เว็บไซต์ Deadline ได้รายงานว่า ‘Spider-Man: No Way Home’ ทำรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านเหรียญ ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 1,050 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 35,100 ล้านบาท จากการฉายเพียง 12 วัน จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท
นั่นได้ส่งผลทำให้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ขึ้นเป็นภาพยนตร์ของ Sony Pictures ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 2 ตามหลัง ‘Spider-Man: Far From Home’ (2019) ที่ทำไว้ 1,130 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 37,800 ล้านบาท
นี่ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในช่วงการระบาดของ COVID-19 ที่สามารถทำรายได้ถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังมิได้เข้าฉายที่ประเทศจีนเลยด้วย
นอกจากนี้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ยังกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ เร็วที่สุดลำดับที่ 2 รองจาก ‘Avengers: Endgame’ (2019) ที่ทำเอาไว้เพียง 6 วันอีกด้วย
‘Spider-Man: No Way Home’ เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมทั่วโลกตั้งความหวังเอาไว้สูงมากจากตอนจบของ ‘Spider-Man: Far From Home’ ที่ปล่อยให้ผู้ชมอารมณ์ค้าง อยากรู้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินอย่างไรต่อไป และทีมผู้สร้างก็ใส่ไอเดียของ Multiverse เข้ามา ทำให้ภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ในเฟสที่ 4 ของจักรวาล MCU (Marvel Cinematic Universe) นี้ กลายเป็นหมุดหมายเริ่มต้นของวิกฤติ Multiverse ที่จะส่งผลต่อภาพยนตร์และซีรีส์เรื่องถัดไปในจักรวาล MCU ต่อไปด้วย
ข่้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส