ช่วงฤดูแจกรางวัลภาพยนตร์ก็เลยมีหนังรางวัลเยอะครับ Carol เป็นหนังที่ได้เข้าชิงลูกโลกทองคำถึง 5 สาขา แต่พลาดหมด แต่ก็ยังได้เข้าชิงออสการ์ถึง 6 สาขา เคต แบลนเช็ตต์ และ รูนีย์ มาร่า 2 ดารานำได้เข้าชิงทั้งคู่ เคต ได้เข้าชิงดารานำ ก็เลยต้องดัน รูนีย์ ไปเข้าชิงดาราสมทบ แต่ก็ดูเป็นเรื่องตลกนะ ที่รูนีย์ มาร่า ปรากฎตัวบนจอถึง 71 นาที นานกว่า เคต อีกแต่ได้เข้าชิงดาราสมทบ

carol-cate-rooneyx750

Carol เป็นหนังเลสเบียนที่ไม่มุ่งประเด็นนี้อย่างโจ๋งครึ่มนักแต่แทรกอยู่ในเรื่องราวดราม่าของครอบครัวของ แครอล ที่มีผลต่อความสัมพันธ์ของเธอกับ เทเรซ , เคต แบลนเช็ตต์ รับบทตัวละครตามชื่อเรื่อง เธอได้รู้จักกับ เทเรซ พนักงานแผนกขายของเล่นในห้างสรรพสินค้าในนิวยอร์ค ทั้งคู่ถูกชะตากันตั้งแต่แรกพบจึงหาโอกาสนัดพบกันต่อมา กลายเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แครอล อยู่ในระหว่างหย่าร้างกับฮาร์จ สามีของเธอและขอดูแลลูกเอง เมื่อฮาร์จล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ของแครอลกับเทเรซ ฮาร์จเลยใช้ประเด็นเรื่องรสนิยมรักร่วมเพศของแครอลมาเป็นข้ออ้างต่อชั้นศาลเพื่อขอเป็นผู้ปกครองลูกสาวแต่เพียงผู้เดียว ทำให้แครอลต้องตัดสินใจจะรักษาสัมพันธ์กับเทเรซไว้หรือจะยุติเพื่อสู้คดี

Carol ดัดแปลงมาจากนิยาย ‘The Price Of Salt” บทประพันธ์ของ แพตทริเซีย ไฮสมิธ นิยายของเธอถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาหลายเรื่องแล้วเช่น The Talented Mr.Ripley (1999) ,The Two Faces of January (2014), The Price Of Salt นี้ แพตทริเซีย เขียนจากประสบการณ์จริงของเธอตอนที่เป็นพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้าและไปสะดุดตาเข้ากับลูกค้าผมบลอนด์คนหนึ่งในปี 1948 และเขียนนิยายเรื่องนี้จบในปี 1951

carol-14-e1447973835387

ทอดด์ เฮย์น เป็นผู้กำกับที่ทำหนังไม่บ่อยนัก แต่ทุกเรื่องของทอดด์ เฮย์น ตั้งแต่ Far From Heaven (2002) จะส่งให้ดารานำของเค้าได้เข้าชิงรางวัลเสมอ Far From Heaven ส่งให้ จูเลียน มัวร์ ได้เข้าชิงออสการ์ดารานำหญิง , Mildred Pierce (2011) ทีวีซีรีส์ ก็ส่งให้ เคต วินสเล็ต ได้ลูกโลกทองคำรางวัลดารานำหญิง และมาถึง Carol ก็ส่งให้ 2 ดารานำของเขาได้เข้าชิงทุกเวที ผลงานของทอดด์ จะเป็นแนวย้อนยุคในยุค 50s เสมอ และจะเน้นเรื่องราวดราม่าในครอบครัว เป็นผลงานเอาใจแฟนเฉพาะกลุ่มที่ชอบดูหนังขายการแสดง ไม่หวังผลทางการตลาดในวงกว้าง งานของทอดด์ จะไปแบบเนิบ ๆ ช้า ๆ แต่พิถีพิถันในเรื่องการสื่อความรู้สึก ภาพจะโคลสอัพสีหน้าตัวละครแบบล้น ๆ หลาย ๆ ซีนก็จะทิ้งภาพให้ดูสีหน้าอาการตัวละครในความเงียบ เรื่องนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ ทอดด์ เฮย์น กำกับ เคต แบลนเช็ตต์ เรื่องแรก I’m Not There หนังชีวประวัติ บ๊อบ ไดแลน ปี 2007 ก็ส่งให้เคต แบลนเช็ตต์ คว้าลูกโลกทองคำดาราสมทบหญิง ครั้งนี้ เคต เลยทำงานได้ค่อนข้างเข้าขากับ ทอดด์ และรู้สึกมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทำให้ฉากร่วมรักระหว่าง แครอลกับ เทเรซ ออกมาดูลื่นไหลและผ่อนคลาย อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ รูนีย์ มาร่า นั้นชื่นชอบ เคต แบลนเช็ตต์ เป็นการส่วนตัวมาตั้งแต่เธออายุ 13 พอได้มารับบทประกบกับ เคต เธอบอกว่าเหมือนฝัน ในกลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่ผมชื่นชม รูนีย์ มาก ไม่ได้สวยจัดจ้านแต่เป็นดาราที่เล่นได้ทุกบทบาทและไม่ติดบุคลิกตัวเองเลย ตอนเล่น The Girl with the Dragon Tattoo (2011) ก็นิ่ง โหด เก็บกด พอมาเป็น เทเรซ ในเรื่องนี้ก็เป็นสาวน้อยไร้จริตจะก้านจริง และเล่นหนังแบบไม่ห่วงตัวจริง ๆ มีฉากเปลือยแทบทุกเรื่อง เรื่องนี้เธอก็โชว์หน้าอกอล่างฉ่าง ในฉากร่วมรักกับ เคต แต่ ป้าเคตยังหวงตัวอยู่นะ ไม่ให้เห็นหรอก

Carol มาในสายรางวัลนะครับ เป็นหนังที่ต้องใช้สมาธิในการดู เพื่อซึมซับสารและความรู้สึกที่สื่อผ่านการแสดงในระดับเยี่ยม ได้จินตนาการตามความรู้สึกของตัวละครที่ตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นเช่นนั้น ดูการปูความรู้สึกพิศวาทที่ค่อย ๆ สะสมไปช้า ๆ ทั้งคู่ต่างรู้สึกแต่ไม่มีใครเอ่ยปาก จนไปปะทุขีดสุดกันในช่วงท้าย ถ้าไม่ชินกับดราม่าอารมณ์ละเมียดแบบนี้ ก็บอกผ่านไปครับ ไม่งั้นหลับเอาได้ง่าย ๆ 114 นาทีครับ

Play video