ในที่สุด ‘No Time To Die’ ก็ได้เข้าฉายรอบพรีวิวในสหรัฐฯ เมื่อคืนพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยทำรายได้ไปถึง 6.3 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 213 ล้านบาท
แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งทำให้โรงภาพยตร์ไม่สามารถเปิดให้บริการได้อย่างเต็มที่ แต่ ‘No Time To Die’ ก็ทำรายได้ไปตัวรอบพรีวิวไปได้อย่างงดงาม ซึ่งเป็นสถิติรอบพรีวิวที่สูงที่สุดในแฟรนไชส์ ‘James Bond’ ทั้ง Spectre (2015), Skyfall (2012) และ Quantum of Solace (2008) ที่ทำไป 5.25 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 180 ล้านบาท, 4.6 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 160 ล้านบาท และ 2.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 80 ล้านบาท ตามลำดับ
ในขณะนี้ ‘No Time To Die’ ทำรายได้ในตลาดต่างประเทศไปแล้วถุึง 121 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4,100 ล้านบาท
แต่ถึงกระนั้น ‘No Time To Die’ ยังคงทำรายได้รอบพรีวิวคืนวันพฤหัสบดีได้น้อยกว่า ‘Black Widow’ และ ‘Venom: Let There Be Carnage’ ที่ทำไป 13.2 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 450 ล้านบาท และ 11.6 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 390 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในโซนอเมริกาเหนือ (สหรัฐฯ และแคนาดา) นั้น คาดว่าจะทำไปได้ถึง 55 – 60 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,900 – 2,000 ล้านเหียญ และรายได้ในต่างประเทศอาจเก็บเพิ่มไปอีก 150 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท จึงทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ‘No Time To Die’ อาจทำรายได้รวมทั่วโลกในสัปดาห์นี้ที่มีการฉายในวงกว้างมากขึ้น ไปได้ถึง 300 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 10,200 ล้านบาท ก็เป็นได้
ข้อมูลอ้างอิง : deadline
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส