ฮันโซฮี (Han So Hee) นักแสดงสาววัย 27 ปี แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากบท ‘เมียน้อย’ ในซีรีส์เรื่อง The World of the Married และในปี 2021 ความร้อนแรงของผู้หญิงคนนี้ก็ยิ่งทวีคูณยิ่งขึ้น หลังเธอเข้ามารับบทนำในซีรีส์เรื่อง Nevertheless ที่มาพร้อมประโยคยอดฮิตอย่าง “ไปดูผีเสื้อที่ห้องด้วยกันไหม”
และล่าสุดเธอได้สลัดภาพสาวหวาน และสาวเซ็กซี่ในอดีต เพื่อมารับบทหญิงสาวผู้ต้องการจะแก้แค้นให้กับพ่อที่ถูกคนฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ในเรื่อง ‘My Name’
โซฮีถือเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทต่อการแสดงของตัวเองเป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่งเธอเคยเล่าว่าอาชีพนักแสดง เปรียบเหมือนรักแรกพบ และความฝันที่เป็นจริง
ก่อนจะมาเฉิดฉายในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ โซฮีเคยต้องสู้ชีวิตทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว กว่าจะมีเส้นทางที่สดใสเฉกเช่นทุกวันนี้
บทที่ 1: คนที่อยากเป็นนักแสดงเพราะยาย
โซฮีเกิดและโตที่เมืองอุลซาน พ่อแม่ของเธอหย่ากันตั้งแต่เธออายุ 5 ขวบ โซฮีเปิดเผยว่าเนื่องจากแม่ต้องเอาเวลาไปทำงาน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว คนที่กลายมาเป็นผู้ปกครองของเธอตั้งแต่นั้นก็คือคุณยาย ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่าก็เพราะยายนี่แหละที่ทำให้เธออยากเป็นนักแสดง โซฮีเล่าว่าด้วยการที่ยายของเธอชอบดูโทรทัศน์อย่างมาก มีอยู่วันหนึ่งเธอจึงบอกกับยายว่า สักวันหนึ่งเธอจะเข้าไปอยู่ในนั่นและทำให้ยายภูมิใจให้ได้ ซึ่งนั่นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธออยากมาเป็นนักแสดง
“คุณยายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน” โซฮีพูดถึงคุณยายของตัวเอง
บทที่ 2: คนสู้ชีวิตจากอุลซาน…
ภายหลังเรียนจบโซฮีก็เดินทางไปตามหาฝันที่โซลทันที ซึ่งว่ากันว่าวันที่เธอเดินทางเข้าเมืองหลวง เธอมีเงินติดตัวเพียง 300,000 วอน (8,503 บาท) เท่านั้น แถมยังต้องทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์ย่านกังนัม เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูตัวเอง แต่ถึงกระนั้นต่อมาประตูสู่วงการบันเทิงก็ได้แย้มต้อนรับเธอ หลังเธอได้มีโอกาสไปเป็นนางแบบโฆษณา หรือเอ็มวีต่าง ๆ
ในปี 2018 เธอเคยพูดถึงประสบการณ์สู้ชีวิตในครั้งอดีต ลงบนบล็อคส่วนตัวว่า “ทันทีที่ลืมตาตื่น ฉันไปที่บาร์เพื่อทำงานทันที และฉันก็ทำงานจนพระอาทิตย์ของอีกวันขึ้น ฉันเชื่อว่าวันเหล่านั้นทำให้ฉันเป็นตัวฉันในตอนนี้”
บทที่ 3: คนที่เคยถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีเพียงเพราะ เคยสักและสูบบุหรี่…
เป็นธรรมชาติของการมีชื่อเสียง ที่ต้องโดนขุดคุ้ยเรื่องราวเก่า ๆ ขึ้นมา ก่อนหน้าที่โซฮีจะประสบความสำเร็จเหมือนในทุกวันนี้ เธอเคยถูกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งออกมาตำหนิ เพียงเพราะเธอเคยสักและสูบบุหรี่ โดยตามรายงานของเว็บไซต์บันเทิงเกาหลีใต้ ระบุว่าโซฮีตัดสินใจลบรอยสักทั้งหมดของเธอออกช่วงก่อนที่จะเข้ามาเป็นนักแสดงเต็มตัว ซึ่งหนึ่งในรอยสักเหล่านั้นโซฮีลบ เป็นลายที่เธอสักขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณยายผู้ล่วงลับ
“ฉันเคยมีรอยสักเกี่ยวกับคุณยาย มันเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอจะอยู่กับฉันเสมอ”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ในสังคมเกาหลีใต้ ยังมีคนที่มองว่าผู้หญิงสูบบุหรี่เป็นผู้หญิงไม่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโซฮีก็มองว่า สำหรับเธอสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย หรือเป็นสิ่งที่ผิด มันเป็นเพียงภาพของเด็กสาวที่รักที่จะเป็นตัวของตัวเองเท่านั้น
“ตอนนี้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และในตอนนั้นฉันก็เป็นตัวของตัวเองเหมือนกัน”
บทที่ 4: คนที่ชอบการวาดรูป และรักช็อกโกแลตมิ้นต์
อีกหนึ่งพรวรรค์ของโซฮีนอกจากการแสดง ก็คือการ ‘วาดรูป’ โซฮีเป็นคนที่มักใช้เวลาว่างไปกับการวาดภาพ เธอเป็นคนที่ชื่นชอบในงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยเรียนมัธยมวิชาหลักที่เธอเรียนคือศิลปะ และในวันที่ว่างจากการแสดงเธอมักจะนั่งสร้างสรรค์ผลงานสวย ๆ และนำมาลงอินสตาแกรมเสมอ
ว่ากันว่าคนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่จะไม่ชอบช็อกโกแลตมิ้นต์ แต่สำหรับโซฮีเธอออกมายอมรับว่าตัวเองชื่นชอบช็อกโกแลตที่มีกลิ่นของมิ้นต์มาก ๆ จากการให้สัมภาษณ์กับ Harper’s BAZAAR Korea โซฮีเปิดเผยว่าเธอชอบกินช็อกโกแลตมิ้นต์มาก ๆ และเธอรู้สึกเสียดายแทนคนที่ไม่ชอบมัน เพราะสำหรับเธอสิ่งนี้มันช่างอร่อยเหลือเกิน
บทที่ 5: คนที่ทุ่มสุดตัวเพื่อบทบาทของตัวเอง
โซฮีถือเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทให้กับบทของตัวเองอย่างมาก ย้อนกลับไปตอนที่เธอเล่น The World of the Married เธอฟิตหุ่นและลดน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม เพื่อทำให้ตัวเองมีรูปร่างที่เพียบพร้อมที่สุด และล่าสุดใน My Name มีการเปิดเผยว่าโซฮีลงทุนเพิ่มน้ำหนักขึ้น 10 กิโลกรัม เพื่อมารับบทนี้ ซึ่งตัวเธอเองยอมรับว่ามีช่วงหนึ่งเธอถึงขั้นพกมีดติดตัวเพื่อให้ตัวเองอินกับบทนี้
“ฉันคิดว่าตัวเองสามารถซิทอัพได้ถึง 30 ครั้งต่อการลงไปนั่งครั้งหนึ่ง และหลังจากเล่นซีรีส์เรื่องนี้ ฉันก็ได้พัฒนาร่างกายของตัวเองค่อนข้างมาก ทุกวันนี้ฉันจึงเรียนคิกบ็อกซิ่งด้วยนะ”
ใน My Name บางฉากโซฮีตัดสินใจเล่นฉากแอคชันเองโดยไม่ใช้ตัวแสดงแทน อีกทั้งเธอยังไปลงคอร์สการแสดงแอคชันเป็นเวลากว่า 3 เดือนเต็ม เพื่อหวังจะแสดงในฉากแอคชันให้สมจริงที่สุด และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นบาดเจ็บจากการแสดงของเธออีกด้วย
“มันต้องใช้เวลามาก ฉันจำเป็นต้องออกแบบท่าทางของตัวเองให้ดีในทุกฉาก และฉันกังวลว่าตัวเองจะไปทำร้ายใครเข้า ดังนั้นฉันจึงต้องระมัดระวังตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นอะไรที่ท้าทายมาก”
ปี 2021 ถือเป็นปีของนักแสดงสาวคนนี้อย่างแท้จริง น่าเสียดายที่เธอเพิ่งจะถอนตัวจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อย่าง ‘Gentleman’ เพราะเหตุผลทางด้านสุขภาพ แต่ทั้งนี้ผลงานของเธอในปีที่ผ่านมา ก็เพียงพอที่จะส่งให้เธอได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในนางเอกที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้
เครดิตภาพและอ้างอิง: