พิพิธภัณฑ์หลายแห่งในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จับมือกันหันมาเปิดบัญชี OnlyFans เพื่อเผยแพร่ผลงานศิลปะภาพโป๊เปลือยของเหล่าศิลปิน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการต่อต้านนโยบายเซ็นเซอร์บนโลกโซเชียลมีเดีย
ก่อนหน้านี้พิพิธภัณฑ์ในออสเตรียบางแห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์อัลแบร์ทินาและพิพิธภัณฑ์เลียวโปลด์ กำลังประสบปัญหาบนโลกออนไลน์ หลังผลงานที่พวกเขาที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย ถูกเซนเซอร์เพราะเหตุผลที่ว่าภาพเหล่านั้นเข้าข่ายเป็นเนื้อหาโป๊เปลือย
ในเดือนกรกฎาคม บัญชี TikTok ของพิพิธภัณฑ์อัลแบร์ทินาเคยถูกระงับ และต่อมาก็ถูกบล็อกทันที เพียงเพราะโพสต์ภาพถ่ายหน้าอกของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินและช่างภาพชาวญี่ปุ่น โนบุโยชิ อารากิ (Nobuyoshi Araki)
เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง ย้อนกลับไปในปี 2019 Instagram เคยแจ้งว่าภาพวาดของศิลปินชาวเฟลมิชในตำนานอย่าง ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ (Peter Paul Rubens) เป็นภาพที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน และสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์เลียวโปลด์ พยายามโพสต์วิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโคโลมาน โมเซอร์ (Koloman Moser) เนื่องด้วยโอกาสครบรอบ 20 ปี แต่สุดท้ายก็วิดีโอนั้นก็ถูกปฏิเสธเนื่องจาก Facebook และ Instagram มองว่าเนื้อหาด้านในมีภาพ “ลามกอนาจาร”
คณะกรรมการการท่องเที่ยวของเมืองเวียนนา ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“ศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกบางคน ในหลาย ๆ ที่ผ่านมาผลงานของพวกเขาได้ก้าวข้ามขอบเขตของการยอมรับในด้านศิลปะและสังคม ซึ่งงานศิลปะบางชิ้นของพวกเขาเคยถูกเซ็นเซอร์มาเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว
“และการต่อสู้กับการเซนเซอร์ยังคงโหมกระหน่ำขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการเพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดีย การห้ามเนื้อหาในลักษณะนี้กลับมาเป็นเรื่องอีกครั้ง”
ตัวแทนคณะกรรมการของเมืองยังกล่าวต่อว่า เมืองเวียนนาและสถาบันศิลปะของกรุงเวียนนา ถือเป็นหนึ่งในผู้เสียหายจากความเคร่งครัดจนเกินไป และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องยกเอาผลงานศิลปะโป๊เปลือยทั้งหมดไปไว้ใบน OnlyFans
“OnlyFans เขย่าสื่อสังคมออนไลน์ได้โดย ให้เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้สร้างสรรค์สามารถแบ่งปันเนื้อหาภาพเปลือยและลามกอนาจารได้อย่างอิสระ”
นอกจากนี้ใครที่เป็นสมาชิกในบัญชี OnlyFans จะได้รับบัตรเที่ยวในเมืองเวียนนาฟรี รวมถึงตั๋วฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์เด่น ๆ ที่คณะกรรมการการท่องเที่ยวของเมืองกล่าวว่า จะเป็นที่ที่ทุกคน สามารถเห็นงานศิลปะที่ไม่ผ่านการเซนเซอร์ได้อย่างใกล้ชิด
เครดิตภาพและอ้างอิง:
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส