เพลง Plastic Love ขับร้องและเขียนโดย ‘มาริยะ ทาเคอุจิ’ (Mariya Takeuchi นักร้องชาวญี่ปุ่นจากยุค 80s) ได้ขึ้นชาร์ต 10 อันดับเพลงที่มียอดขายมากที่สุดในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลังจากที่เจ้าตัวและ Warner Music Japan ได้อัปโหลด Music Video ของเพลงที่ถูกอัดเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ขึ้นบน Youtube เพื่อให้แฟนเพลงแนว City Pop ได้รับชมกันเมื่อเดือนที่แล้ว
Plastic Love ถูกอัดเป็นครั้งแรกในปี 1984 และเคยขึ้นชาร์ตเพลงฮิตของญี่ปุ่นในยุค 80s อยู่ที่อันดับ 86 หลังจากที่ถูกปล่อยในเดือนมีนาคม ปี 1985 หลังจากเพลงนี้ถูกลืมมา 30 ปีกว่า ในปี 2017 เพลงฉบับขยายของเธอก็ถูกอัปโหลดขึ้นบนแชนแนล Youtube ที่ชื่อว่า ‘Plastic Love’ (ซึ่งไม่ใช่แชนแนลทางการของทาเคอุจิ) และได้กลายเป็นเพลงที่นิยมอย่างมากบนโลกอินเทอร์เน็ตของช่วงนั้น วิดีโอเพลงนั้นมียอดเข้าชมมากกว่า 24 ล้านครั้ง แต่ก็น่าเสียดายที่ทาง Youtube ได้ถอดเพลงออกเพราะรูปปกของวิดีโอนั้นละเมิดกฎลิขสิทธิ์ของเว็บไซต์ ซึ่งภาพนั้นเป็นรูปปกสำหรับเพลงอื่น ๆ ของทาเคอุจิและถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อว่า ‘อลัน เลเวนสัน’ (Adam Levenson)
เลเวนสันเองก็ได้กล่าวเกี่ยวกับวิดีโอเพลงกับสื่อ Pitchfork ว่า “ผมมองว่า Youtube นั้นเหมือนกับหน่วยงานจัดรูปหน้าปกของวิดีโอนะ ถึงคนส่วนใหญ่จะคิดว่าสาเหตุที่เพลงนี้กลับมาดังได้เป็นเพราะระบบ Algorithm ของเว็บไซต์ แต่ในมุมมองผม มองว่าเป็นเพราะผู้คนที่เห็นรูปปกรู้สึกสงสัยจนทำให้อยากลองคลิกเข้าไปเช็กดูมากกว่า ซึ่งผมคิดว่ารูปนี้เป็นรูปที่ดูดีนะ และแน่นอนผมไม่พูดแบบนั้นกับทุกผลงานที่ผมถ่าย”
อย่างไรก็ตาม รูปภาพนี้ถูกใช้โดยไม่ได้ขออนุญาต ทนายของเลเวนสันจึงสั่งให้เขาแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์บนแชนแนล Plastic Love เพื่อดูว่าจะมีใครสนใจเพลงนี้อยู่ไหม ซึ่งหลังจากที่โดนลบ เลเวนสันก็โดนแฟนเพลงส่งข้อความแง่ลบเป็นจำนวนมากผ่านอีเมลของเขาเอง จนล่าสุดเลเวนสันได้เจรจากับเจ้าของแชนแนล Plastic Love ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับทาเคอุจิหรือค่ายเพลงที่เธอร่วมงานด้วย แต่เนื่องจากเพลงนี้ไม่ได้ทำเงินแล้ว และเลเวนสันก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากด้วย เจ้าตัวจึงบอกให้แปะชื่อของตัวเองเป็นเครดิตสำหรับรูปปกก็พอ
ทั้งนี้ ถึงทาเคอุจิจะไม่ได้มีบทบาทใน Music Video ก็ตาม แต่เจ้าตัวก็ได้แสดงความเห็นกับสื่อ The Japan Times หลังจากที่เพลงของเธอกลายเป็นที่นิยมบนโลกอินเทอร์เน็ต และถูกนำมาสร้างเป็น Music Video ในเดือนที่ผ่านมาว่า
“ฉันไม่เคยคิดที่จะปล่อยผลงานตัวเองให้กับผู้คนในประเทศฝั่งตะวันตกเลย เนื่องจากเป็นเพลงที่ร้องด้วยภาษาญี่ปุ่น พวกเราเลยคิดว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะปล่อยเพลงให้กับประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกัน แต่ความคิดฉันก็เปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นคอมเมนต์ต่าง ๆ บนวิดีโอ เพราะดูเหมือนว่าผู้คนที่ชอบเพลงนี้ไม่สนว่าเพลงจะถูกร้องเป็นภาษาอะไร เพราะยังไงพวกเขาก็ชอบที่จะฟังมันอยู่ดี”
อ้างอิง Kotaku
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส