Forbes ได้รายงานข้อมูลจาก Universal ระบุว่า ‘F9: The Fast Saga’ หรือ ‘Fast & Furious 9’ ทำรายได้รวมทั่วโลกมากกว่า 700 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 22,700 ล้านบาท ไปแล้ว ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติ COVID-19 เมื่อปี 2020 เป็นต้นมา
รายได้ดังกล่าวของ ‘F9: The Fast Saga’ นั้น ทิ้งห่าง ‘Black Widow’ ของ Marvel Studios ไปเกือบครึ่ง โดย ‘Black Widow’ นั้นทำรายได้รวมทั่วโลกไป 367 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 11,900 ล้านบาท และเสริมด้วยรายได้จากการฉายแบบ Premier Access ผ่านบริการสตรีมมิง Disney+ อีก 125 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท
นี่ถือได้ว่าเป็นสถิติรายได้ล่าสุดที่ ‘F9: The Fast Saga’ ได้ทำขึ้น หลังจากที่เคยทำสถิติรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดไปถึง 70 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท และเป็นหนึ่งภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องในช่วงวิกฤติ COVID-19 นี้ ทำรายได้ทั่วโลกข้ามหลัก 500 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 16,200 ล้านบาทได้
ด้วยรายได้ที่สูงระดับนี้ ก็ส่งผลทำให้แฟรนไชส์ ‘Fast & Furious’ ทำรายได้รวมทั่วโลกไปแล้วถึง 6,590 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 214,240 ล้านบาท
‘F9: The Fast Saga’ เป็นปฐมบทของไตรภาคที่จะปิดเรื่องราวของแฟรนไชส์ ‘Fast & Furious’ โดย ‘Fast & Furious 10’ และ ‘Fast & Furious 11’ จะถ่ายทำแบบต่อเนื่องรวดเดียวจบ โดยมีกำหนดการเริ่มถ่ายทำเดือนมกราคม 2022 นี้ และทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ‘Fast & Furious 10’ อาจเข้าฉายในปี 2024 ก็เป็นได้
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส