‘อันโตนีโอ สตากีอาโน’ (Antonio Staglianò) บิชอปแห่งสังฆมณฑลนิกายโรมันคาธอลิกแคว้นซิซิลี (Sicily) ประเทศอิตาลี ออกมาขอโทษต่อผู้ปกครองของเด็ก ๆ และประชาชนหลังจากที่ตนได้กล่าวแสดงความคิดเห็นกับเด็ก ๆ ว่าซานตาคลอสที่เด็ก ๆ ทั่วโลกต่างรับรู้ว่าเป็นชายชราใส่ชุดสีแดง ที่มีหน้าที่มอบของขวัญแก่เด็ก ๆ ในวันคริสต์มาสนั้นไม่มีอยู่จริง และเป็นเพียงภาพลักษณ์ของบริโภคนิยม
สำนักข่าวท้องถิ่น ‘il Quotidiano del Sud’ ได้รายงานเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา บิชอป ‘อันโตนีโอ สตากีอาโน’ บิชอปแห่งสังฆมณฑลนิกายโรมันคาธอลิกโนโต (Noto Cathedral) แห่งเมืองโนโต (Noto) แคว้นซิซิลี (Sicily) ประเทศอิตาลี วัย 62 ปี ได้เผยแพร่คำแถลงการณ์ขออภัยต่อผู้ปกครองและประชาชน ที่ได้กล่าวถ้อยความว่า “ซานตาคลอสไม่มีอยู่จริง” ต่อเด็ก ๆ และผู้ปกครองที่กำลังเที่ยวชมงานวันเฉลิมฉลองนักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Day) เมื่อวันที่ 5-6 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อรำลึกถึงนักบุญนิโคลัส (Saint Nicholas) ผู้เป็นต้นกำเนิดตำนานซานตาคลอสตัวจริงที่มึีชีวิตอยู่ในสมัยศตวรรษที่ 3 และ 4 (ชมเรื่องราวต้นกำเนิดเทศกาลคริสต์มาสได้ที่คลิปท้ายบทความ)
ตัวอย่างถ้อยความที่บิชอปได้กล่าวถึงซานตาคลอสเช่นว่า “ซานตาคลอสเป็นเพียงตัวละครในจินตนาการ ไม่มีชายชุดแดงที่มอบของขวัญให้อย่างอัศจรรย์ใด ๆ เสื้อคลุมสีแดงที่เขาใส่ มันก็มาจากโฆษณาน้ำอัดลม ‘Coca-Cola’ เพื่อสื่อถึงว่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้นเอง เมื่อซานตาคลอสดื่มน้ำอัดลม ทุกอย่างก็ตกต่ำลงเรื่อย ๆ “
‘จูเลียนา สการ์นาโต’ (Giuliana Scarnato) หนึ่งในคุณครูที่พาเด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 9 ขวบไปทัศนศึกษาในงานวันเฉลิมฉลองนักบุญนิโคลัสเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมเผยกับสื่อว่า “บิชอปได้กล่าวว่า พวกเธอจะทิ้งซานตาคลอส (ในจินตนาการ) ทิ้งไปเสียก็ได้” ก่อนที่จะชี้ไปยังรูปซานตาคลอสและกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากที่เขาไม่เคยมีอยู่จริง”
เด็กคนหนึ่งได้ยกมือกล่าวแย้งกับบิชอปว่า พ่อแม่ของเธอบอกกับเธอว่ามั่นใจว่าซานตาคลอสมีจริง ก่อนที่บิชอปจะตอบกลับว่า “ถ้าอย่างนั้น เธอควรบอกกับพ่อแม่ของเธอว่า นั่นเป็นเรื่องโกหก”
หลังจากที่สิ่งที่บิชอปพูดได้แพร่หลายในสื่อออนไลน์ได้ทำให้ผู้ปกครองหลาย ๆ คนต่างตำหนิการแสดงความคิดเห็นที่ดูเหมือนจะสุดโต่งของบิชอป บางคนกล่าวว่า การพูดเช่นนี้ก็เหมือนเป็นการทำลายการเฉลิมฉลองของครอบครัว และทำลายความฝันและจินตนาการของเด็ก ๆ หลายส่วนกล่าวตำหนิว่า บิชอปเป็นตัวแทนของคนที่ไม่เข้าใจอะไรในเรื่องของครอบครัว เด็ก และการศึกษาเอาเสียเลย
‘อะเลสซานโดร ปาโอลิโน’ (Alessandro Paolino) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของสังฆมณฑลโนโต ได้ออกแถลงการณ์ขออภัยผู้ปกครอง มีเนื้อความว่า “ก่อนอื่นใด ในนามของบิชอป ข้าพเจ้าของแสดงความเสียใจต่อถ้อยความประกาศนี้ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่เด็กน้อย ๆ อันที่จริงแล้ว บิชอปสตากีอาโนไม่ได้มีเจตนาที่หมายความตามที่เข้าใจกันเลย”
“แน่นอนว่า เราไม่ต้องการทำลายจินตนาการของเด็ก ๆ เจตนามีเพียงแค่อยากจะถ่ายทอดตัวอย่างที่ส่งผลดีต่อชีวิต ซานตาคลอสคือตัวอย่างที่ดีที่สื่อถึงการให้ ความเอื้ออาทร การแบ่งปัน แต่เมื่อภาพเหล่านี้หมดความหมายลง คุณจะเห็นซานตาคลอสเพียงแค่ในนามของลัทธิบริโภคนิยม ความใคร่ปรารถนาที่อยากจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ต้องการจะซื้อ ซื้อ และก็ซื้ออีก เราจึงต้องตีความสิ่งนี้ใหม่ด้วยการให้ความหมายใหม่กับมัน”
บิชอปสตากีอาโน ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ‘La Repubblica’ ของอิตาลีว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้บอกพวกเขาว่าซานตาคลอสไม่มีอยู่จริง แต่เราต้องคุยกันเพื่อแยกแยะให้ได้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คริสต์มาสไม่ได้เป็นของชาวคริสต์อีกต่อไปแล้ว แต่ถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟและการชอปปิง วัฒนธรรมของการบริโภคได้บดบังความหมายที่แท้จริงของเทศกาลแห่งการให้ และการประสูติของพระกุมารเยซู ที่หมายถึงการอุทิศตนให้กับมวลมนุษยชาติไปเสียแล้ว”
และบิชอปยังได้แสดงความคิดเห็นว่า “ซานตาคลอสนำของขวัญมาให้เฉพาะกับคนมีเงินเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กซนหรือเด็กดี” เขาเพิ่มเติมว่า เขาได้ค้นพบจากการไปเยี่ยมครอบครัวคนยากจนและผู้อพยพในเทศกาลคริสต์มาสว่า เด็ก ๆ เหล่านั้นไม่เคยพบเห็นซานตาคลอสมาก่อนเลยในชีวิต เขาจึงอยากกระตุ้นให้เด็ก ๆ ขอของขวัญจากซานตาคลอสให้มากขึ้น และถ้าได้เจอซานตาคลอส ให้เด็ก ๆ บอกกับเขาไปเลยว่า เขาสามารถไปเยี่ยมมอบของขวัญให้กับเด็กยากจนได้
บิชอปได้กล่าวว่า เขาไม่ได้จะต้องการทำลายจินตนาการของเด็ก ๆ และได้เล่าเสริมว่า เขาได้เล่าเรื่องให้เด็กอายุ 7 ปีคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในโบสถ์ฟังว่า ตอนที่บิชอปอายุได้ 4 ขวบ เขาได้เขียนจดหมายขอเงินจากซานตาคลอส และวางไว้ใต้จานอาหารมื้อค่ำของพ่อ และเมื่อตื่นนอน เขาได้พบซองจดหมายที่มีเงินซุกอยู่ใต้หมอน ซึ่งเด็กอายุ 7 ขวบคนนั้นก็รู้ดีไม่ต่างจากเขาเลย
บิชอปกล่าวกับเด็กคนนั้นว่า “พ่อรู้มาตลอดว่า พ่อของพ่อนี่แหละคือซานตาคลอสที่แท้จริง”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส