ในปีนี้ HONNE (ฮอนน์) คู่ดูโออิเล็กโทรนิกโซลป๊อปจากเกาะอังกฤษ (ที่ชื่อวงมาจากภาษาญี่ปุ่น “ฮนเนะ” มีความหมายว่า “ความรู้สึกที่แท้จริง) เจมส์ แฮตเชอร์ (James Hatcher) และ แอนดี คลัตเตอร์บัค (Andy Clutterbuck) ได้กลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อยาวแต่ชวนคิดตามว่า ‘‘LET’S JUST SAY THE WORLD ENDED A WEEK FROM NOW, WHAT WOULD YOU DO?” กับหลากบทเพลงในท่วงทำนองหลากหลายทั้งละมุนสดใส อ่อนหวานไพเราะ และสนุกสนาน
HONNE จะมาเล่าให้พวกเราฟังถึงการทำงานในอัลบั้มชุดล่าสุดนี้ และแง่มุมที่น่ารัก ๆ ที่พวกเขามีต่อกันและกัน รวมไปถึงความสำคัญของครอบครัวและชีวิต
แนวคิดเบื้องหลังในการทำอัลบั้ม ‘‘LET’S JUST SAY THE WORLD ENDED A WEEK FROM NOW, WHAT WOULD YOU DO?” คืออะไร
ANDY : ครับแนวคิดเบื้องหลังในการทำอัลบั้มนี้ก็คือ มันเริ่มที่ประโยค ๆ นึงนั่นคือ “Let’s just say the world ended a week from now, what would you do?” และจากนั้นมันก็กลายมาเป็นชื่ออัลบั้ม ซึ่งมันเป็นเหมือนการสมมติถึงเหตุการณ์ว่าถ้าวันหนึ่งโลกจะถึงการอวสานจริง ๆ และใครคือคนที่คุณจะใช้เวลาอยู่ด้วยในโมเมนต์นั้น และใครที่จะอยู่รอบตัวคุณในสถานการณ์แบบนั้นในช่วง 2-3 วันสุดท้ายของชีวิต ดังนั้นอัลบั้มนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองต่อคนเหล่านั้นและทั้งหมดนี้ก็ถูกสรุปไว้ในหนึ่งบรรทัดครับ
เหมือน HONNE จะทำการทดลองแนวทางที่แตกต่างกันในแต่ละอัลบั้มของคุณ สำหรับอัลบั้มนี้อะไรคือสิ่งที่ HONNE กำลังทดลองอยู่
JAMES : ในอัลบั้มนี้เราพยายามที่จะขจัดความกังวลในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เพราะที่ผ่านมาเราค่อนข้างจำกัดและควบคุมตัวเองว่าเพลงของเราจะไปจบลงที่ไหนและเราจะพัฒนาเพลงของเราไปในทิศทางใด แต่คราวนี้เราทำมันในแบบที่ว่าถ้าเรารู้สึกพอใจกับมันและถึงจุดที่เราคิดว่ามันสุดแล้วเราก็จะปล่อยให้มันเป็นไปในแบบนั้น อย่างในเพลง ‘Back On Top’ ถ้าคุณได้ฟังจะเห็นว่ามันค่อย ๆ ไล่อารมณ์ขึ้นไปทีละนิด ๆ และทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ซึ่งจะเห็นได้เลยว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงไปจากแนวทางเดิม ๆ ที่เราเคยทำ คราวนี้มันฟังดูสว่างขึ้น ใหญ่ขึ้นและมันเป็นเพลงที่มีพลังงานสูง
พวกคุณมีใครเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงในอัลบั้มนี้
ANDY : คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราก็คือครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเราครับ พวกเรารักผู้คนที่อยู่รอบตัวเราและพวกเขาก็มอบแรงบันดาลใจให้กับเราเสมอ และเราก็เขียนเพลงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราหรือผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา เพลงของพวกเรามักมักจะเกิดจากแรงบันดาลใจในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรานั่นเอง
ในตอนที่พวกคุณแต่งเพลงสำหรับอัลบั้มนี้อะไรคือความคิดที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการแต่งเพลงพวกนี้
ANDY : ในบางครั้งมันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้ที่เราพบว่าเรามีสิ่งที่สามารถทำได้น้อยลงไป ๆ ทุกทีและมีโอกาสไปพบกับแรงบันดาลใจข้างนอกได้น้อยลง แต่เราก็พยายามที่จะเขียนเพลงออกมาและเดินไปข้างหน้า ด้วยการเขียนเพลงเกี่ยวกับความรักและสิ่งต่าง ๆ ในมุมมองด้านบวก ถึงแม้ว่าจะมีเพลงบางเพลงที่มันมีอารมณ์เศร้าอยู่บ้างแต่อย่างไรก็ตามมันก็จะมีจุดพลิกผันในเพลงที่พามันไปในทางบวกเสมอ ซึ่งเรารู้ว่าเราจะเขียนมันออกมายังไงและมันก็เป็นไปโดยธรรมชาติครับ
คุณรู้สึกยังไงกับการได้ร่วมงานกับศิลปินใหม่ ๆ ในอัลบั้มนี้ และพวกเขาช่วยเติมแต่งงานของ HONNE ยังไงบ้าง
JAMES : โอ้ มันสนุกมากเลยครับ และศิลปินที่มาร่วมงานกับเราในอัลบั้มทั้งก่อนหน้านี้และอัลบั้มนี้ก็เป็นเพื่อน ๆ ศิลปินที่เราได้พูดคุยติดต่อด้วยตลอดช่วงเวลาที่เราได้ทำเพลงกันมา อย่างเช่น Khalid และเรารู้สึกดีมากเลย ที่มีเสียงร้องอันยอดเยี่ยมของพวกเขาในเพลงของเราและบางครั้งพวกเขาก็มาช่วยเราแต่งเพลงในบางท่อนซึ่งมันมหัศจรรย์มาก อย่างเช่น Pink Sweat$ ที่ในตอนแรกพวกเราชวนเขามาร้องด้วยกันซึ่งเราแต่งมันไว้เสร็จแล้ว แต่เขากลับบอกเราว่า ‘ไม่พวก, ผมไม่อยากร้องแบบนี้’ แล้วเขาก็เลยแต่งท่อนนั้นใหม่และพาเพลงของเราไปในทิศทางที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงและทำให้มันเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกสดใหม่และน่าตื่นเต้นมาก ๆ และมันได้กลายเป็นส่วนผสมใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับพวกเราทั้งการได้เสียงร้องที่สดใหม่และไอเดียใหม่ ๆ อยู่ในเพลงของเรา
การได้เห็นพวกคุณยืนกอดกันในหน้าปกอัลบั้ม มันทำให้รู้สึกว่าพวกคุณคือส่วนผสมที่เพอร์เฟกต์พวกคุณมีวิธีการทำเพลงร่วมกันยังไงและพวกคุณได้เรียนรู้อะไรจากกันและกันบ้าง
ANDY : เราทำงานร่วมกันได้ดีและเจมส์ก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์และเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ และเขาก็ขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ ไปในทิศทางที่ดีมาก ๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมจึงทำมันอยู่แต่ผมก็ยังอยู่ตรงนี้
JAMES : โอ้ไม่ นายก็ยอดเยี่ยมมากเพื่อน ในส่วนของผม ด้วยเพราะผมไม่ได้เขียนเนื้อเพลงเพราะฉะนั้นเวลาที่ผมมานั่งอยู่ในห้องด้วยกันกับแอนดีผมก็ชอบพูดแทรกขึ้นมา ส่วนแอนดีเขาจะเป็นคนที่ทำหน้าที่เขียนเนื้อร้องทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราเลยมักจะแยกกันทำในส่วนของตัวเอง แอนดีก็จะได้มีเวลาของตัวเองในการเขียนเพลงและจะได้ไม่ต้องรีบร้อนในการทำมันให้ดีจะได้ไม่มีสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกกดดัน และใช่ครับเราได้เรียนรู้กันเยอะมาก เราได้เรียนรู้ในทุกสิ่งที่เราได้ทำมันร่วมกันเพราะว่าแอนดีเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมได้รู้จักตอนเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่เราอายุ 18 เราได้เรียนรู้การทำเพลงด้วยกัน เราได้พัฒนาเสียงของวง HONNE ด้วยกัน และเราก็ซื้อเครื่องดนตรีเหมือน ๆ กันแทบจะตัวติดกันตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นมันก็เลยแทบจะไม่มีอะไรที่เราไม่ได้เรียนรู้จากกันและกัน และยิ่งไปกว่าการได้เรียนรู้ด้วยกัน มันก็คือการได้ร่วมแบ่งปันไอเดียได้แบ่งปันความชอบของกันและกัน ได้ทดลองทำในสิ่งนั้นสิ่งนี้ ท่อนนี้ใส่เสียงซินธ์ดีมั้ย ท่อนนี้ทำแบบนี้ดีมั้ย นายลองทำอันนี้ใน Ableton แล้วรึยัง นายน่าจะลองทำดูนะ เราต่างช่วยกันและกันในการเป็นนักดนตรีและโปรดิวเซอร์ที่ดีขึ้นครับ
นี่ก็ใกล้จะสิ้นปีแล้ว อะไรคือบทเรียนที่สำคัญที่สุดที่พวกคุณได้เรียนรู้ในปีนี้
ANDY : บทเรียนสำคัญที่สุดที่ผมได้เรียนรู้ในปีนี้ก็คือ ‘จงรู้สึกขอบคุณ’ ในสิ่งที่คุณมีไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือสิ่งที่เรียบง่าย เล็กน้อยต่าง ๆ ในชีวิตของคุณ และแน่นอนมันไม่ใช่เรื่องของทรัพย์สินเงินทอง แต่มันเป็นเรื่องของการได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนที่คุณรักและนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเราเลย
JAMES : ใช่ครับและนี่ก็คือสิ่งที่เป็น ‘ความสุข’
อยากรู้จังเลยว่า “ถ้าโลกนี้จะถึงการสิ้นสุดลงในอีกสัปดาห์ข้างหน้า พวกคุณจะทำอะไร ?”
JAMES : คำตอบผมมันอาจจะฟังดูน่าเบื่อนะครับ (หัวเราะ) แต่พวกเราเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก เพราะฉะนั้นเราก็จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของเราในย่านชนบทของอังกฤษ ผมจะทำแบบนั้นและผมก็รู้เลยว่าแอนดีก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน เราจะกลับบ้าน และทานข้าวมื้อใหญ่ที่ลงมือทำเองด้วยกันมีทั้งไก่ย่าง เนื้ออบ หรือแกะ หรืออะไรก็แล้วแต่ และเราก็จะนั่งล้อมวงกับครอบครัว เรามีความสุขมากในเวลาที่ได้ทานอะไรด้วยกัน ได้ดื่มเครื่องดื่มดี ๆ ด้วยกัน ได้พูดคุยและเฝ้ามองโลกใบนี้ในแบบที่มันเป็น
ANDY : และหลังจากเราได้ทำแบบนี้เราก็จะเดินทางมาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อมาแสดงคอนเสิร์ตของเรา และเราจะพาครอบครัวของเรามาด้วย ให้พวกเขาได้เห็นเวทีแสดงของพวกเรา และพ่อของผมก็จะไปเซิร์ฟในฝูงชนหน้าเวทีที่ประเทศไทย (หัวเราะ)
โอ้ฟังแล้วอยากให้พวกคุณมาแสดงคอนเสิร์ตที่ไทยไว ๆ จังเลย พวกคุณมีอะไรอยากบอกกับแฟน ๆ ชาวไทยมั้ย
ANDY : ‘ขอบคุณครับ’ (แอนดีพูดเป็นภาษาไทย) พวกเราคิดถึงพวกคุณมาก ๆ เลยและพวกเราก็ได้มีช่วงเวลาที่มันสนุกมาก ๆ ตอนที่เราได้มาเล่นที่ไทย ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์มากและเราแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้กลับมาเล่นอีกครั้ง และเราหวังว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นในปี 2022 ที่ใกล้จะมาถึงนี้
ANDY, JAMES : เพราะฉะนั้นตอนนี้ขอให้ดูแลตัวเองให้ดีเพราะเรากำลังจะไปหาพวกคุณแน่ ๆ รักษาสุขภาพ ขอให้ปลอดภัยและเจอกันครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส