เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 Beartai Buzz ได้รับเกียรติจากทาง สแล็ป มอนสเตอร์ และ เอ็ม พิคเจอร์ส ร่วมสัมภาษณ์ จิตต์สิน ผ่องอินทรีกุล หรือ โน้ต จูเนียร์ ผู้กำกับภาพยนตร์พร้อมทีมนักแสดง ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง และ น้ำหวาน-รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์ ถึงความน่าสนใจของภาพยนตร์ตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์จนวันออกสู่สายตาผู้ชมชาวไทย
อยากทราบแรงบันดาลใจผู้กำกับในการเล่าเรื่องโดยอาศัยฉากหลังเป็นโลกอนาคต
โน้ต จูเนียร์ : มันเป็นโปรเจกต์ที่ถูกคิดและเขียนขึ้นมาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้วแต่มันยังไม่มีโอกาสได้ทำ แต่พอมาได้คุยกับคุณโจ (ปิยะวัฒน์ ปฐมวาณิชย์ ซีอีโอของสแล๊ป มอนสเตอร์) นายทุนหนังเรื่องนี้ที่ไม่อยากทำหนังแบบตลาดจ๋ามันก็เลยเกิดโปรเจกต์นี้ขึ้นครับ ผมเองก็อยากเพิ่มทางเลือกให้ตลาดหนังไทยมีทางเลือกมากขึ้นซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาแม้จะเคยผ่านงานหนังตลกมาตลอดซึ่งไม่ใช่ทางถนัดแต่ด้วยภาวะตลาดต้องการแบบนั้นก็เลยต้องทำ
และอีกส่วนหนึ่งคือผมอยากเล่าเรื่องสังคมแต่เพียงการแตะเรื่องสังคมตรง ๆ ไม่ได้ข้อจำกัดมันเยอะมาก มันทำไม่ได้จึงอาศัยการสร้างฉากหลังเป็นโลกอนาคตหรือแม้แต่การไม่ได้ระบุประเทศเป็นการเลี่ยงบาลีอย่างหนึ่งให้เราพูดในสิ่งที่เราอยากพูดได้ และอีกพาร์ตนึงคือผมอยากสร้างทางเลือกให้นักแสดงในบ้านเราได้รับบทบาทที่ท้าทายมากขึ้น ให้ทีมงานได้แสดงไอเดียที่ไม่ซ้ำซากจำเจ ให้คนดูได้เสพอะไรใหม่ ๆ บ้างต่อให้เราชอบกินผัดกะเพราแค่ไหนแต่วันนึงเราก็ต้องรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ เราก็เลยอยากเป็นเส้นทางนึงของวงการภาพยนตร์ครับเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียหนัง ‘Dark World’ ของเราครับ
ในตัวอย่างหนังมีพูดเรื่องชนชั้น ผู้กำกับมองเรื่องการเมืองไทยยังไงบ้าง และ ส่งผลต่อบทหนังยังไง
โน้ต จูเนียร์ : ขอพูดเรื่องชนชั้นก่อนนะครับ ไม่ว่าเราจะแตะต้องการเมืองหรือไม่ระบบชั้นชนมันมีอยู่แล้ว แค่องค์กร องค์กรนึงก็มีผู้บริหารก็เป็นเรื่องชนชั้นอยู่แล้วซึ่งสำหรับผมมันไม่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองขนาดนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตีความนะครับเพราะหนังของเราจะมีแมสเซจที่ต้องการส่งผ่านให้คนดูซึ่งสามารถตีความได้ 3 ทาง แล้วแมสเซจที่นำเสนอก็โยงไปได้ถึงทุกทางซึ่งเป็นความท้าทายของผมต่อคนดูนะครับว่าจะเก็บแมสเซจในบทได้หมดหรือเปล่า
แต่ถ้าพูดถึงระบบชนชั้นจริง ๆ แล้วผมแค่รู้สึกว่าชนชั้นปกครองหรือแค่คนจนคนรวยมีความเหลื่อมล้ำอยู่แล้ว แต่ผมอยากให้เอาเรื่องการเอาชีวิตรอดเป็นหลักมากกว่าทั้งการเอาชีวิตรอดจากการทำงาน หรือโรคภัยไข้เจ็บที่เราเจอจากโควิดกันอยู่แล้ว หรือการเอาชีวิตรอดให้ตัวเองสามารถมีกินมีใช้ เรื่องนี้คือประเด็นที่ ‘Dark World’ อยากจะเล่า เพราะ ณ. วันนึงมนุษย์เราจะยังหาวิธีรอดในทางใดทางหนึ่ง คุณเป็นตัวละครตัวไหนล่ะใน ‘Dark World’ อันนี้คือคำถามที่อยากถามกลับไปที่คนดู และมีวิธีการจัดการเรื่องนี้ได้ยังไง
