เป็นหนังที่ให้ความสุขได้ตลอด 108 นาทีของการรับชม แม้จะเป็นการ์ตูนดิสนีย์ที่ยาวที่สุด แต่ก็เป็นการอัดแน่นด้วยสาระและบันเทิงอย่างแท้จริง ดูจบแล้วรู้สึกอยากเชียร์ให้มาดูกันครับ
หนังจำลองเมืองสมมติชื่อ Zootopia ในวันที่เหล่าสัตว์วิวัฒนาการมาเดิน 2 เท้าแล้วใช้ชีวิตร่วมกัน จูดี้ ฮอปป์ เป็นกระต่ายสาวที่มีความมุ่งมั่นตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นตำรวจ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากครอบครัวกระต่าย แล้วเธอก็ฝ่าฟันความยากลำบากจนเป็นกระต่ายตัวแรกที่ได้เข้าเป็นตำรวจ แล้วก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้หัวหน้าได้เห็นว่าเธอเป็นตำรวจที่ดีได้ ด้วยการไขคดีใหญ่ของ Zootopia
ประทับใจหลาย ๆ อย่างในเรื่องนี้ครับ
- การสร้างสรรค์เมือง Zootopia ได้ออกมาสวยงามและมีแบบแผน หนังแนะนำให้เรารู้จักเมือง Zootopia ผ่านสายตาของ จูดี้ ฮอปป์ ขณะนั่งรถไฟเข้าเมืองผ่านเขตแดนต่าง ๆ ของ Zootopia ได้เห็นเขตป่าฝน เขตหิมะ เมืองน้ำ และเขตเมือง สัตว์แต่ละจำพวกก็จะได้อยู่ในสภาวะที่ตัวเองคุ้นเคย
- ในเมือง Zootopia ก็ได้เห็นการประยุกต์เทคโนโลยีในโลกเราปัจจุบันให้เข้ากับความเป็นอยู่ของสัตว์ ได้เห็นสัตว์ในเรื่องนี้ใช้ไอโฟน รถสาธารณะก็มี 3 ชั้นสำหรับสัตว์แต่ละขนาด มีโซนในเมืองสำหรับสัตว์ขนาดเล็กอย่างพวกหนู มีร้านขายของสำหรับสัตว์ใหญ่อย่างช้างและยีราฟ
- การเลือกให้สัตว์แต่ละประเภทได้มีอาชีพตามความบุคลิกนิสัย พวกสัตว์ดุร้ายอย่างเสือ สิงห์ กระทิง แรด ก็มาเป็นตำรวจ กระต่ายอย่างจูดี้ ฮอปป์ เลยกลายเป็นสายพันธุ์แปลกปลอมในสถานีตำรวจ ในขณะที่กระต่ายทั่วไปจะอยู่นอกเมืองทำฟาร์มแครอท สัตว์เจ้าเล่ห์อย่างจิ้งจอกเลยเป็นพวกต้มตุ๋น สัตว์จำพวกหนูก็เป็นพนักงานออฟฟิศทำงานตามกิจวัตร และทำให้ทุกตัวมีมุมน่ารัก ๆ ออกมาได้ แม้กระทั่งควายป่าอย่างหัวหน้าโบโกก็ยังแอบน่ารัก ที่คนดูน่าจะประทับใจเป็นพิเศษก็ชีต้าตุ้ยนุ้ยอย่าง คลอว์เฮาเซอร์ที่รับหน้าที่เป็นตำรวจแผนกต้อนรับ ที่โผล่มาแล้วเรียกเสียงฮาได้ทั้งโรงคือ Yax ตัวจามรีจอมซกมกแมลงวันตอม ส่วนผมชอบ มิสเตอร์บิ๊ก ที่ถอดแคแรคเตอร์มาเฟียอิตาลีในหนังแก๊งสเตอร์มาได้เป๊ะมาก มีขนคิ้วยาว ๆ หนา ๆ แต่เสียงเล็ก ๆ
- ชอบการปูภูมิหลังของตัวละครหลักทั้งจูดี้ ฮอปป์ และนิค ไวลด์ ให้รับรู้ว่าทั้งคู่ต่างมีเรื่องราวฝังใจในอดีตที่คล้ายกัน ซึ่งส่งผลต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ค่อย ๆ ผูกพันกันจนกลายมาเป็นคู่หูที่สนิทและเข้าใจกัน
- ชอบการใส่รายละเอียดในตัวละครจูดี้ ฮอปป์ ให้เป็นกระต่ายที่ฉลาดและมีไหวพริบในการแก้ไขสถานการณ์และเอาตัวรอดได้ในหลาย ๆ ครั้ง ทำให้รู้สึกได้ว่า จูดี้ เป็นตำรวจที่เก่งได้จริง ๆ และสมควรแล้วที่บอสในดิสนีย์สั่งแก้เรื่องกระทันหันให้ จูดี้ ฮอปป์ เป็นตัวละครหลักจากเดิมที่เป็นนิค ไวลด์ พอแก้เรื่องก็เลยวุ่นวายทำให้ดิสนีย์ต้องใช้ผู้กำกับถึง 3 คนมาช่วยกันในเรื่องนี้
- ข้อคิดมากมายที่ใส่เข้ามาอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้สึกยัดเยียดหรือต้องตีความ ทั้งเรื่องความแตกต่างของชาติพันธุ์แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขได้ ความมานะพยายามสามารถเป็นผลให้ประสบความสำเร็จได้ อย่างความพยายามของจูดี้ ฮอปป์ที่เอาชนะข้อจำกัดที่เป็นสัตว์เล็กก็เป็นตำรวจได้ หรือการไม่ตัดสินใครเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอก สัตว์ร้ายก็อาจจะไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป เป็นหนังที่พาลูกหลานมาดู แล้วเราสามารถดึงข้อคิดดี ๆ มาแนะนำเด็ก ๆ ไปตามเนื้อหาของหนังได้
- ชอบเนื้อหาของเรื่อง ที่ใส่คดีสืบสวนมาเป็นเส้นเรื่องหลัก ทำให้ผู้ใหญ่ก็ดูสนุกแล้วชวนลุ้นชวนคิดไปกับหนังได้ แล้วเรื่องราวของหนังที่มีการสืบสวนก็ไม่ใช่คดีหน่อมแน้มแบบหนังการ์ตูนเสียด้วย เรื่องราวลึกลับซับซ้อนไปเผยตัวผู้อยู่เบื้องหลังกันเอาเกือบนาทีสุดท้ายเลย
ตลอดเรื่อง จะได้เห็นไอเดียสร้างสรรค์ของทีมงานใส่ลูกเล่นไว้ตรงนั้นตรงนี้เต็มไปหมด มุกในหนังก็แพรวพราว ไม่ได้มีแค่มุกสลอตที่เห็นในตัวอย่างเท่านั้น ยังมีมุกในระดับฮาแรง ๆ อีกเยอะ แต่ก็ยังมีซีนดราม่ามาแซมอีกหน่อย หนังใช้บริการดารามาพากย์เสียงเพียบทั้ง ดาราออสการ์อย่าง เจ.เค. ซิมมอนส์ และ อ๊อคตาเวีย สเปนเซอร์ แล้วยังมี บอนนี่ ฮันต์ , เจสัน เบตแมน , ไอดริส เอลบา , ชาคิร่า มาพากย์เสียงด้วยร้องเพลงประกอบด้วย โดยรวมส่งให้หนังประสบความสำเร็จอย่างสูง ดิสนีย์เลือกเปิดฉายนอกอเมริกาก่อน บ้านเราฉายก่อนอเมริกาอาทิตย์นึง รายได้ทั่วโลกตอนนี้แตะ 100 ล้านแล้ว เป็นหนังที่ควรค่ากับการเสียเงินสละเวลาออกไปดูครับ ได้ความสุขกลับมาแน่นอน