ไปดูโดยไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกะหนัง แต่ก็ได้รับความสนุกเกินคาด สมกับที่หนังครองแชมป์อันดับ 1 ในสัปดาห์เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2558 และลาโรงด้วยตัวเลขกว่า 500 ล้านบาท หนังสร้างจากการ์ตูนภาพ หรือ มังงะ ในชื่อเดียวกันผลงานของอาจารย์สึกุมิ โอบะ และ ทาเคชิ โอบาตะ เจ้าของผลงานที่หลายคนรู้จักดีจาก Death Note การ์ตูน Bakuman ต้นฉบับนั้นตีพิมพ์ในช่วงปี 2008 – 2012 ได้รับความนิยมอย่างสูง ขายได้ 15 ล้านเล่ม และอวสานไปในจำนวน 20 เล่ม ส่วนฉบับภาษาไทยนั้นตีพิมพ์ในชื่อ “วัยซนคนการ์ตูน” ลิขสิทธิ์ของ เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์
หนังเล่าเรื่องคู่หู มาชิโระ โมริทากะ กับ ทาคากิ อาคิโตะ นักเรียน ม.4 (ในมังงะเป็นเด็ก ม.3) ตัวเอกคือ โมริทากะ เป็นหลานของนักเขียนมังงะชื่อดังในตำนานเลยมีพรสวรรค์ทางด้านเขียนการ์ตูนติดตัวมา โมริทากะ แอบชอบ อาซึกิ มิโฮะ แล้วแอบสเก็ตซ์ภาพไว้จำนวนมากในหนังสือ จนกระทั่งอาคิโตะมาแอบเห็นว่าโมริทากะ มีฝีมือเขียนการ์ตูนเก่งมาก เลยชักชวนให้มาเขียนมังงะด้วยกันโดยที่ อาคิโตะ จะเป็นคนแต่งเรื่อง ทั้งคู่ตั้งใจทำผลงานไปเสนอกอง บก.โชเน็น จัมป์ หนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ชื่อดังของญี่ปุ่น แต่ก็โดนตีกลับอยู่หลายครั้ง จนได้ตีพิมพ์ในที่สุด แต่ยังไม่พอทั้งคู่ยังต้องแข่งขันกับนักเขียนเรื่องอื่น ๆ เพื่อรักษาความนิยมของตัวเองไว้ไม่ให้โดนตัดจบ สำหรับคนที่ชอบอ่านมังงะ ดูเรื่องนี้แล้วน่าจะอินเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโชเน็น จัมป์ แทบจะเป็นตัวละครหลักอีกตัวของเรื่องนี้ไปเลย หนังลงลึกในเรื่องขั้นตอนการผลิตอย่างละเอียด ตั้งแต่ขั้นตอนการร่างเรื่องราว ไปจนถึงการลงดินสอ ลงหมึก ลงฉากหลัง จนกลายเป็นต้นฉบับ แล้วก็เล่าต่อว่าไปสู่กระบวนการผลิตมังงะได้อย่างไร ได้เห็นขั้นตอนการทำงานระหว่างสำนักพิมพ์กับนักเขียนเป็นอย่างไร อย่างที่เราเคยเห็นนักเขียนการ์ตูนเขียนล้อตัวเองเวลามีคนจากสำนักพิมพ์มานั่งเฝ้าทวงต้นฉบับ ก็ได้เห็นว่ามีตำแหน่งนี้อยู่ในขั้นตอนการผลิตสำคัญจริง ๆ เรียกกันว่า “ผู้ดูแล” และจะเป็นคนที่คลุกคลีอยู่กับนักเขียนจนสนิทกันมาก
Bakuman เป็นหนังฟีลกู๊ดสร้างแรงบันดาลใจที่เล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม จากเด็กคู่หูธรรมดาแต่มีความฝันอยากเป็นนักเขียน หนังใส่อุปสรรคเข้ามามากมายเป็นการท้าทายทั้งคู่ ใส่ตัวละคร นีซึมะ เข้ามาเป็นเด็กมัธยมรุ่นเดียวกันที่ได้เป็นนักเขียนดังในโชเน็น จัมป์ นีซึมะ จึงเป็นทั้งไอดอลของทั้งคู่และกลายมาเป็นคู่แข่งที่ทั้งคู่อยากจะเอาชนะให้ได้ หนังพูดถึงมุกตายตัวในมังงะผู้ชายที่มักชอบพูดถึง “มิตรภาพ การต่อสู้,ชัยชนะ” ซึ่งหนังเองก็หยิบจุดนี้มาใช้เช่นกัน ยามที่ทั้งคู่ลำบากจะส่งต้นฉบับไม่ทัน ก็ได้รับความช่วยเหลือจากนักเขียนคู่แข่งที่กลายมาเป็นเพื่อนรักมาช่วยกันปั่นต้นฉบับจนสำเร็จ ทั้งภาพทั้งดนตรีก็บิลท์กันสุด ๆ จนกลายเป็นฉากที่ยิ้มตามไปกับความสำเร็จของเพื่อนกลุ่มนี้
เพราะเป็นหนังที่สร้างจากมังงะ ตัวละครเลยมีความเป็นตัวการ์ตูนอยู่มาก ทั้ง โมริทากะ และ อาคิโตะ ที่ใส่ความโอเวอร์แอ็คติ้งทั้งท่วงท่าและสีหน้าอย่างมาก ตัว นีซึมะ เป็นตัวละครที่มีความเป็นการ์ตูนมากที่สุดเช่นเดียวกับตัว “แอล” จาก Death Note ที่ผู้เขียนเดียวกันนี้ก็บรรจงใส่บุคลิกเด่น ๆ ลงไปมากมาย พอมาถึงตัวนีซึมะก็เป็นเด็กที่หลังงองุ้มตลอดเวลา ภาพบนจอพยายามจะวางให้นีซึมะ ดูเป็นตัวร้ายของเรื่อง ให้ใส่ชุดดำตลอดเวลา เขียนการ์ตูนก็นั่งอยู่ในห้องมืด ๆ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เห็น นีซึมะ จะมาวุ่นวายหรือขัดขวางงานของทั้งคู่แต่อย่างใดนะ นีซึมะ นี่ได้ โชตะ โชเมทานิ ดาราวัยรุ่นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นขณะนี้มารับบท ผมว่าไม่น่าจะมีใครงานชุกกว่า โชตะ แล้วมั้ง ปี 2013 มีหนัง 10 เรื่อง 2014 อีก 8 เรื่อง 2015 อีก 8 เรื่อง ที่มาฉายบ้านเราก็ “ปรสิต เพื่อนรักเขมือบโลก”
นานะ โคมัตซึ จาก “คานาโกะ นางฟ้าอเวจี” รับบท อาซึกิ นางเอกเรื่องนี้ พลิกบทจากสาวร้ายมาเป็นสาวใสได้น่ารักมาก เธอมีความน่ารักและความเซ็กซี่อยู่ในคนเดียวกันได้อย่างพอดี , ทาเครุ ซาโตะ พระเอกของเรื่องดูเปลี่ยนลุคไปมากจากบท “ซามูไรเคนชิน” อีก 1 หนังที่สร้างจากมังงะ เช่นกัน ส่วนที่รู้สึกขัดใจมากขึ้น คือการที่ไม่ได้เห็นบทพ่อแม่ของ โมริกากะ และ อาคิโตะ ออกมาสักวินาทีเลย แม้จะตอนป่วยเข้าโรงพยาบาล เข้าใจว่าไม่ใช่ส่วนสำคัญและอยากโฟกัสแค่ ตัวละครคู่หูหลัก แต่พอไม่มีเลยมันก็ชวนให้สงสัยนะว่าเด็กมัธยม ทำงานกันขนาดนี้ไม่อยู่ในสายตาพ่อแม่เลยหรือ โนบิตะ,ซึบาสะ ยังมีพ่อมีแม่เลย
หนังยาว 2 ชั่วโมงพอดี สนุก + ดราม่า แถมสอดแทรกงานซีจีแทนภาพในจินตนาการอีกหลายฉาก Bakuman ทำให้คนดูได้เห็นความตั้งใจพิถีพิถันของสำนักพิมพ์ที่สร้างตัวการ์ตูนให้มีชื่อเสียงระดับโลกหลาย ๆ ตัว ดูจบแล้วจะรู้สึกเห็นคุณค่าของมังงะแล้วจะรู้สึกรักมังงะมากขึ้น เชียร์ครับ
https://www.youtube.com/watch?v