คือไม่อยากให้มันไปการเมืองขนาดนั้นนะแต่ถ้าจะมองให้เป็นการเมืองก็การเมืองแหละ
ดิว อริสรา : เหมือนสิ่งที่พี่โน้ตพูดก็คือคนเราพอใจฝักใฝ่สิ่งไหนก็อยากมองเห็นจุดนั้นแหละ
โน้ต จูเนียร์ : ซึ่งเราใส่แมสเซจไปค่อนข้างเยอะนะ แนะนำให้ดู 2 รอบด้วยสำหรับบางคนลองเก็บแมสเซจดูครับ
อยากให้คุณตูมตาม ยุทธนาได้พูดถึงความท้าทายกับบทบาทในหนัง และจุดที่สนใจในบทหนังจนต้องรับงานแสดงเรื่องนี
ตูมตาม ยุทธนา : จริง ๆ มันอาจเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเห็นในงานอยู่แล้ว ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดงใคร ๆ ก็อยากกระโจนเข้าไปเล่นอยู่แล้ว ทุกอย่างในบทหนังมันดูเต็มร้อยอ่ะครับ มันมีความสุขที่ได้เล่นอะไรไปสุดขนาดนี้ มันสุดที่ได้แสดงความดาร์กสุด ๆ ผ่านงานแสดงในบทบาทที่ได้รับอย่างเต็มที่โดยไม่มีกรอบมากั้นพลังทางการแสดงของเราเลย ผมบอกกับพี่โน้ตวันแรกว่าแค่ได้อ่านบทใจมันก็สั่นแล้วอ่ะ มันมัน มันอยากเล่นมากอะไรแบบเนี้ยอ่ะครับ ก็เลยขอลุยเต็มที่
นอกจากเรื่องชนชั้นที่เราได้ถามไถ่กันแล้ว ผมกลับมองมันว่าเป็นเรื่องของมนุษย์อ่ะครับ มนุษย์เป็นคำกว้าง ๆ ของทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดไม่ว่าดีหรือร้าย เมื่อมีมนุษย์ก็จะมีเรื่องพวกนี้ตามมา ถ้าเราเล่นด้วยความเป็นมนุษย์ แมสเซจก็จะออกมาด้วยเรื่องราว ด้วยนักแสดงร่วม ด้วยบทบาทคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ที่มันมาอยู่ในหนังเรื่องเดียวกันแล้วเนี่ย มันก็เกิดคอนฟลิกต์ ความขัดแย้ง เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวพันกับคำถามที่พี่ถามมาก่อนหน้านี้ด้วยน่ะครับ
สำหรับผมการแสดงมันไม่ใช่แค่การแสดง แต่มันคือการถ่ายทอดความเป็นจริงของความเป็นมนุษย์ออกไปในทิศทางที่บทบาทมันกำหนดออกมา
ในตัวอย่างหนัง คาแรกเตอร์ของผู้หญิงในเรื่องดูไม่ใช่แค่ไม้ประดับ แต่เหมือนคนคุมเกมอยู่กลาย ๆ อยากให้คุณดิวกับคุณน้ำหวาน ลองพูดถึงคาแรกเตอร์ของตัวเองว่าน่าจะต่างจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ยังไง
น้ำหวาน รักษ์ณภัค : น้ำหวานรับบทเป็นรันนะคะ ในเรื่องเราก็จะเป็นผู้หญิงที่ต้องเอาตัวรอดในสังคมโลกอนาคตมืดหม่นแบบนี้ บทบาทของรันคือเป็นนักสู้ จะได้บู๊เยอะหน่อยค่ะ
ดิว อริสรา : สำหรับดิวนะคะ จริง ๆ แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อถึงความเป็นผู้หญิงเยอะจริง ๆ เหตุผลที่รับเล่นเรื่องนี้คือบทเขาดีจริง ๆ หนังให้อะไรเยอะมากเลยอยากให้ไปดูกันค่ะ และเมื่อสักครู่แอบแทรกพี่โน้ตไปคือคนเราจะได้อะไรก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเปิดใจแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนี้เราสนใจเรื่องอะไร ถ้าฝักใฝ่เรื่องการเมืองก็จะได้เรื่องการเมือง ถ้าชอบเรื่องวูเมนพาวเวอร์ (พลังของผู้หญิง) ก็จะได้เรื่องนั้นดังนั้นมันจะตอบโจทย์ที่เราสนใจแน่นอนเพราะหนังเรามีหลายมุมจริง ๆ ค่ะ
ความท้าทายสำคัญของ Dark World คือการเป็นหนังไทย Sci Fi ซึ่งคนดูบางส่วนอาจยังไม่เปิดใจยอมรับเท่าหนังฮอลลีวูด อยากให้ทุกท่านได้ลองให้ความเห็นและกล่าวเชิญชวนผู้ชมมาดูหนังกันในวันนี้
โน้ต จูเนียร์ : จริง ๆ หนังนอกหลายเรื่องมาทำโพสต์ โปรดักชันในประเทศไทยนะครับ รวมถึงซีีจีด้วยในประเทศไทย ถ้าว่าถึงการยอมรับ..ผมขอพูดแบบนี้ได้ไหมว่า ‘Dark World’ มันกำลังไปเดินเล่นอยู่ในเวทีระดับโลก มีหลายเทศกาลหนังที่เขาตอบรับและกำลังเข้าสายประกวดอยู่ ต่างชาติยอมรับนะครับและผมก็อยากให้คนไทยยอมรับด้วย งานโปรดักชันในหนังไซไฟถ้าได้รับการใส่ใจและมีเวลามากพอ ผู้กำกับไทยที่เก่งกว่าผมหลาย ๆ ท่าน สามารถทำได้ครับและอาจทำได้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ ซึ่งจริง ๆ มันอยู่ที่โอกาสที่ได้รับครับ
แต่อยากให้ลองเปิดใจครับ หนังเรื่องนี้เป็นแนวทางนึงให้อนาคตให้ประเทศเรามีซอฟต์ พาวเวอร์ไปแข่งกับประเทศในเอเซียด้วยกัน ถ้าเราไม่สนับสนุนกันเองตั้งแต่ตอนนี้เราคงไม่มีวันที่จะตามเกาหลีทัน ถ้ามันได้รับการสนับสนุนผมเชื่อว่าเราจะไปได้ครับ ขนาดหนังเรื่องนี้ที่เวทีในเกาหลียังได้รับการยอมรับเลย (หนังได้ฉายในเทศกาลหนัง Bucheon International Fantastic Film Festival 2021) แล้วทำไมเราเคยพูดกันว่าเราไปไม่ทันเกาหลีอ่ะ ทำไมเราไม่ช่วยกันผลักดันให้วันนึงเกาหลีเอาที่มองมาที่เราและพูดว่าเขาไม่ทันเราบ้างอ่ะครับ
ผมในฐานะผู้กำกับขอพูดแทนผู้กำกับทุกคนในประเทศนี้ครับว่าเราทุกคนมีความฝันนะ ว่าวันนึงเราจะสู้ตลาดโลกได้ เราไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่มากพอแต่เราอยากได้จากทุกคนด้วยนะ มันไม่ใช่แค่รัฐบาลแต่เราต้องการการสนับสนุนจากคนดูให้นายทุนเห็นว่าควรมาลงทุนให้หนังไทยไปสู่ตลาดโลกได้อย่างแท้จริงเหมือนที่หลาย ๆ เรื่องทำอยู่ครับ
ตูมตาม ยุทธนา : ในมุมของตูมตามนะครับ ผมรู้้สึกว่าอย่านั่งคิดและตั้งคำถามอย่างเดียวครับ มาลองดูแล้วค่อยว่ากันครับ แค่นั้นครับ
โน้ต จูเนียร์ : ใช่ มาพิสูจน์สิ
น้ำหวาน รักษ์ณภัค : เราเป็นคนไทยเราน่าจะช่วยกันสนับสนุนหนังไทยกันนะคะ ‘Dark World’ เป็นหนังแนวใหม่ด้วย ทีมงาน นักแสดงทุกคนตั้งใจกับหนังเรื่องนี้มากจริง ๆ ค่ะ อยากให้ทุกคนได้ดูค่ะ เข้ามาดูความดาร์ก ๆ ของทุก ๆ ตัวละครเชื่อว่าความดาร์กมันมีอยู่ในชีวิตจริงและในสังคมไทยค่ะ อยากให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ
ดิว อริสรา : ก่อนอื่นต้องปรับที่ตัวคนที่เปรียบเทียบก่อนนะคะ ดิวเชื่อว่าการเปรียบเทียบไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น ถูกปะ ก่อนอื่นต้องเลิกดูคนอื่นแล้วเปรียบเทียบก่อนว่าทำไมมันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะว่าดิวเชื่อว่าคนที่ทำหนังและนักแสดงเองทุกคนภูมิใจในผลงานของตัวเองและทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเสน่ห์ของแต่ละที่มันคืออะไร ดังนั้นดิวเลยอยากให้คนที่มาดูลองมองข้ามกรอบต่าง ๆ ที่เคยเห็นแล้วมาเปิดใจยอมรับสิ่งที่เรานำเสนออย่างเต็มที่ ส่วนคำติชมต่าง ๆ และคอมเมนต์ต่าง ๆ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ดังนั้นก็ไม่ขอเปรียบกับใคร เพราะเราเชื่อว่าภาพยนตร์ของเราก็มีเสน่ห์ในแบบของเรา แล้วก็ด้วยฝีมือของพวกเราที่เป็นคนไทยนี่แหละค่ะ
พิสูจน์ความดาร์กของพวกเขาในเกมอำมหิตได้แล้วกับ ‘Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด’ วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส