แอร์พอด (AirPods) นวัตกรรมหูฟังไร้สายจาก Apple เป็นหนึ่งในแกดเจ็ตที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะใช้งานง่าย สะดวก แถมยังดีไซน์เรียบง่ายสบายตาดูมินิมอล แต่เพราะดีไซน์เรียบง่ายของมันนี่เองที่ทำให้ผู้ใช้รายหนึ่งเข้าใจผิด หยิบแอร์พอดมากินแทนยาแก้ปวดซะอย่างนั้น!?
คาร์ลี เบลเมอร์ (Carli Bellmer) หญิงสาววัย 27 ปีกลายเป็นไวรัลบนติ๊กต็อกทันทีเมื่อเธออัดคลิปเปิดเผยว่า ตัวเองเผลอหยิบหูฟังแอร์พอดข้างซ้ายมากินเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นยาแก้ปวดไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
เบลเมอร์บอกกับผู้ติดตาม 3,200 คนว่า “ระหว่างคลานขึ้นเตียงมือข้างหนึ่งของฉันคือเม็ดยา ส่วนอีกข้างคือแอร์พอด และใช่ ฉันเผลอกินแอร์พอดของตัวเองตอนที่พยายามจะกินยาแก้ปวดหัว” หญิงสาวจากบอสตันรายนี้ยอมรับว่าตัวเองเผลอกลืนแอร์พอดลงไปแทนที่จะกินยา พร้อมบอกว่าตัวเองเบื่อที่จะอาเจียนให้มันออกมาจากร่างกายแล้วและเธอกำลังสติแตก
คลิปดังกล่าวมีผู้เข้าชมมากกว่า 2.4 ล้านครั้งบนติ๊กต็อก หลังกลายเป็นไวรัล เบลเมอร์ก็อัปเดตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ติดตามได้รู้เป็นระยะ ๆ ซึ่งเธอได้ยืนยันว่าตัวเองเผลอกลืนแอร์พอดลงไปจริง ๆ เพราะไปเอ็กซ์เรย์มาแล้ว แถมเธอยังอัดคลิปเสียงให้เพื่อนฟังว่าแอร์พอดในท้องส่งเสียงออกมาแบบผิดปกติด้วย
เธออธิบายว่าอยากแบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับคนอื่น เพราะอุบัติเหตุนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอเป็นรายแรกและคงไม่ใช่รายสุดท้าย “เพื่อจุดประสงค์ด้านการศึกษา ฉันอยากแบ่งปันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป” เธอกล่าว
อย่างไรก็ตามแม้หลายคนจะเห็นด้วยกับเธอ แต่ชาวเน็ตบางส่วนก็ยังตั้งข้อสงสัย
ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งถามว่า “คุณสับสนระหว่างไอบูโพรเฟนกับแอร์พอดได้อย่างไร?” ขณะที่อีกคนคิดว่าเธอทำเพื่อเรียกร้องความสนใจและต้องการสร้างชื่อเสียงบนแพลตฟอร์มนี้
แต่ก็มีบางส่วนออกมาปกป้องเบลเมอร์ ผู้ใช้ติ๊กต็อกที่ปกป้องเธอกล่าวว่า “ไอบูโพรเฟน 800 มิลลิกรัมมีขนาดใหญ่ ดังนั้นไม่แปลกหรอกที่มันจะไปคล้ายกับแอร์พอด”
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุดเบลเมอร์ได้มาอัปเดตว่าเธอไปเอ็กซ์เรย์มาและพบว่าแอร์พอดไม่ได้อยู่ในท้องของเธออีกต่อไปแล้ว “ผลเอ็กซ์เรย์บอกว่าฉันผ่านมันไปได้แล้ว แอร์พอดไม่อยู่ในตัวฉันแล้ว แน่ล่ะว่าฉันเคยรู้สึกว่ามันอยู่ในท้องของฉัน แต่ตอนนี้มันไม่อยู่แล้วจ้า” เธอกล่าว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนเผลอกลืนแอร์พอดเพราะความเข้าใจผิด
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แบรด กัวติเยร์ (Brad Gauthier) จากแมสซาชูเซตส์ออกมาเผยว่าตัวเองเผลอกลืนแอร์พอดเข้าไประหว่างนอนหลับจนสะดุ้งตื่นเพราะหายใจลำบาก เขาต้องผ่าตัดส่องกล้องแบบฉุกเฉินเพื่อนำมันออกมาจากหลอดอาหาร
ยังมีอุบัติเหตุคล้าย ๆ กันเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี 2020 เมื่อเด็กชายวัย 7 ขวบจากจอร์เจียต้องถูกนำส่งห้องฉุกเฉินเพราะกลืนแอร์พอดหลังจากคาบมันเอาไว้ในปาก เขาต้องรอจนกว่าเจ้าหูฟังไร้สายจะถูกขับถ่ายออกจากร่างไปเองหลังจากกลืนมันลงท้องไปแล้ว
นอกจากนี้ในปี 2019 ยังมีชายจากไต้หวันเกิดอุบัติเหตุแบบเดียวกัน แต่แอร์พอดของเขายังสามารถใช้งานได้หลังจากเจ้าตัวถ่ายมันออกมาเรียบร้อยแล้ว
ใครใช้งานหูฟังไร้สายหรือแอร์พอดคงต้องเอาใจใส่เรื่องความปลอดภัยขึ้นอีกนิด เพราะอย่างที่เบลเมอร์บอกไว้ เธอไม่ใช่รายแรกและคงไม่ใช่รายสุดท้าย ทางที่ดีควรใช้งานอย่างระมัดระวัง ไม่สวมหูฟังตอนนอนหลับ หลังใช้งานควรเก็บให้เป็นที่เป็นทาง และที่แน่ ๆ คือเก็บให้ห่างจากยาแก้ปวด!
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส