นอกจากการเปิดตัวเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรชาวเอเซียเรื่องแรกของมาร์เวลแล้ว ความสำเร็จของ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ในฐานะหัวหอกบนตารางหนังทำเงินที่สหรัฐอเมริกายังส่งผลให้สปอตไลต์ได้ฉายไปยังนักแสดงเอเซียหลายคน แต่นอกจากซื่อมู่ หลิว (Simu Lui) ในบทพระเอกอย่างชาง-ชีแล้ว อีกหนึ่งนักแสดงที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากได้แก่ เหลียงเฉาเหว่ย หรือชื่อที่ฝรั่งรู้จักกันในนาม โทนี เหลียง (Tony Leung) นักแสดงฮ่องกงระดับตำนานที่ขอประเดิมผลงานแรกในฮอลลีวูดกับหนังซูเปอร์ฮีโรมาร์เวลในบทผู้ร้าย Beartai-Buzz ขอพาทุกท่านย้อนเวลาไปทำความรู้จักตัวตนและผลงานของผู้ชายคนนี้
จากเด็กพ่อทิ้งสู่การเป็นนักแสดงดาวรุ่ง
เหลียงเฉาเหว่ยเกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 1962 ในเขตกวงตง ของฮ่องกง เขาไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองและสถานะครอบครัวก็จัดว่ายากจนด้วยซ้ำแต่ที่ถือเป็นความโชคร้ายและความหลังฝังใจที่สุดของเหลียงเฉาเหว่ยคือเรื่องที่พ่อของเขาเดินจากครอบครัวไปตั้งแต่ตัวเองอายุเพียง 8 ปีเท่านั้นทิ้งให้เขากับน้องสาวและแม่ต้องเผชิญความยากลำบากกันเพียงลำพังในช่วงยุค 60s และผลจากการเป็นเด็กพ่อทิ้งก็เริ่มทำให้เขาเป็นคนสันโดษและไร้เพื่อนเพราะไม่มีพ่อเป็นต้นแบบเหมือนเด็กคนอื่น ๆ
แต่ความอ้างว้างของเหลียงเฉาเหว่ยก็ได้รับการเติมเต็มเมื่อได้ชมภาพยนตร์กับแม่และมี อแลง เดอลอง (Alain Delon) นักแสดงชาวฝรั่งเศสเป็๋นเหมือนไอดอลในเรื่องไลฟ์สไตล์และรวมถึงการสูบบุหรี่ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาตลอดมา แต่ความบันเทิงเพียงชั่วคราวก็ยังไม่อาจเปลี่ยนชะตาชีวิตอันแสนแร้นแค้นได้เพราะพออายุ 15 ปีเขาก็ต้องออกจากโรงเรียนเพราะไม่มีเงินเรียนและต้องดั้นด้นปากกัดตีนถีบหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว
เหลียงเฉาเหว่ยยอมทำงานทุกอย่างตั้งแต่เป็นเด็กส่งของให้ร้านของลุงจนกระทั่งได้งานเป็นเซลส์แมนตอนอายุ 16 ปีและโชคชะตาก็เข้าข้างเมื่อหนึ่งในลูกค้าที่เข้ามาซื้อของคือสุดยอดนักแสดงตลกนาม โจวซิงฉือ (Stephen Chow) ที่ชวนเขาให้เข้าสู่วงการแสดงด้วยการแนะนำให้สมัครโรงเรียนการแสดงชั้นนำอย่างทีวีบีหรือ Television Broadcasts Limited (TVB) จนได้บทนำครั้งแรกประกบหลิวเต๋อหัวในทีวีซีรีส์ ‘จอมยุทธอุ้ยเสี่ยวป้อ’ และ ‘ขวัญใจโปลิศ’ ที่ได้เแสดงร่วมกับ จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) นางเอกคู่บุญเป็นครั้งแรก ในปี1984 และจากการสร้างชื่อในบทตลกก็ทำให้เขาได้กลายเป็น 1 ใน 5 เสือทีวีบีร่วมกับ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) หวง เย่อหัว (Felix Wong) เหมียว เฉียวเหว่ย (Michael Miu) และทัง เจิ้นเยี่ย (Kent Tong) โดยได้ฉายาเสือน้อยในบรรดา 5 เสือ
ร่วมงานกับผู้กำกับระดับโลก
หลังจากมีชื่อเสียงในฐานะดาราตลกในจอโทรทัศน์ เหลียงเฉาเหว่ยก็เริ่มมองหาบทที่ท้าทายความสามารถของเขามากขึ้นโดยได้ประเดิมร่วมงานกับ โฮ่วเซียวเซียน (Hou Hsiao-hsien) ผู้กำกับชาวไต้หวันใน ‘A City of Sadness’ หรือชื่อไทย ‘อาดูรแห่งแผ่นดิน’ ในปี1989 และหนังก็ได้รางวัลสิงโตทองคำจากเทศกาลหนังเวนิซอีกด้วย ซึ่งในหนังเรื่องดังกล่าวเหลียงเฉาเหว่ยแสดงเป็นช่างภาพใบ้ที่ใช้ชีวิตในฮ่องกงช่วงผลัดแผ่นดินจากญี่ปุ่นมาเป็นจีนปกครอง และเขายังกลับมาร่วมงานกับโฮ่วเซียวเซียนอีกครั้งกับ ‘Flowers of Shanghai’ ในปี 1998 กับบทคุณหวางเศรษฐีหนุ่มคลั่งรักที่ต้องการให้ตัวเองเป็นแขกเพียงคนเดียวของโสเภณีสาวที่เขาหลงรักในซ่องหรูกลางเซี่ยงไฮ้และส่งให้โฮ่วเซียวเซียนได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำที่เทศกาลหนังเมืองคานส์
ส่วนหนังที่ทำให้ผู้ชมได้รู้จักกับเหลียงเฉาเหว่ยในวงกว้างคงหนีไม่พ้นหนังของผู้กำกับ จอห์น วู (John Woo) ทั้ง ‘Bullet in the Head’ หรือ ‘กอดคอกันไว้อย่าให้ใครเจาะกระโหลก’ ในปี 1990 ในบทหนุ่มที่กลับมาจากสงครามเวียตนามและต้องเผชิญกับการทรยศหักหลังจากเพื่อนรัก และ ‘Hard Boiled’ หรือ ‘ทะลักจุดแตก’ ในปี 1992 ที่เขาได้ร่วมงานกับ โจวเหวินฟะ (Chow Yun-Fat) กับฉากถล่มโรงพยาบาลที่ถ่ายทำนานถึง 40 วันที่ได้สร้างกระแสให้กับหนังแอ็กชันฮ่องกงและทำให้ชื่อของเหลียงเฉาเหว่ยเป็นที่รู้จักในต่างแดนมากขึ้น
แต่เป็น หว่องกาไว (Wong Kar Wai) ต่างหากที่เป็นเหมือนผู้กำกับคู่บุญตัวจริงของเหลียงเฉาเหว่ยจากการร่วมงานกันในภาพยนตร์ถึง 7 เรื่องทั้งร่วมแสดงกับนางเอกคู่บุญอย่างจางม่านอวี้แบบเฉียด ๆ กันใน ‘Days of Being Wild’ ปี 1991 ‘Ashes of Time’ หนังมังกรหยกสุดเหงา ปี 1994 และประกบร่วมจอในบทชู้ทางใจใน ‘In the Mood for Love’ ปี2000 ที่เหลียงเฉาเหว่ยได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์หลังจากส่งให้หว่องกาไวคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลเดียวกันมาแล้วจาก ‘Happy Together’ ปี1997 ที่เหลียงเฉาเหว่ยรับบทเกย์ที่ต้องแยกทางกับคนรักในประเทศอาร์เจนตินา โดยผลงานล่าสุดที่ทั้งคู่่ร่วมงานกันคือ ‘The Grandmaster’ ออกฉายปี 2013
นอกจากนี้เหลียงเฉาเหว่ยยังมีผลงานดังมากมายทั้งประกบกับหลิวเต๋อหัวในหนังแก๊งสเตอร์ระดับตำนานอย่าง ‘Infernal Affair’ หรือ ‘สองคนสองคม’ ของผู้กำกับแอนดรูว์ เลา(Andrew Lau) ในปี 2002 ที่เหลียงเฉาเหว่ยกวาดรางวัลนักแสดงนำชายทั้งฮ่องกงและไต้หวัน แถมฮอลลีวูดยังซื้อไปรีเมกเป็น ‘The Departed’ ฉายปี 2006 จนคว้าออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย และเหลียงเฉาเหว่ยยังได้ร่วมแสดงในหนัง ‘Hero’ ของผู้กำกับจางอวี้โหมว (Zhang Yi-Mou) ในปี 2002 ซึ่งหนังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศหลังได้เข้าฉายที่สหรัฐอเมริกา
ชีวิตส่วนตัว
ด้วยความเป็นคนสันโดษอย่างที่กล่าวไปแล้วทำให้ชีวิตส่วนตัวของเหลียงเฉาเหว่ยไม่ค่อยได้ปรากฎตามหน้าสื่อมากนัก โดยเขาได้คบหากับหลิวเจียหลิง (Carina Lau) นักแสดงที่พบกันตั้งแต่สมัยแสดงทีวีซีรีส์ร่วมกันที่ทีวีบีตั้งแต่ปี1984 โดยมีเรื่องเล่าที่หว่องกาไวได้เปิดเผยว่าในระหว่างถ่ายทำ ‘Days of Being Wild’ ในปี 1990 หลิวเจียหลิงถูกลักพาตัวจนเหลียงเฉาเหว่ยไม่ได้ถ่ายฉากเปิดเรื่องของหนังและแผนที่จะทำหนังออกมาเป็น 2 ภาคก็ถูกพับไปเพราะเหลียงเฉาเหว่ยเป็นห่วงแฟนสาวของเขาจนไม่อาจทำงานได้
และหลังจากคบหากันมาถึง 19 ปีพวกเขาก็แต่งงานกันในวันที่ 21 กรกฎาคม 2008 ที่ประเทศภูฏานตามคำแนะนำของ เฟย์ หว่อง (Faye Wong) นางเอกหนังที่เคยร่วมจอกับเขาใน ‘Chunking Express’ ของผู้กำกับหว่องกาไว โดยปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังใช้ชีวิตร่วมกันโดยไม่มีบุตรเลยสักคน
ก้าวแรกกับฮอลลีวูดใน ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’
หลังจากหนัง ‘Hero’ ออกฉายในสหรัฐอเมริกาชื่อของเหลียงเฉาเหว่ยก็ไม่ได้กลายเป็นชื่อแปลกหูสำหรับฮอลลีวูดอีกแล้ว หลากหลายบทต่างถูกส่งมาให้เหลียงเฉาเหว่ยพิจารณา แต่ด้วยความที่บทคนเอเซียในหนังฮอลลีวูดมักเป็นภาพจำแบบเหมารวมและมักไม่ค่อยมีบทที่เขียนมาเพื่อคนจีนแบบเขาสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากทางมาร์เวลประกาศสร้าง ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ ผู้กำกับอย่าง เดสติน แดเนียล เครตทัน (Destin Daniel Cretton) ก็วาดภาพเหวินหวู่ตัวร้ายของหนังว่าต้องเป็นเหลียงเฉาเหว่ยเท่านั้น ซึ่งทางเหลียงเฉาเหว่ยเองก็ตอบรับเล่นหนังเรื่องนี้แม้จะปฏิเสธบทพ่อในหนังมาตลอดชีวิต ทว่านี่คือบทเหวินหวู่คือบทที่เขาเชื่อมโยงด้วยมากที่สุดเพราะนี่คือพ่อที่ล้มเหลวทุกด้านเหมือนต้นแบบในชีวิตจริงของเขานั่นเอง
แต่แม้จะได้เริ่มปรากฎตัวในหนังฮอลลีวูดอย่างเป็นทางการ เหลียงเฉาเหว่ยก็ยังไม่ทิ้งหนังเอเซียเพราะผลงานต่อไปของเขาคือ ‘Goldfinger’ ที่เนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มบรรษัทแคเรียน (Carrian Group) ที่รุ่งเรืองสุดขีดในยุค 80s ก่อนจะล้มละลายท่ามกลางการฉ้อโกงครั้งมหึมาในประวัติศาสตร์การเงินของฮ่องกง โดยนอกจากจะได้กลับมาร่วมจอกับหลิวเต๋อหัวแล้ว หัวเรือใหญ่ของโปรเจกต์นี้คือ เฟลิกซ์ ชง (Felix Chong) มันสมองของหนังชุด สองคนสองคม ที่จะมารับหน้าที่เขียนบทและกำกับหนังเรื่องนี้
ส่วนใครที่คิดถึงหรือเป็นแฟนคลับเฮียเหลียงเฉาเหว่ยก็ไปพิสูจน์ฝีมือการแสดงก้าวแรกในฮอลลีวูดของเขาได้ใน ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
อ้างอิง อ้างอิง อ้างอิง อ้างอิง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส