จบลงไปแล้วกับ “Last Idol Thailand Presented by True 5G” (ลาสต์ไอดอลไทยแลนด์) ซีซัน 1 ที่ออกอากาศทางช่อง 7 HD กับเทปสุดท้ายที่ผู้ท้าชิงคนที่ 20 ของรายการอย่าง จีจี้ – ศุภิสรา วุฒิศาสตร์ ทำเอาผู้ท้าชิงสมาชิกชั่วคราวทั้ง 7 คนซึ่งประกอบไปด้วย ต้นน้ำ – บัณฑิฏา สันตยารมณ์ , ม่านมุก – ชดาธาร ด่านกุล, มีมี่ – พิมพ์มาดา ตั้งสี , รันม่า – แทนทยา ชิชิดะ, ซีโมน – ปุณณาสา ต้นวิชา, เก๋ – พรรณิภา วงษาชัย และไฮเวย์ – ศิรประภา แสงพันตา
เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกผู้ลงแข่งด้วยผู้ท้าชิงคนที่ 20 จีจี้ – ศุภิสรา ไม่ลังเลที่จะเลือก มีมี่ – พิมพ์มาดา โดยน้อง จีจี้ – ศุภิสรา ให้เหตุผลที่เลือกท้าชิง มีมี่-พิมพ์มาดา เพราะว่าตำแหน่งของสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 นั้นได้อยู่ใกล้กับเซ็นเตอร์ นั่นเท่ากับว่ามีมี่เป็นสมาชิกชั่วคราวที่ลงสนามสูงสุดคือ 4 ครั้งจากนั้นก็ถึงคิวที่ จีจี้ – ศุภิสรา โชว์คาริสม่าของเธอด้วยเพลงย้อนวันวานอย่าง “รักอยู่หนใด”แนวเพลงน่ารักสบาย ๆ ชวนให้กรรมการทั้ง 4 คนได้แก่ โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม , มด – ณปภัช, รัฐ แทททู คัลเลอร์ และ หนึ่ง อีทีซี อดโยกตามเธอไม่ได้
ด้าน มีมี่ – พิมพ์มาดา เลือกร้องเพลงช้าอย่าง “ฝนตกไหม” ของ ทรี แมน ดาวน์ และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่คณะกรรมการทั้งหมดก็ต้องลุ้นเช่นเคยว่าใครจะจับได้ลูกบอลหมายเลข 3 ตามที่รายการกำหนดให้ทำหน้าที่ตัดสิน ปรากฏว่าหวยออกที่ โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม ซึ่งเธอได้เลือกให้ มีมี่ – พิมพ์มาดา เป็นผู้ชนะในแมทช์สุดท้ายของซีซันที่ 1 ทำเอามีมี่ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ
ทั้งนี้หลังจากจบการแข่งขันแล้ว มีมี่ – พิมพ์มาดา เผยกับทีมงานว่า “ตอนที่เห็น จีจี้ เข้ามารู้สึกว่าคล้ายเรามาก ๆ แล้วก็แอบสังหรณ์ใจว่าจะถูกเลือก เพราะมีมี่เป็นผู้ท้าชิงคนแรกที่ลงแข่ง เราเองอาจเป็นคนสุดท้ายที่ลงสนามปิดซีซันก็ได้ ไม่คิดว่าลางสังหรณ์จะแม่นแบบนี้ ก็ดีใจมาก ๆ ที่ได้อยู่ต่อกับทุกคน และได้เป็นสมาชิกตัวจริงของ ลาสต์ ไอดอล และจะได้เดบิวต์ด้วย ไม่คิดว่าฝันจะเป็นจริงได้ค่ะ ก็ขอบคุณกรรมการ พี่โบ ที่เลือกหนู และขอบใจจีจี้ที่ทำให้พี่ได้โชว์ปิดด้วย”
ด้าน จีจี้ – ศุภิสรา กล่าวว่า “ตอนแรกก็อยากเปลี่ยนใจไม่อยากเลือกตำแหน่งที่ 3 แต่จุดนั้นใกล้เซ็นเตอร์และค่อนไปทางข้างหน้า ก็เลยตัดสินใจเดินหน้าท้ามีมี่ค่ะ เอาตรง ๆ หนูตามดูมีมี่จนเชียร์เขาไปแล้ว เขาพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่รู้จะไปท้าใครอยู่ดี หนูเองก็เตรียมตัวมาหนักมาก แต่ถึงไม่ได้ไปต่อหนูก็ดีใจแล้ว เพราะอย่างน้อยมีกรรมการคนหนึ่งเลือกหนูก็พอใจแล้ว ซึ่งก็มีพี่หนึ่ง อีทีซี ที่เลือกหนู และพี่โบ ไทรอั๊มพ์ คิงดอม ก็ชมการแสดงของหนูด้วย แค่นี้ก็ดีใจมากค่ะ”
โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม เผยว่า “ตัดสินใจยากมาก เชื่อว่ากรรมการทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน จีจี้ทำได้ดีมาก ไม่มีที่ติดเลย แต่แววตามีมี่สู้ตายมาก จนโบชอบแพ้ในความสู้ของเขา รู้ว่าทั้่งคู่เตรียมมาดี โบอยากให้มีมี่ไปต่อ แต่เชื่อว่าจีจี้ต้องมีที่สำหรับวงการไอดอลแน่นอนค่ะ”
หลังจากที่ผ่านการแข่งขันที่เข้มข้น ต่อเนื่องมาถึง 20 แมทช์ ในที่สุดก็ได้ 7 สาวที่สร้างตำนานด้วยการเดบิวต์เป็น “สมาชิกลาสต์ไอดอล” วงแรกของประเทศไทย ได้แก่ สมาชิกหมายเลข 1 หรือ เซ็นเตอร์อย่าง ต้นน้ำ – บัณฑิฏา สันตยารมณ์ , สมาชิกหมายเลข 2 ม่านมุก – ชดาธาร ด่านกุล, สมาชิกหมายเลข 3 มีมี่ – พิมพ์มาดา ตั้งสี , สมาชิกหมายเลข 4 รันม่า – แทนทยา ชิชิดะ, สมาชิกหมายเลข 5 ซีโมน – ปุณณาสา ต้นวิชา, สมาชิกหมายเลข 6 เก๋ – พรรณิภา วงษาชัย และสมาชิกหมายเลข 7 ไฮเวย์ – ศิรประภา แสงพันตา ทำเอาทั้ง 7 สาวหลั่งน้ำตาแห่งความสำเร็จออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ก่อนจะปิดท้ายความสำเร็จด้วยการโชว์เพลง “Bandwagon” เวอร์ชั่นเต็มเป็นครั้งแรก พร้อมเดบิวต์เพลง “Last AI,Yoroshiku” (ลาสต์ไอ,โยโรชิคุ) ด้วย แต่ละสาวร้องเต้นกันอย่างเต็มที่ เหมือนต้องการส่งความสำเร็จไปถึงแฟน ๆ ของพวกเธอ จากนั้นพวกเธอก็เจอเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง เพราะมีข้อความแสดงความยินดีจาก ยาซูชิอากิโมโตะโปรดิวเซอร์ลาสต์ไอดอลเจแปน และ 3 สาว ลาสต์ ไอดอล เจแปน อาเบะนานามิ,ยาสุดะไอริ และ ซูซูกิฮารูกะ ส่งมาให้กำลังใจพวกเธอ
ปิดท้ายด้วยประกาศสำคัญภารกิจแรกที่พวกเธอได้รับคือ สมาชิกทั้ง 7 คนจะได้ร่วมแสดงภาพยนตร์กับผู้กำกับมากฝีมือ คงเดช จาตุรันต์รัศมี นอกจากนี้ยังต้องถ่ายทำมิวสิกวีดีโอเพลง “Bandwagon” กับสุดยอดผู้กำกับมิวสิควีดีโอ ปิง – เกรียงไกร วชิรธรรมพรด้วย สร้างตื่นเต้นให้สาว ๆ ทั้ง 7 คนเป็นอย่างมาก แฟน ๆ เตรียมพบกับผลงานของพวกเธอทั้ง 7 คนได้เร็ว ๆ นี้
ถึงรายการ “ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์” ซีซัน 1 จะรูดม่านปิดฉากลงไปแล้ว แต่แฟน ๆ ยังสามารถร่วมโหวตผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่นชอบที่สุด 5 อันดับตลอดรายการ เพื่อเดบิวต์เป็นยูนิตพิเศษ True 5G Special Unit ง่ายๆ เพียงกด *472* ตามด้วยหมายเลขของผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่อชอบ ตามด้วย # แล้วกดโทรออก หรือโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น True Money Wallet และยังสามารถใช้ทรูพอยท์ร่วมโหวตได้อีกด้วย สามารถโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 64 จนถึงวันที่ 25 ต.ค. 64 เวลา 24.00 น. เท่านั้น
“สมาชิกลาสต์ไอดอล”
ต้นน้ำ-สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 1
ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ (สมญานาม “เพชรยอดมงกุฎ”)
สถิติการแข่งขัน : ถูกท้าชิง 2 ครั้ง
ครั้งแรกผู้ท้าชิงคนที่ 10 เรมี่ – ไอริณ รณเกียรติ ที่มีออร่าเกินต้าน ทั้งหน้าตาและโชว์ ที่ทำเอากรรมการต้องร้องหูยยย แต่ ต้นน้ำ – บัณฑิฏา ก็โชว์ความสามารถสมกับเป็นเพชรยอดมงกุฏ เอาชนะมาได้ด้วยการตัดสินจากกรรมการ “หนูนา หนึ่งธิดา” ที่โชว์ท่าจบด้วยการขยิบตาตกหัวใจกรรมการอย่างหนูนาไปแบบเต็มๆ
ครั้งที่ 2 ถูกท้าชิงโดย ผู้ท้าชิงคนที่ 18 ฟ้า – ชุติกาญจน์ จูศรีพานิชย์ คู่แข่งที่มากเสน่ห์ และต้นน้ำยังคงความเป็นสายซ่า เปิดเวทีด้วยเพลง “จะรักหรือจะร้าย” ของวง “เคลียร์” โชว์ร้องเต้นแบบเต็มที่ไม่ยอมอ่อนข้อ โดยแมทช์นี้ กรรมการ “รัฐ แทททู คัลเลอร์” ที่จับลูกบอลหมายเลข 1 และได้ตัดสินเป็นครั้งแรก ตัดสินให้ต้นน้ำเป็นผู้ชนะ ด้วยโชว์ที่อยู่หมัดแทบไม่มีที่ติ
ม่านมุก–สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 2
ม่านมุก – ชดาธาร ด่านกุล
สถิติการแข่งขัน: ถูกท้าชิงถึง 3 ครั้ง
ครั้งแรกโดนผู้ท้าชิงคนที่ 3 อย่าง ชาชา – ณัฏฐณิชา ลีฬหะวัฒนะอดีตไอดอลโดยโชว์สนุก ๆ อย่างเพลง “ปีกรัก” ของม่านมุกได้ใจกรรมการที่จับลูกบอลได้อย่าง “สอง พาราด็อกซ์” จนทำให้เอาชนะชาชาไปได้
ครั้งที่ 2 เจอผู้ท้าชิงคนที่ 6 แนล – แนลริยา วิภาคกิจ อดีตไอดอลจากภาคเหนือเปิดศึกลงสนามชิงความเป็นไอดอลอีกครั้ง ม่านมุกงัดไม้เด็ดโชว์ลีลาอ้อนคณะกรรมการด้วยเพลง “ทาสแมว” กรรมการ “มด – ณปภัช” จับลูกบอลเสี่ยงทายได้หมายเลย 1 ซึ่งตรงกับที่รายการกำหนดไว้ มดเลือกที่จะให้ ม่านมุก ได้ครองตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 2 ต่อไป เพราะถูกใจการแสดงของม่านมุก
ครั้งที่ 3 ผู้ท้าชิงคนที่ 19 พิม – สโรชา สิทธิผลสาวน้อยวัย 20 ปีที่มาพร้อมกับความสูง 171 ซม. และรอยยิ้มอันแสนอ่อนหวาน แน่นอนว่า ม่านมุก – ชดาธาร เองก็ไม่เคยธรรมดา ร้องเพลง “แสงสุดท้าย “บอดี้สแสลม” ด้วยพลังอันเต็มเปี่ยม ซึ่งแจ็กพ็อตตกอยู่ที่ “มด ณปภัช” อีกครั้ง เธอเลือกให้ม่านมุกชนะในศึกครั้งนี้
มีมี่สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3
มีมี่ – พิมพ์มาดา ตั้งสี
สถิติการแข่งขัน : ในฐานะผู้ท้าชิงคนที่ 1 เอาชนะอดีตสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 อย่างขนมหวาน-ศุจินทรา โพธิ์สม 1 ครั้ง /ในฐานะสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 เอาชนะผู้ท้าชิง 3 ครั้ง มีมี่ ลงสนามแข่งมากที่สุดรวม 4 ครั้ง
ครั้งแรก มีมี่ – พิมพ์มาดา เข้ามาในฐานะผู้ท้าชิงคนที่ 1 แมตช์เปิดสนามเลือกที่จะท้าชนกับอดีตสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 ขนมหวาน – ศุจินทรา โพธิ์สม ซึ่งในวันนั้นมีมี่เลือกร้องเพลง “ลงใจ” ของ “Bowkylion” ด้วยลีลาการร้องที่ดูนิ่ง ๆ แต่ส่งอารมณ์ ในที่สุดสาวเนิร์ดที่แฝงความเซ็กซี่อย่าง มีมี่ – พิมพ์มาดา ก็พิชิตตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 ได้สำเร็จ โดย ติ๊ก เพลย์กราวนด์เทคะแนนให้เธอในแมทช์นั้น
ครั้งที่ 2 มีมี่ – พิมพ์มาดา ป้องกันตำแหน่งในฐานะสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 จากผู้ท้าชิงคนที่ 5 มินนี่ – นิชัญญา สุดประเสริฐ โดยมีมี่ – พิมพ์มาดา สามารถชนะใจกรรมการอย่าง หนึ่ง อีทีซี ด้วยเพลง “อาย” ของ “ สิงโต นำโชค
ครั้งที่ 3 แมทช์นี้พูดได้เต็มปากว่าโชคช่วยสาว มีมี่ – พิมพ์มาดา จริง ๆ เพราะในแมทช์นั้นเธอต้องปะทะกับผู้ท้าชิงคนที่ 13 อย่าง ซัมเมอร์ – ณพิชญา สอนคำมี ที่มีสกิลการร้องเพลงที่กรรมการหลายคนต้องตะลึง ขณะที่ มีมี่ เลือกร้องเพลงสบาย ๆ สไตล์ของเธออย่าง “มีแต่เธอ” ของ “พาราด็อกซ์” เดิมทีกรรมการที่ต้องทำหน้าที่ตัดสินแมทช์นี้คือ ณัฐ วงเคลียร์ แต่ โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม ขอเปลี่ยนลูกบอลเสี่ยงทาย ทำให้หน้าที่ในการตัดสินตกเป็นของ โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม แทน ซึ่งโบถูกใจความสามารถของมีมี่มากกว่า จึงทำให้มีมี่ได้อยู่ในตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 3 ต่อไป งานนี้ถ้าโบไม่ขอเปลี่ยนลูกบอลกับ ณัฐ วงเคลียร์ เขาจะเลือก ซัมเมอร์ – ณพิชญา แทน
รันม่าสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4
รันม่า-แทนทยา ชิชิดะ (สาวเสียงห้าว)
สถิติการแข่งขัน : ในฐานะผู้ท้าชิงคนที่ 4 เอาชนะอดีตสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4อย่างหงษ์หยกควรประดิษฐ์ 1 ครั้ง /ในฐานะสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4 เอาชนะผู้ท้าชิง 2 ครั้งรวมลงสนามแข่ง 3 ครั้ง
ครั้งแรก รันม่า-แทนทยา ลงสนาม “ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์” ในฐานะผู้ท้าชิงคนที่ 4 เธอเลือกแข่งกับสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4 อย่าง หงษ์หยก ควรประดิษฐ์ รันม่าโชว์ในเพลง “คั่นกู” ของ “ไบรท์ – วชิรวิชญ์ ด้วยคาแรกเตอร์ที่แตกต่างทำให้เธอชนะใจกรรมการอย่าง หนึ่ง อีทีซี ได้ และได้เข้ามาเป็นสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4 สำเร็จ
ครั้งที่ 2 รันม่า – แทนทยา ต้องต่อกรกับผู้ท้าชิงคนที่ 7 อย่าง สาวน้อย-พิชญ์สินี อิทธิรัตนะโกมล ซึ่งสาวน้อยเลือกเพลงโชว์พลังเสียงอย่าง “When Will My Life Begin” มาร้อง ขณะที่รันม่าเลือกร้อเพลง “กอดในใจ” ของ “บิวกิ้น” มาร้อง ด้วยคาแร็คเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้กรรมการอย่าง ติ๊ก เพลย์กราวนด์ ตัดสินใจให้รันม่าได้อยู่ในตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 4 ต่อไป งานนี้ชนะใจกรรมการ แต่ขัดใจผู้ชม เธอโดนกระแสวิจารณ์จากผู้ชมโดนเอาไปเปรียบเทียบกับสาวน้อยต่าง ๆ นานา ทำเอาเจ้าตัวถึงกับน้ำตาตกเลยทีเดียว
ครั้งที่ 3 รันม่า – แทนทยา ต้องพบกับผู้ท้าชิงคนที่ 9 มาย – อชิรญา เสนปาน งานนี้เธอเลือกร้องเพลง “สติ๊กเกอร์” ของ “บอดี้สแลม ขณะที่ มาย – อชิรญา โชว์ในเพลง “อยากเป็นคนสำคัญของเธอ โดยกรรมการที่รับหน้าที่ตัดสินในแมตช์นั้นคือ หนูนา – หนึ่งธิดา โสภณ เลือกให้รันม่าชนะ
ซีโมนสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5
ซีโมน – ปุณณาสา ต้นวิชา (สาวน้อยผู้หลงใหลเพลงร็อค)
สถิติการแข่งขัน: ถูกท้าชิงถึง 3 ครั้ง
สาวน้อยเล็กพริกขี้หนูที่ใฝ่ฝันอยากเป็นสาวร็อคสุดเท่ ถึงจะอายุแค่ 14 ปี แต่สามารถรับมือการความกดดันได้เป็นอย่างดี ครั้งแรกปะทะกับผู้ท้าชิงคนที่ 8 ฟ้า – ลักษิกา ธนาสมบูรณ์ ซีโมนตกคะแนนจากกรรมการ ณัฐ เคลียร์ ด้วยเพลง “ไหนว่าจะไม่หลอกกัน”
ครั้งที่ 2 ซีโมน – ปุณณาสา เจอกับอดีตไอดอลสาว อาย – ฐิติรัตน์ ละลี งานนี้เรียกว่าเป็นแมทช์องค์ลงของ ซีโมนมาก ทั้งเสียงร้องและการสื่อสารอารมณ์ในเพลง “นักมายากล” ทำให้สอง พาราด็อกซ์ กรรมการที่รับหน้าที่ในการตัดสินใจชนวันนั้นเลือกให้เธอเป็นฝ่ายชนะ งานนี้ทำเอาแฟนคลับชาวญี่ปุ่นถึงขั้นชื่นชมว่าเธอมีพลังในการร้องเพลงอย่างเหลือล้น
ครั้งที่ 3 สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ต้องเรียกองค์ลงชุดใหญ่อีกครั้ง เมื่อเธอต้องแข่งขันกับอดีตสมาชิกวงไอดอลอย่างผู้ท้าชิงคนที่ 16 เซนเตอร์ – นันทภัค อุนหกาญจน์กิจ ซีโมนเลือกร้องเพลง “บุษบา” ของ “โมเดิร์นด็อก ขณะที่เซนเตอร์ – นันทภัค ร้องเพลง “สายตายาว” งานนี้กรรมการอย่าง สแตมป์ – อภิวัชร์ เทใจให้ซีโมน เพราะนอกจากจะมีนัยน์ตาโตชวนมองแล้ว ยังมีพลังในการร้องเพลงที่เหลือล้นมาก
เก๋–สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 6
เก๋ – พรรณิภา วงษาชัย
สถิติการแข่งขัน: ถูกท้าชิง 2 ครั้ง
ครั้งแรก ถูก ผู้ท้าชิงคนที่ 12 พรีม – ปฐมาภรณ์ ศรีวานิชภูมิขอท้าชิง แมตช์นี้เป็นครั้งแรกที่ เก๋ – พรรณิภา ต้องขึ้นเวทีโชว์ครั้งแรก เก๋ เลือกเพลง “อย่าเสียใจคนเดียว” ของ “เบ็ทเทอร์ เว็ทเทอร์” โดย “แทน ลิปตา” เป็นกรรมการที่จับได้ลูกบอลนำโชคหมายเลข 4 ซึ่งประกายเสน่ห์ของ เก๋ทำให้ แทน ลิปตา เลือกให้เธอได้อยู่ในตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 6 ทั้งยังสร้างสถิติที่สมาชิกชั่วคราวชนะผู้ท้าชิงติดต่อกันได้ถึง 8 ครั้ง
ครั้งที่ 2 ผู้ท้าชิงคนที่ 17 เกรซ โรจน์ชาญชัยกุล สาวน้อยร่างสูงสุดไร้เดียงสาวัย 13 ปี ท้าชิง เก๋ – พรรณิภา โชว์เสียงหวาน ๆ ด้วยเพลง “สบตา” ของ แอนเดรีย สวอเรซ กรรมการที่จับได้ลูกบอลหมายเลข 3 คือ “แสตมป์ – อภิวัชร์” เลือกให้เก๋ เป็นผู้ชนะ แสตมป์ยอมรับว่าการตัดสินครั้งนี้ยาก เพราะทั้งคู่ยังต้องฝึกฝนมากกว่านี้ แต่ที่เลือกเก๋เพราะเห็นความตั้งใจและมั่นใจของเก๋ออกทางแววตา ที่กลบความพลาดไปหมดเลย
ไฮเวย์–ผู้ท้าชิงคนที่ 15
ไฮเวย์ – ศิรประภา แสงพันตาพานิช
สถิติการแข่งขัน : ในฐานะผู้ท้าชิง 1 ครั้ง
สาวน้อยวัย 14 ปี จาก จ.หนองคาย เปิดศึกกับ ก้อย – กมลวรรณ สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 คนใหม่หมาดๆ หลังจากที่ก้อยเพิ่งเข้ามาชิงตำแหน่งจากตาลได้แค่แมทช์เดียวเท่านั้น ไฮเวย์ใช้เพลง “ตายทั้งเป็น” ของ แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ โดย “ติ๊ก เพลย์กราวนด์” ทำหน้าที่เป็นครั้งที่ 4 ติ๊กได้เลือกให้ ไฮเวย์ – ศิรประภา ก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 และจากนั้นก็ไม่ถูกท้าชิงอีก จนได้เดบิวต์เป็นสมาชิก Last Idol ในปัจจุบัน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส