไป”

ทุกวันนี้ ไก่ชน ส.มีสุวรรณเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของวงการไก่ชนบ้านเรา ถึงแม้เสี่ยเบิร์ดจะไม่ได้ออกตัวว่าตัวเองเป็นเบอร์หนึ่งให้คนอื่นในวงการเป็นผู้ตัดสิน แต่สิ่งที่ไก่ชนมอบให้ ส.มีสุวรรณ์คือ ‘เพื่อน’ ที่มาจากวงการไก่ชนบ้าง เกษตรกรบ้าง ที่สำคัญคือเงินทองกลับมาเลี้ยงครอบครัว เสี่ยเบิร์ดเน้นย้ำว่าไก่ชนไม่ได้เป็นเพียงอาชีพเสริม แต่เป็นธุรกิจหมุนเวียน “ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน คนขายข้าวเปลือกก็ได้ คนสานสุ่มไก่ก็ได้ คนขายยารักษาไก่ก็ได้ คนทำอุปกรณ์ไก่ชนก็ได้ มันเป็นคำที่ว่า ‘เราเลี้ยงไก่ ไก่เลี้ยงเรา’ ทุกวันนี้ถ้าผมไม่มีไก่ชนผมก็ไม่รู้จะไปทำอะไร..ไก่ชนให้อะไรกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ”

อ่าน ‘Exofood Thailand’ แล็บแมลงที่ตั้งสมมติฐานให้ ‘แมลง’ แทนค่า ‘อาหารแห่งอนาคต’

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส