เมื่อคืนวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ทาง Disney + Hotstar ได้เชิญ Beartai Buzz ร่วมสัมภาษณ์ เคต เฮอร์รอน (Kate Herron) ผู้กำกับซีรีส์ ‘Loki’ ที่ซีซันแรกเพิ่งจบไปพร้อมกับสื่อชั้นนำทั่วโลกโดยเราได้มีโอกาสถามคำถามเด็ด ๆ ที่หลายคนอยากรู้
บทความเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์ LOKI เหมาะสำหรับผู้ที่ดูซีรีส์แล้วเท่านั้น
ในซีรีส์ ‘Loki’ เราได้เห็นโลกิหลายเวอร์ชันเลย หากคุณมีโอกาสได้ทำซีรีส์สปินออฟ (ซีรีส์ภาคแยก) คุณจะเลือกโลกิเวอร์ชันไหนมาเป็นตัวละครนำ?
ฉันจะทำให้มันเป็นซีรีส์ซิตคอมค่ะ (Sit-Com) ค่ะแต่อาจจะดูประหลาด ๆ หน่อย มีโลกิ 3 เวอร์ชันคือ โลกิขี้โม้ (รับบทโดย ดีโอเบีย โอปาเร- Deobia Oparei) โลกิคลาสสิก (รับบทโดย ริชาร์ด อี แกรนต์ – Richard E. Grant) และโลกิจระเข้ ค่ะพวกเขาคงปั่นป่วนวุ่นวายอยู่ในวังของโลกิแบบโอล์ดสคูลซิตคอมเลยคงสนุกน่าดู (หัวเราะ) ชีวิตแต่ละวันคงถามกันไม่หยุดน่าปวดหัวดีนะคะ (หัวเราะลั่น) อ้อ..ฉันลืมไปต้องมีโลกิเด็กอีกคนด้วยค่ะ (โลกิเด็กรับบทโดย แจ็ก วีล – Jack Veal) เพราะฉะนั้นต้องมี 4 โลกิสุดปั่นป่วนค่ะ (หัวเราะ)
ในตอนสุดท้ายของซีรีส์เป็นการปรากฎตัวของ แคงผู้พิชิต (Kang The Conqueror) แต่ทำไมใน ‘Loki’ ถึงเรียกตัวละครนี้ว่า ฮี ฮู รีเมนส์ (He Who Remains) ล่ะ ?
จริง ๆ แล้ว ฮี ฮู รีเมนส์ เป็นตัวแปรที่แคงสร้างขึ้นค่ะเหมือนที่โลกิมีตัวแปรเป็นหลายเวอร์ชัน ซึ่งแคงในฐานะผู้ร้ายตัวบอสของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเฟสต่อไปก็ย่อมมีตัวแปรเป็นหลายเวอร์ชันเช่นกัน ซึ่งในซีรีส์ก็ได้บอกไว้แล้วว่าในตอนจบพวกเขาได้พบกับฮีฮูรีเมนส์ซึ่งเป็นตัวแปรของแคง แต่ไม่ใช่แคงตัวจริงนะคะ ซึ่งมันน่าสนุกที่คนดูต่างสงสัยว่านี่คือแคงหรือเปล่าฉันเลยคิดว่ามันเป็นการแนะนำตัวละครสำคัญในเอ็มซียูที่เจ๋งดีค่ะ (MCU-Marvel Cinematic Universe จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล)
ในซีรีส์เราเห็นโลกิมีพลังจิต ตกลงโลกิมีพลังที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ? และมันเป็นไอเดียของทีมสร้างหรือของมาร์เวลกันแน่ ?
เป็นการตัดสินใจของทีมสร้างค่ะ ในคอมิกเราจะเห็นว่าโลกิทรงพลังมาก ๆ มันเลยน่าสนุกดีที่เราจะหยิบจับข้อมูลมาใช้ในการนำเสนอพลังของโลกิ อย่างใน ‘Thor : Dark World’ เราเห็นโลกิใช้พลังจิตนะคะแต่มันสั้นมากเป็นฉากที่เขาอยู่ในคุกแล้วทำให้สิ่งของลอยจากพื้นได้และในเมื่อมันถูกนำเสนอใน “MCU” มาแล้วฉันเลยอยากโชว์พลังจิตของโลกิให้มากขึ้นหน่อย ฉันพยายามทวนความจำให้ได้มากที่สุดนะคะ อย่างฉากต่อสู้สุดท้ายโลกิก็ใช้พลังจิตเหมือนกัน สำหรับฉันคือการพยายามให้โลกิได้แสดงพลังเวทย์มนตร์ในซีรีส์ให้ได้มากที่สุดและฉันก็ตื่นเต้นที่เรามีโอกาสได้โชว์พลังของโลกิทั้ง 2 (โลกิกับซิลวี) อย่างเต็มที่ในตอนที่ 3
การร่วมงานกับโซเฟีย ดี มาร์ติโน (Sophia Di Martino) กับ โอเวน วิลสัน (Owen Wilson) เป็นอย่างไรบ้าง ?
ฉันกับโซเฟียเคยร่วมงานกันในหนังสั้นก่อนหน้านี้และแอ็กติงของเธอก็ช่วยเติมเสน่ห์ให้ตัวละครได้มากเลยค่ะ ทั้งถ่ายทอดด้านตลกของตัวละครและยังแสดงความเจ็บปวดออกมาได้ด้วยซึ่งเป็นนิยามของโลกิสำหรับฉัน ซึ่งพอฉันได้ดูงานเก่าของเธอเลยอยากให้โซเฟียมาอ่านบทตัวละครนี้่ดู พอเอาเทปแคสติงไปให้มาร์เวลสตูดิโอทุกคนอึ้งเลยค่ะถามใหญ่เลยว่านี่ใครเนี่ย เธอเจ๋งมากจริง ๆ ทุกคนเลยลงความเห็นมอบบทนี้ให้เธอ สำหรับฉันมันเหมือนโลกกับตาลปัตรไม่น้อยเลยนะคะที่ได้ทำงานซีรีส์สเกลนี้และพอได้เพื่อนที่คุ้นเคยมาร่วมทางและยังเห็นว่าโซเฟียแสดงออกมาได้ดีมากแบบปล่อยให้เธอโชว์ฝีมือให้โลกเห็นเองได้เลย
ส่วนการทำงานกับโอเวน แม้ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนแต่ฉันก็เป็นแฟนผลงานของเขาทั้งในหนังของเวส แอนเดอร์สัน (Wes Anderson ผู้กำกับ’The Grand Budapest Hotel’) รวมถึงงานเขียนบทของเขาสำหรับฉันมันเลยเหมือนเป็นแก๊งที่น่าร่วมงานด้วยมากเลยค่ะอย่างตอนบรีฟบทกันโอเวนเอ่ยปากเองเลยว่าอยากแสดงบทบาทที่แตกต่างจากที่เคยทำมาซึ่งมันน่าตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่เราย้อมผมเขาเป็นสีเทาและไว้หนวดเหมือนโมเบียสในคอมิกและการทำงานกับโอเวนก็สนุกมากเขาสามารถด้นสดไปกับบทบาทเขาได้ดีมาก การได้ร่วมงานกับนักแสดงเบอร์นี้และบรรยากาศการทำงานแบบนี้ฉันคิดว่าฉันโชคดีมากเลยค่ะ
ฉากโปรดของคุณในซีรีส์ ‘Loki’ คือฉากไหน ?
เท่าที่พอจำได้ซึ่งจริง ๆ ก็มีหลายโมเมนต์ที่ฉันประทับใจไม่ลืมเลย มีหลายตัวละครเหลือเกินที่ฉันรักมากทั้งนักล่าบี15 และ ราวอนนา เรนสเลเยอร์ (รับบทโดย กู กู เอมบาธา รอว์ – Gugu Mbatha-Raw) แต่ซีรีส์เราคือ ‘Loki’ ดังนั้นเลยเป็นโลกิทอม (ทอม ฮิดเดิลสตัน – Tom Hiddleston) กับซิลวีอยู่หน้าร้านตัดผมแล้วต่างคนต่างเขินเหมือนวัยรุ่นวุ่นรักแล้วมันงดงามมากตรงที่เธอ(ซิลวี)บอกว่าเธอเองไม่มีเพื่อนเลยและไม่รู้ต้องทำตัวยังไงแล้วเขาก็บอกเธอว่าเขาโตมายังไงแล้วเปลี่ยนไปยังไง แล้้วมันพิเศษตรงที่มันแสดงให้เห็นว่าคาแรกเตอร์ของเขาเปลี่ยนไปจากโลกิที่เราเคยรู้จักจากตอนแรก แม้จะเป็นซีนเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีแอ็กชันตูมตามแต่หากมองในมุมการพัฒนาตัวละครฉันคิดว่าซีนนี้ทรงพลังมาก ๆ และน่าจดจำจริง ๆ ค่ะ
ทำงานกับเควิน ไฟกี (Kevin Feige – ประธานมาร์เวลสตูดิโอ)เป็นอย่างไรบ้างและมีอิสระแค่ไหนในการทำงานกับมาร์เวล ? และคุณคาดหวังอะไรกับ ‘Loki’ ซีซัน 2
มันเป็นการประสานความร่วมมืออย่างแท้จริงค่ะสำหรับการทำงานกับมาร์เวล การทำงานกับอัจฉริยะอย่างเควิน ไฟกี เหมือนเราได้แลกเปลี่ยนความคิดกันร่วมกันหาไอเดียทำงานอย่างสนุกสนานไม่มีความกดดันเลยค่ะ เขาแค่คอยลำดับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปใน “MCU” ให้เราฟังเท่านั้นเอง สำหรับซีซัน 2 (ของ ‘Loki’) ก็น่าจะตอบคำถามได้ว่า โลกิอยู่ที่ไหน ความเป็นมาของนักล่าบี15 (รับบทโดย วุนมี โมสาคู – Wunmi Mosaku) โลกิจะได้เจอกับโมเบียสหรือซิลวีอีกไหม หรือซิลวีอยู่ไหนเพราะเราทิ้งเธอไว้ที่ซิททาเดล หลัก ๆ ก็คือฉันอยากติดตามการเดินทางของตัวละครในเรื่องต่อไปค่ะ เพราะฉันเองตอนเขียนบทก็สนุกมากตั้งแต่เริ่มตอนแรกที่เขาพยายามเอาชนะโมเบียส (ตัวละครของโอเวน วิลสัน-Owen Wilson) พอจบตอน 6 เขากลับต้องการแค่ให้ซิลวีปลอดภัยเท่านั้นเอง ฉันเลยตื่นเต้นทืี่จะเห็นว่าชะตากรรมของพวกเขาจะพาไปทิศทางไหนค่ะ
ทำไมคุณถึงไม่ได้กำกับซีรีส์ในซีซัน 2 และคุณมีอะไรฝากให้ผู้กำกับคนต่อไปไหม ?
เคต : ฉันภูมิใจในผลงานที่เราร่วมเหนื่อยทำกันมานะคะและฉันก็วางแผนที่จะทำงานนี้เพียงแค่ซีซันเดียว ฉันมีแพลนรับงานเขียนบทหนังเรื่องอื่นอยู่ด้วย ฉันบอกได้เพียงแค่ว่าฉันรักมาร์เวลมากและปรารถนาดีกับคนที่จะทำงานกำกับต่อจากฉัน หากจะให้คำแนะนำก็บอกได้แค่ว่าขอให้เต็มที่เลยค่ะ กล้าที่จะเสนออะไรใหม่ ๆ ทำให้แปลกแหวกแนวเข้าไว้ แล้วฉันจะคอยติดตามผลงานต่อไปค่ะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส