‘Spider-Man: No Way Home’ ได้เข้าฉายสุดสัปดาห์แรก โดยทำรายได้ในสหรัฐฯ ไป 253 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 8,460 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติรายได้เปิดตัวในสหรัฐฯ สูงสุดตลอดกาล ตามหลัง ‘Avengers: Endgame’ (2019) และ ‘Avengers: Infinity War’ (2018) ที่ทำไป 858 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 28,700 ล้านบาท และ 679 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 22,700 ล้านบาท หลังจากที่ ‘Spider-Man: No Way Home’ ทำรายได้เปิดตัววันแรกสูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 2 ไปแล้ว ตามหลัง ‘Avengers: Endgame’ เช่นกัน
นอกจากนี้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ยังสามารถทำรายได้เปิดตัวทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลเป็นลำดับที่ 3 อีกด้วย โดยทำไปได้ทั่วโลกสูงถึง 587 ล้านหรียญ หรือประมาณ 19,700 ล้านบาท
‘Spider-Man: No Way Home’ ได้เข้าฉายรอบพรีเมียร์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2021 โดยเป็นภาพยนตร์จบไตรภาค ‘Spider-Man’ ของ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ในเฟสที่ 4 ของแฟรนไชส์ Marvel Cinematic Universe (MCU) ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแฟรนไชส์นี้ที่จะเน้นเรื่อง Multiverse อย่างจริงจัง โดยได้นำตัวร้ายมากมายในภาพยนตร์ ‘Spider-Man’ เวอร์ชันอื่น ๆ ท้ั้ง Green Goblin, Doc Ock, Sandman, Lizard และ Electro
นอกจากนี้ เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ประธานของ Marvel Studios ยังได้ยืนยันว่าจะเดินหน้าสร้าง ‘Spider-Man’ ภาคต่อไปแล้ว ซึ่งทำให้แฟน ๆ คาดหวังความยิ่งใหญ่ของไตรภาคใหม่ของ ‘Spider-Man’ ในอนาคตต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส