เว็บไซต์ Deadline ได้รายงานว่า ‘Black Widow’ ทำรายได้จากการฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ไป 100.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท ภายหลังจากการฉายไป 6 วัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่รายได้ถึงหลัก 100 ล้านเหรียญ ได้เร็วสุดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นี้
ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้ โรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยมีภาพยนตร์หลายเรื่องประสบความสำเร็จจากการฉาย ไม่ว่าจะเป็น ‘A Quiet Place Part II’ ที่เปิดตัวอย่างน่าประทับใจในเดือนพฤษภาคม 2021 และ ‘F9: The Fast Saga’ ที่ทำสถิติเปิดตัวสูงสุดในช่วงวิกฤติ COVID-19 นี้ไป 70 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2021 ก่อนที่ ‘Black Widow’ จะทำลายสถิติได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยราไยด้ 80.3 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,600 ล้านบาท
แม้ว่าจะถูกเลื่อนการฉายมาหลายครั้งตั้งแต่ปี 2020 แต่ท้ายที่สุดก็ดูเหมือนว่า ‘Black Widow’ นั้น ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่แฟนๆ MCU (Marvel Cinematic Universe) ให้ความสนใจเช่นเดิม โดยนอกเหนือจากรายได้ในโรงภาพยนตร์แล้วนั้น ก็ยังทำรายได้จากการจำหน่ายบนบริการสตรีมมิง Disney+ ในประเภท Prime Access ไปกว่า 60 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,960 ล้านบาทอีกด้วย
สำหรับสุดสัปดาห์ล่าสุดนี้ (16-19 กรกฎาคม 2021) คาดว่า ‘Black Widow’ จะยังคงทำรายได้เหนือคู่แข่งอย่าง ‘Space Jam: A New Legacy’ และ ‘Escape Room: Tournament of Champions’ ไปได้อย่างสบาย ก่อนที่จะเจอกับคู่แข่งสำคัญอย่าง ‘The Suicide Squad’ ที่จะเข้าฉายในวันที่ 6 สิงหาคม 2021 นี้
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส