‘ระนาด’ และ ‘ขิม’ เป็นเครื่องดนตรีไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ และไม่ได้ถูกนำมาพัฒนาในด้านการออกแบบเท่าไหร่นัก แต่วันนี้ เต-ธีรพล โอเจริญ โปรดักต์ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง ‘Taylor O Studio’ ได้หยิบเอาครื่องดนตรีไทยเก่าแก่ที่ว่า มาแปลงโฉมใหม่ให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทันสมัยมากขึ้น จนออกมาเป็นโปรเจกต์ที่เรียกว่า ‘Re-Thai Campaign’
ซึ่งเตได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวและแรงบันดาลใจในการออกแบบครั้งนี้ว่า
“ในแคมเปญนี้ จะเป็นแคมเปญที่ Taylor O มีความตั้งใจอยากลองหยิบยกของต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีความเป็นไทย คนไทยคุ้นเคย หรือเป็นวัฒนธรรมของไทยมาแต่เก่าก่อน มาลองปัดฝุ่นดูใหม่อีกครั้งด้วยการลอง Re-Design ดู ลอง Experiment ลองปรับ ลองเกลา ลองเล่าเรื่องด้วยภาษาแบบใหม่ ด้วยรูปทรงแบบใหม่ หรือให้ดูแล้วมีความรู้สึกถึงความร่วมสมัยมากขึ้น
“ซึ่งในแต่ละอย่างเราจะเริ่มจากการลองตั้งโจทย์ดูว่า ถ้าสิ่งสิ่งนี้อยู่ในยุคนี้ หน้าตาอาจจะมีการพัฒนา ตัดทอน หรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบไหนได้บ้าง?
“ในชิ้นแรกที่ออกมา เราตั้งใจหยิบ ‘ระนาด’ มาลองเล่าเรื่องด้วยภาษาแบบใหม่ มาเล่าเรื่องในแบบที่ต่างออกไป ซึ่งโดยเราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมอนุรักษ์ ได้เป็นส่วนช่วยหนึ่งที่ทำให้ชื่อของระนาด, ระนาดทุ้ม, ระนาดเอก ยังคงอยู่สืบต่อไปในยุคที่เครื่องดนตรีไทยชนิดนี้กำลังค่อย ๆ เลือนหายไปตามยุคสมัย หรือ กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนสถานะจากการถูกละเล่นเป็นการตั้งวางอยู่บนหิ้งที่เอื้อมไม่ถึงแทนครับ”
หลังประสบความสำเร็จจากผลงาน Re-Design ชิ้นแรก ไม่นานมานี้เตก็ได้ปล่อยผลงานชิ้นที่ 2 ซึ่งเป็นการนำเอาขิมมาดีไซน์ใหม่ พร้อมแฝงไอเดียเรื่องการใส่ฟังก์ชันในภาคอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเข้าไปด้วย
“เราได้หยิบ ‘ขิม’ มาลองทำให้ขนาดเล็กลง บางขึ้น และพกพาได้ง่ายขึ้น รวมทั้งลองทำให้ออกมาอยู่ในรูปแบบของเครื่องดนตรีไฟฟ้าดู โดยอาจเป็นส่วนที่สามารถเพิ่มความหลากหลาย เพิ่มมิติให้กับเครื่องดนตรีชนิดนี้ได้ โดยมีฟังก์ชันเพิ่มเติมที่ลองใส่ลงไปดูเช่น สามารถปรับ volume, บลูทูท, ปรับจูนสายอัตโนมัติ, มีเอฟเฟกต์ reverb, low, high”
ทั้งนี้เตยังเล่าว่า Taylor O Studio กำลังจะมีโปรเจกต์ในลักษณะนี้ปล่อยออกมาให้ชมกันอีกเรื่อย ๆ ซึ่งสำหรับใครที่ชอบผลงานดีไซน์ที่เป็นการนำเอาของเก่ามาเล่าใหม่ เตก็แย้มว่าเขากำลังจะเริ่มหยิบเอาของใช้ทั่วไป อย่างหม้อจิ้มจุ่ม หรือครกมาทำให้ดูทันสมัยขึ้น ซึ่งใครสนใจก็สามารถติดตามผลงานของเขาได้ที่นี่
เครดิตภาพและอ้างอิง:
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส