แม้จะคว้าออสการ์จาก ‘Get Out’ สร้างแฟรนไชส์ ‘The Purge’ และ ‘Paranormal Activity’ ไปจนถึงรีบูต ‘Halloween’ จนประสบความสำเร็จและกลายเป็นภาพยนตร์แนว Slasher ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล แต่ Blumhouse Productions บริษัทผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ก็ยังไม่หยุดเติบโตและมองหาความท้าทายใหม่อีกครั้งด้วยโปรเจกต์รีบูตภาพยนตร์สยองขวัญสุดคลาสสิก ‘The Exorcist’
สำหรับรายละเอียดของการรีบูตครั้งนี้ Blumhouse ได้กลับมาร่วมงานกับ เดวิด กอร์ดอน กรีน (David Gordon Green) ที่เคยมีผลงานการกำกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญมาแล้วหลายเรื่องรวมถึงการกำกับ ‘Halloween 2018’ และ ‘Halloween Kills’ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ของโปรเจกต์ เจสัน บลัม (Jason Blum) ผู้ผลิตภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และซีอีโอของ Blumhouse ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CinePOP ว่า
“สิ่งที่ผมอยากทำกับ ‘The Exorcist’ นั้นก็เหมือนกับที่ทำกับ ‘Halloween’ ที่ภาคแรกออกมายอดเยี่ยม ภาค 2 งั้น ๆ ส่วนภาคต่อ ๆ มานั้นค่อนข้างแย่ จนกระทั่งเราเข้ามาทำให้ภาคใหม่ออกมาดีและผู้คนชอบมัน เพราะฉะนั้นผมจึงหวังว่าพวกเราจะทำแบบเดียวกันกับ ‘The Exorcist’
เราได้ผู้กำกับและมือเขียนบทคนเดิมมาร่วมงานด้วยนั่นคือกรีนและ แดนนี แม็คไบรด์ (Danny McBride) ผมคิดว่าพวกเราจะทำให้การรีบูต ‘The Exorcist’ ครั้งนี้ออกมาสดใหม่ แตกต่าง มีความเชื่อมโยงกับเวอร์ชันแรก แต่มันจะน่ากลัวกว่ามาก” นอกจากนี้บลัมและกรีนไม่ได้วางแผนการสร้างแค่ภาคเดียว แต่พวกเขายังมองไปถึงการสร้างแบบไตรภาคและพล็อตทั้งหมดของภาคอื่น ๆ ก็อยู่ในขั้นตอนการร่างแล้วด้วย
‘The Exorcist’ เวอร์ชันรีบูตได้ เลสลี โอดอม จูเนียร์ (Leslie Odom Jr.) มารับบทพ่อของเด็กที่ถูกสิง และ เอเลน เบอร์สตีน (Ellen Burstyn) กลับมารับบท Chris MacNeil บทเดิมของเธอจากเวอร์ชัน 1973 ขณะที่ ลินดา แบลร์ (Linda Blair) ที่โด่งดังจากบท Regan เด็กสาวที่ถูกสิงในเวอร์ชันแรกนั้นเผยว่าเธอไม่ได้มีส่วนร่วมกับภาครีบูต แต่ข้อตกลงอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ส่วนทาง Morgan Creek Entertainment ผู้ถือลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ ‘The Exorcist’ กล่าวว่าพวกเขาจะเข้ามาร่วมงานกับ Blumhouse Productions เพื่อสร้างภาพยนตร์ 3 เรื่องที่ Universal และ Peacock เลือกเอาไว้ตามข้อตกลง
‘The Exorcist’ จะกลับมาให้เราหลอนกันอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ โดยมีกำหนดเข้าฉายวันที่ 13 ตุลาคม 2023
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส